srithanon พิมพ์ว่า: |
ไปตัดแค็ตเตอไรท์ติคคอนเวอร์เตอร์มา ก็มักจะมีปัญหาไปรูปเครื่องยนต์โชว์ เพราะว่าตัวอ๊อกซิเจนเซ็นเซอร์ที่ติดหลังท่อแค็ท จะเป็นเป็นแบบวายแบนด์ จะทำหน้าที่ตรวจจับปริมาณอ็อกซิเจนที่หลงเหลือในระบบการเผาไหม้ในกรบอกสูบ ที่มีการจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ โดยมีออ๊กซิเจนเซ็นเซอร์ตัวแรกที่ติดที่ท่อเข้าควายเป็นแบบหยาบๆไม่ละเอียด เป็นด่านแรก เมื่อไอเสียไหลผ่านมาที่ท่อแค็ตเตอไรท์ติค ซึ่งมีอุณหภูมิความร้อนสะสมในตัวแค็ทประมาณ 800 องศา เพื่อมาผ่านขั้นตอนทางฟิสิกส์ เพื่อกำจัดแกสพิษพวก CO คาร์บอนมอนนอ๊กไซด์และพวกไฮโดรคาร์บอนด์ HC
เนื่องจากการทำงานของตัว O2 sensor ที่ติดตั้งหลังท่อแค็ท ต้องการความร้อนสูงเพื่อให้การทำงานของตัวมันที่ให้ประสิทธิภาพ ในการตรวจจับปริมาณอ็อกซิเจนที่หลงเหลือในขบวนการที่สองอย่างละเอียด เมื่อใดก็ตามที่ช่างเอาตัวแค็ทตัดออกไป ทำให้อากาศไอเสียผ่านได้สดวก ทำให้ความร้อนในท่อไอเสียที่เคยมีอุณหภูมิสูง กลับถูกระบายออกอย่างรวดเร็ว เป็นผลให้การทำงานตรวจจับปริมาณอ๊อกซเจนของตัวเซ็นเซอร์ตัวที่สอง ทำงานผิดพลาด ทำให้ไฟรูปเครื่องยนต์ติด ถามว่ามีผลอะไรกับเครื่องยนต์ มีแน่นอน จะทำให้ O2 sensor ทำงานผิดพลาดในการส่งค่าโวลเต็จที่ได้จากการตรวจจับปริมาณอ็อกซิเจนที่ผิดไปจากเดิม ไปให้ ECU ควบคู่กับค่าโวลเต็จที่ได้จากตัวอ๊อกซิเจนเซ็นเซอร์ตัวแรก ปกติช่างที่ทำท่อไอเสียมักจะไม่คำนึงถึงเรื่องนี้ บางที่ก็แก้ไขให้สามารถใช้งานได้โดยการทำท่อพักเสริม ตามวิธีการของแต่ละช่าง บางที่ก็ไม่แก้ไขให้ ในกรณีที่ไฟรูปเครื่องยนต์ติด เพราะตัดแค็ทออก จะทำให้การจ่ายปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงไม่พอดีในอัตราส่วนผสม อาจจะทำให้เครื่องยนต์กินน้ำมันเพิ่มขึ้น เพราะมีส่วนผสมหนา แต่รถมีกำลังในรอบเครื่องยนต์สูงๆ(ความเร็วสูงๆ) แต่ไม่เป็นผลดีกับรอบเครื่องยนต์ปานกลางจนึงรอบเดินเบา รอบเดินเบาตกลงจากเดิม เพราะอัตราส่วนผสมไม่สมบูรณ์ในการจุดระเบิด ทางที่ดีควรติดตั้งในระบบเดิม หากไม่ใช่นักขับรถซิ่ง เครื่องยนต์จะได้ทำงานได้ถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพกับการใช้งานรถในสภาวะปกติ ทำให้ประหยัดน้ำมัน และไม่สร่างมลภาวะเป็นพิษของไอเสีย ที่ไม่ได้ใช้ท่อแค็ท.....srithanon |
srithanon พิมพ์ว่า: |
ไปตัดแค็ตเตอไรท์ติคคอนเวอร์เตอร์มา ก็มักจะมีปัญหาไปรูปเครื่องยนต์โชว์ เพราะว่าตัวอ๊อกซิเจนเซ็นเซอร์ที่ติดหลังท่อแค็ท จะเป็นเป็นแบบวายแบนด์ จะทำหน้าที่ตรวจจับปริมาณอ็อกซิเจนที่หลงเหลือในระบบการเผาไหม้ในกรบอกสูบ ที่มีการจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ โดยมีออ๊กซิเจนเซ็นเซอร์ตัวแรกที่ติดที่ท่อเข้าควายเป็นแบบหยาบๆไม่ละเอียด เป็นด่านแรก เมื่อไอเสียไหลผ่านมาที่ท่อแค็ตเตอไรท์ติค ซึ่งมีอุณหภูมิความร้อนสะสมในตัวแค็ทประมาณ 800 องศา เพื่อมาผ่านขั้นตอนทางฟิสิกส์ เพื่อกำจัดแกสพิษพวก CO คาร์บอนมอนนอ๊กไซด์และพวกไฮโดรคาร์บอนด์ HC ทำใหมีอ๊อกซิเจนหลงเหลือเด่นชัดในกรณีที่มีการจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ในอัตราส่วนผสม เป็นผลให้อ๊อกซิเจนตัวที่สองนี้ตรวจจับได้ละเอียดเพิ่มขึ้นกว่าตัวแรก ซึ่งมีคาร์บอนด์มอนนอ๊คไซด์และไฮโดรคาร์บอนด์ผสมอยู่
เนื่องจากการทำงานของตัว O2 sensor ที่ติดตั้งหลังท่อแค็ท ต้องการความร้อนสูงเพื่อให้การทำงานของตัวมันที่ให้ประสิทธิภาพ ในการตรวจจับปริมาณอ็อกซิเจนที่หลงเหลือในขบวนการที่สองอย่างละเอียด เมื่อใดก็ตามที่ช่างเอาตัวแค็ทตัดออกไป ทำให้อากาศไอเสียผ่านได้สดวก ทำให้ความร้อนในท่อไอเสียที่เคยมีอุณหภูมิสูง กลับถูกระบายออกอย่างรวดเร็ว เป็นผลให้การทำงานตรวจจับปริมาณอ๊อกซเจนของตัวเซ็นเซอร์ตัวที่สอง ทำงานผิดพลาด ทำให้ไฟรูปเครื่องยนต์ติด ถามว่ามีผลอะไรกับเครื่องยนต์ มีแน่นอน จะทำให้ O2 sensor ทำงานผิดพลาดในการส่งค่าโวลเต็จที่ได้จากการตรวจจับปริมาณอ็อกซิเจนที่ผิดไปจากเดิม ไปให้ ECU ควบคู่กับค่าโวลเต็จที่ได้จากตัวอ๊อกซิเจนเซ็นเซอร์ตัวแรก ปกติช่างที่ทำท่อไอเสียมักจะไม่คำนึงถึงเรื่องนี้ บางที่ก็แก้ไขให้สามารถใช้งานได้โดยการทำท่อพักเสริม ตามวิธีการของแต่ละช่าง บางที่ก็ไม่แก้ไขให้ ในกรณีที่ไฟรูปเครื่องยนต์ติด เพราะตัดแค็ทออก จะทำให้การจ่ายปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงไม่พอดีในอัตราส่วนผสม อาจจะทำให้เครื่องยนต์กินน้ำมันเพิ่มขึ้น เพราะมีส่วนผสมหนา แต่รถมีกำลังในรอบเครื่องยนต์สูงๆ(ความเร็วสูงๆ) แต่ไม่เป็นผลดีกับรอบเครื่องยนต์ปานกลางจนึงรอบเดินเบา รอบเดินเบาตกลงจากเดิม เพราะอัตราส่วนผสมไม่สมบูรณ์ในการจุดระเบิด ทางที่ดีควรติดตั้งในระบบเดิม หากไม่ใช่นักขับรถซิ่ง เครื่องยนต์จะได้ทำงานได้ถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพกับการใช้งานรถในสภาวะปกติ ทำให้ประหยัดน้ำมัน และไม่สร่างมลภาวะเป็นพิษของไอเสีย ที่ไม่ได้ใช้ท่อแค็ท.....srithanon |
ไปที่: |