ผมไปดูรถแล้วไปจองรถมา 5,000 บาท ราคารถ 550000
ผมขอจัดไฟแนนซ์ 500000 บาท ไฟแนนเช็คผ่าน ที่ 460000 บาท
ซึ่งผมจะไม่มีเงิน ดาวแน่นอน
ผมถามว่า ถ้าผมไม่เอา จะทำยังไงให้ได้ เงินค่าประกันคืน
เพราะยอดจัดไม่เป็นไปตามที่ตกลง อะครับ

ได้คืนครับ ถ้าไม่ได้บอกไปเลยว่าจะร้องเรียน (ขี้คร้านพวกรีบคืนเป็นแถว ไม่เชื่อลองดูดิ)

ก่อนวางมัดจำได้ตกลงกะเต้นท์ไว้ก่อนไหมอ่ะครับ เช่นยอดจัดไม่ถึงนี้เราไม่เอา ดาวน์ไม่ไหวคืนเงินจองไรพวกนี้ เพราะผมเคยเจอเคสคล้ายๆกัน แต่ของผมพ่อไปวางมัดจำไว้จองไว้ก่อนรถให้ผมมาดรถ แต่ผมมาดูแล้วไม่ชอบ มันก้คืนเงินจองให้ หรือจะเก็บไว้ใช้กะคันอื่นก็ว่าไปครับ ลองคุยกะเต้นท์ก่อนครับ

เต้นเขาบอกว่าเขาต้องเสียค่าจัดไห้กับไฟแนนซ์อีก

ค่าประเมินไม่กี่บาทหรอกครับ

ค่าประกันนี่มันประกันอะไรอ่ะครับ ถ้าการกู้ยังไม่เกิดจะเสียค่าประกันได้ยังไง ถ้าเป็นค่าเสียเวลา ค่าประเมิน 1000 บาทก็หรูแล้วครับ ไม่งั้นก็บอกมันเดี๋ยวไปแจ้ง ตร ให้มาช่วยเคลียร์

หรือ มี อีก อย่าง กู้ city bank ดอก1.1 มา 50000 บาท เพื่อที่จะพอมีเงินดาว
พวกท่านคิดว่ามันดีไหมครับ

เค้าบอกไว้ที่ 50000 บาท แต่แรกนี่ครับ

ถ้ามันไม่เป็นตามนั้นก็เอาเงินคืนด้วยเหตุที่ว่าไม่เป็นไปตามข้อตกลงสิครับ

ต้องคืนเงินค่ามัดจำให้กับเราครบทุกบาททุกสตางค์ และหากยังได้รถอยู่ก็ตกลงกันใหม่ครับ ด้วยข้อตกลงใหม่

ตามพี่กล่าวมากันครับ ถ้าไม่เป็นไปตามข้อตกลงกันกับเต้นแล้วเราไม่มีกำลังจะเพิ่มเงินดาว ก็ต้องคืนเงินเราครับ ถ้าไม่คืน ก็หมายความว่าโกงนี่ เพราะ เต้น ไม่สามารถหา คนจัดตามที่ตกลงกันได้ ถ้าไม่คืนขู่ไปเลยครับ

เวลาจ่ายเงินค่า อะไรไป คุณได้ลงลายลักษอักษรใว้ไหม เขียนสัญญา จองหรือมัดจำใว้ไหมใว้ไหม ? แล้วตกลงกันใว้อย่างไร ตอนที่ คุณจ่ายเงิน จองหรือมัดจำ ซื้อรถเต้นท์ หรือซื้อขายกันเองครับ โทรมาคุยดีกว่า จะอธิบายให้ฟัง อย่างเข้าใจง่ายๆ

ต้องได้คืนสิคับ เพราะค่ามัดจำ เค้าจะยึดได้ก้อต่อเมื่อ เราเปลี่ยนใจไม่ซื้อรถเค้าเท่านั้นแหละครับ

แต่กรณีนี้ ไฟแนน จัดให้เราได้ไม่ถึง ยอด ทำให้เราไม่สามารถ ซื้อได้ เค้าก้อต้องคืนค่ามัดจำเรามาครับ


ปล. แนะนำว่า อย่าไปกู้บัตรเครดิตมาจ่ายเรยครับ รถมีให้เราเลือกอีกหลายคันครับ ใจเย็นๆดีกว่าคับ
เผลอๆ เด๋วเต้นท์มันก้อ หาทางจัดให้เราจนได้เองแหละครับ อิอิ

ค่าจัด ค่าประเมินของไฟแนนซ์ หรือแล้วแต่เต๊นท์จะเรียกนั้น
ขอแจ้งเลยนะครับว่า ไฟแนนท์ไม่มีเรียกเก็บนะครับ ส่วนใหญ่เต๊นจะเรียกเก็บเองแล้วอ้างไฟแนนซน่ะครับ
ถ้าพนักงานเรียกเก็บ ถือว่ามีความผิดครับ แจ้งเต๊นท์ได้เลยครับ ว่าโทรเช็คจากไฟแนนซ์แล้ว ไม่มีแน่นอนครับ
เพื่อนๆในคลับเราทำงานไฟแนนซ์กันหลายคนครับ เดี๋ยวก็มาครับ
...................................................................เอ๋ครับ

เต๊นท์เรียกเก็บครับ.....
และต้องมีใบเสร็จให้เราด้วย เอาใบเสร็จไปขอเงินคืนจากเต็นท์ได้เลยครับ


รถรุ่นไหนครับนี่ แพง แต่ ไฟแนนซ์จัดได้ต่ำมากอ่ะ

ตอนผมให้ไฟแนนซ์จัดให้แทบไม่ต้องดาวน์ก็ได้....

ของธนชาตินะครับ

ได้คืนครับ

กรณีจัดไฟแนนซ์ ไม่ผ่านต้ิองคืนเงินจองครับ ไม่ยอมก็เอา สคบ..ไปขู่ดู

อธิบายแบบไม่เข้าข้างใครนะเอากลางๆ ไปคิดกันเองนะครับ
1. กรณีจะซื้อรถมือสอง เช็คยอดจัดว่าจัดได้เท่าไหร่ แค่คุณเดินไปที่ไฟแนนซ์ หรือโทรถามก่อนเลยว่ายอดจัดรถรุ่นนี้ ปีนี้ ได้ประมาณเท่าไหร่? เลือกยี่ห้อเลย จะเอาทิสโก้ ธนชาติ ฯลฯ
2. ไฟแนนซ์จะถามคุณว่า คุณมีรายได้ประมาณเท่าไหร่ และมีผ่อนอะไรอยู่มั๊ย มีบัตรเครดิตมั๊ย มีโน้นมีนี้ ที่อยู่ในกรุงเทพฯ หรือ ต่างจังหวัด
3. ไฟแนนซ์จะประเมินเบื้องต้นที่คาดว่าจะจัดได้ประมาณเท่าไหร่ ?
4. ไฟแนนซ์จะนัดถ่ายรูปรถ และนัดเซ็นสัญญา ถ้าเป็นเต้นท์รถ ต้องให้ไฟแนนซ์ของเต้นท์เข้าดำเนินการ เพราะ เค้าต้องมีการเปิดหัวเพื่อขอรับค่าคอม และเป็นธุรกิจของเค้า
5. วันที่เซ็นต์คุณจะทราบยอดจัด คราวๆ หากใครบอกว่าจัดได้ชัวร์เลยทันทียอดเท่าโน้นเท่านี้ แปลว่ามันมั่ว แค่คาดคะเนเฉยๆ เพราะอย่าลืม เช็คเกอร์ยังไม่ได้เข้าตรวจสอบที่ทำงานคุณ ที่อยู่คุณ เครดิตคุณ ดังนั้น มันจะบอกได้แค่ความน่าจะเป็น มันยังไม่สามารถฟันธงอะไรได้ชัวร์ตามหลักการแล้ว
6. สมมุติ ธนาคารบอกรถคันนี้จัดได้ 500,000 แต่พอเช็คผู้กู้สรุป ติดเครดิตบาน หรือ ไม่ติด แต่เงินเดือนน้อยเกินเกณฑ์ หรือ ไม่มีคนค้ำ หรือคนค้ำหลักฐานการเงินไม่ดีพอ ก็อาจจะโดนลดยอดจัด ตามระเบียบไฟแนนซ์ครับ

***วิธีป้องกันที่ดีคือ เช็คซะก่อนว่ารถรุ่นคันนี้ มันจัดได้เท่าไหร่ เอาจากปากไฟแนนซ์เป็นหลักก่อน จากนั้น ทำสัญญากับผู้ขาย ว่าถ้าจัดไฟแนนซ์ไม่ผ่านในยอดประมาณ xxx,xxx หรือ จัดไม่ผ่านเลย ผู้ขายต้องคืนเงินจองทั้งหมด หรือยอมให้หักเท่าไหร่ ก็แล้วแต่ตกลงกัน เพราะอย่าลืม ไฟแนนซ์เค้ารับเรื่อง เค้าต้องส่งทีมไปเช็กเกอร์ที่อยู่ที่ทำงานคุณ วิ่งไปถ่ายรูปบ้าน ฯลฯ ส่วนใหญ่มักจะให้ค่าน้ำใจกัน 2,000 ดั้งนั้นจัดไม่ผ่านจริงๆ ก็เอาสัญญาเป็นหลักเท่านั้นล่ะครับ***

====****จงจำไว้ การจัดไฟแนนซ์ การขอยอดจากธนาคาร ขึ้นอยู่กับ รถยี่ห้อไร สีไร กลับสีเปลี่ยนเครื่องมามั๊ย ปีจดทะเบียน และปีแท้ โฉมรถ และเอกสารประจำรถชัดเจนไม่มีแจ้งชำรุดสูญหาย หรือล้างเล่มใหม่ ((((แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้เช่าซื้อ หรือผู้กู้เป็นหลัก ตย. เช่น รถจัดได้ 5 แสน แต่ผู้กู้ มีรายได้ 13,000 ขอให้ตาย ยอดก็ไม่ได้ครับ เพราะมันไม่เข้าเกณฑ์ ในเรื่องของรายได้ อาจจะถูกลดยอดเหลือ 280,000 ก็เป็นได้)))) ***ดังนั้นรู้จักตัวเอง และรอบครอบเมื่อเซ็นต์สัญญา คุณก็จะไม่เสียผลประโยชน์ของตัวคุณครับ***

ขู่ไปหน่อยๆ ทำท่าขึงขังจะเอาเงินคืน เดี๋ยวได้คืนเองครับ อาจมีหักบ้างเล็กน้อยๆ

อีกประการนะครับ จำไว้เลยว่า เงินมัดจำ - เงินชำระล่วงหน้า นั้นในทางกฏหมาย
เงื่อนไขการได้เสียต่างกัน ถ้าเกิดมีการวางมัดจำ ระหว่างผู้ซื้อ กับ ผู้ขาย ถ้าผู้ซื้อ
ผิดสัญญาเช่น วางมัดจำไว้เท่านี้บาท มาเอารถวันที่เท่านั้น จ่ายเงินส่วนที่เหลือ เท่านั้นบาท
แต่ถึงกำหนด แล้วไม่มาตามนัด ผู้ขายริบมัดจำ หรือเงินประกันได้ทันที ส่วนผู้ขายเปลี่ยนใจ
ไม่ขายตามสัยญา ต้องคืนเงินประกัน เงินมัดจำเช่นกัน 
อาจารย์ท่านนึง เคยแนะนำเรื่องแบบนี้ว่า ถ้าเป็นไปได้ อย่าใช้คำว่า "เงินมันจำ" ให้เปลี่ยนเป็น "เงินชำระล่วงหน้า" ลงในสัญญาแทน ซึ่งจะเป็นประโยชน์หากบอกเลิกสัญญาครับ