ES21_fatboy พิมพ์ว่า: |
ช่วงล่างเวลาขับจะมีความรู้สึกแตกต่างกันระหว่าง 1.7 และ 2.0 เนื่องจากมีความต่างบางประการ
เช่น พวงมาลัยพาวเวอร์ ถ้าของ 1.7 เป็นเพาเวอร์ไฮดรอลิก แต่ของ 2.0 นั้น จะเป็นเพาเวอร์ไฟฟ้า ส่วนค่า K สปริง ของ 2.0 จะแข็งกว่า 1.7 เนื่องจาก น้ำหนักตัวมากกว่าเล็กน้อย แต่ว่าโช้คอัพเป็นตัวเดียวกัน สำหรับยางจะมีขนาด ต่างกันเล็กน้อย ตัว 1.7 VTI AT ใช้ยาง 185/65-15 แต่ 2.0 จะใช้ยาง 195/60-15 สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาที่ตัว 2.0 มี แต่ตัว 1.7 ไม่มี คือ เหล็กค้ำตัวถังในห้องเครื่อง แต่ไม่ใช่ ค้ำโช้คนะครับ จะค้ำอยู่ระหว่างตัวถังซ้ายขวา แถวๆช่องว่างระหว่างเครื่องยนต์กับ ผนังห้องโดยสาร ซึ่งตัว 1.7 แม้จะไม่มีติดมาให้ ก็สามารถเบิก part ของ 2.0 ไปใส่ได้ ครับ จากที่ว่ามาทั้งหมด เวลาขับเทียบกัน แบบรถเดิมๆทั้งคู่ จะทำให้รู้สึกว่า 2.0 มั่นคงกว่า ตัว 1.7 อยู่เล็กน้อย สิ่งที่ต่างกันอื่นๆที่เห็นได้ชัดก็จะมีเรื่อง แผงหน้าปัทท์ คอนโซลกลาง และคิ้วประตูด้านใน ตัว 2.0 เป็น ลายเคฟลาร์ ต่างจากตัว 1.7 นอกจากนี้ภายในเป็นสีดำ เบาะหนังรู เป็น หนังแท้ ผสมหนังเทียม มีประดับโครเมี่ยมตามแผงเกียร์คันเกียร์ ฯลฯ นอกจากนี้สีตัวถังของ 2.0 2004 จะมี 5 สี คือ น้ำเงิน วิวิดบลู, แดง มิลาโน, ดำ ไนท์ฮอว์ค,เทาอะไรสักอย่างเนี่ยแหละเรียกมะถูก และทอง เหมือนแอคคอร์ดซึ่งต่างจากสีทองของ 1.7 เกียร์ AT ของ 2.0 มี 5 จังหวะเดินหน้า แต่ของ 1.7 เป็น 4 จังหวะเดินหน้า แต่อย่างไรก็ดี ใช้ตัว 2.0 แล้วก็จะหงุดหงิดเล็กน้อยถ้าชอบเปลี่ยนเกียร์เอง เพราะไม่สามารถ Lock เกียร์ ไว้ที่เกียร์ 4 ได้ เนื่องจากพอเลื่อนตำแหน่งคันเกียร์ไว้ที่ D ก็จะเป็น ออโต้ 5 จังหวะตามปกติ แต่พอดึงลงมา 1 จังหวะ กลับกลายเป็น D3 ซะงั้น แต่อย่างไรก็ดี ใช้แค่เกียร์ D แล้ว สั่งงาน ด้วยคันเร่งเอา ก็ตอบสนองความต้องการเร่งได้ดีครับ การเปลี่ยนเกียร์ลงมาทำได้เหมาะสม ฉับไว ตรงความต้องการ นอกจากนี้ เกียร์ 5 ทดไว้ต่ำมาก จนทำให้ความเร็วสูงสุดจะทำได้ ในเกียร์ 4 เท่านั้น โดยให้กดคันเร่งจมพื้นไว้ตลอด เพื่อไม่ให้เกียร์เปลี่ยนขึ้นเป็นเกียร์ 5 จะ ได้ความเร็วสูงสุด ที่ 212 กม./ชม. ที่ 6,100 รอบต่อนาที แต่พอผ่อนคันเร่งลงมา เกียร์จะ เปลี่ยนเป็นเกียร์ 5 ให้ แล้วความเร็วจะตกลง ตีนปลายในเกียร์ 5 ทำได้แค่ 200 กม./ชม. (เฉพาะใส่ยางเดิมๆ) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. จากการทดสอบ ตัว 2.0 A/T ทำได้ 10.6 วินาที ตัว 1.7 A/T ทำได้ 11.8 วินาที อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย-ใช้งานใน กทม. ตัว 2.0 A/T ทำได้ 8-9 กม./ลิตร ตัว 1.7 A/T ทำได้ 10-11 กม./ลิตร เรื่องการบำรุงรักษา ก็ตัว 2.0 จะไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันพาวเวอร์ เพราะเป็นพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า เมื่อครบแสนโล ก็ไม่ต้องเปลี่ยนสายพานราวลิ้น หรือ สายพานไทมมิ่งเพราะใช้ โซ่ เป็นตัวขับแทน อะไหล่ อื่นๆ ก็ใช้ร่วมกับ 1.7 ได้ เกียร์ก็ได้รับการปรับปรุงมาแล้ว ถ้าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 40,000 และ ไม่เปลี่ยนจังหวะเกียร์เอง ก็ใช้งานกันได้นานจนลืมเลยครับ ตรงนี้ก็ทำให้ค่าใช้จ่ายน้อยลงกว่า ตัว 1.7 บ้างเหมือนกัน ส่วนที่ยังเหมือน 1.7 คือ เรื่องแอร์ ครับ ก็คล้ายๆกับ 1.7 ต้องใส่ใจ ดูแลรักษาหาร้านดีๆทำก็จะลดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ พวกคลัทช์ คอมฯแอร์ เสื่อม สาย Hi Pressure ที่อยู่ด้านหลังหม้อน้ำมักจะรั่ว เพราะรับลมร้อนจากหม้อน้ำตลอด แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร รวมๆใช้งานมาตั้งแต่ปี 2004 ก็รู้สึกว่าพอใจครับ ไม่จุกจิก ถือว่าทนทานดีทีเดียว สำหรับ เครื่องยนต์และเกียร์ ลองดูครับ นึกออกแค่เนี้ยอ่าครับ ยังงัย รอพี่ๆเพื่อนๆท่านอื่นมาเพิ่มเติมให้อีกทีละกันนะครับ |
Kaka ' พิมพ์ว่า: | ||
แค่นี้ก็กระจ่างแล้วล่ะครับพี่เอก - |
ไปที่: |