เผื่อใครยังไม่ทราบ
เอามาฝากครับ อาหารสมอง

Attached File :

รับทราบคาบ

ขอบคุณครับ

...

ปริ้นแปะไว้หน้ารถเลย 

..

...

ข้อมูลดีๆๆขอบคุนครับ

ข้อมูลสุดยอดเลยครับ

..นสพ.ฉบับวันที่เท่าไรเหรอครับ

thank ka

..

รูปขวา

วรรคที่สอง

"หรือรถยนต์ที่แล่นช้ากว่าคันอื่น"

ต่อให้คุณวิ่ง 200 กม/ ชม ถ้ามีรถคันอื่นที่วิ่งเร็วกว่าคุณก็ต้องหลบเข้าซ้าย

ปล.การที่มีรถปาดซ้ายมุดขวา มีสาเหตุมาจากรถที่ช้ากว่าแช่ขวา

เป็นไปได้ก็เข้าซ้ายเถอะครับ

ด้วยความเคารพ

ไม่เคยรู้มาก่อนเลยพอแซงได้ก็ลงซ้ายเลย....เวลาเที่ยว ตจว

เคยโดนคับถนนมิตรภาพ เข้าโคราช ห้ามวิ่งขวายาว พอโดนโบกก็เอ๋อไปเลย คิดในใจทำถนน 2 เลนแต่ให้วิ่งซ้าย เป็นรัยมากป่าว

ปริ๊นไว้เลย ตำรวจเรียกยื่นให้มันอ่าน 555
 

+1

แจ่มแจ้งเลยคับ

มันอาจจะรอดแต่อาจจะเสียเวลาเป็นชั่วโมง

ตำรวจพวกนี้   พูดดีๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องครับ ...  
มันต้อง แจกกกก...............   ใบแดงงงงงงง.......

รับรองเดินหนีจากเราไปด้วย  ความเซ็ง... (เรานะเซ็ง)..อิอิ
 

เวลาโดนเรียก ไม่ค่อยกล้าเถียงอ่ะ....กลัวเค้าเรื่องมาก เดี๋ยวยาวอีก

มีประโยชน์มากครับ
เอา พ.ร.บ.ใน มาตรา 34-35 ฉบับเต็มให้พิจารณาอ่านดูและตีความครับ

มาตรา 34 ในการใช้ทางเดินรถที่ได้จัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียว กันไว้ตั้งแต่สองช่องขึ้นไป หรือที่ได้จัดช่องเดินรถประจำทางไว้ในช่องเดิน รถซ้ายสุด ผู้ขับขี่ต้องขับรถในช่องซ้ายสุดหรือใกล้กับช่องเดินรถประจำทาง เว้นแต่ในกรณีต่อไปนี้ ให้เดินทางขวาของทางเดินรถได้
 (1) ในช่องเดินรถนั้นมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร
 (2) ทางเดินรถนั้นเจ้าพนักงานจราจรกำหนดให้เป็นทางเดินรถทางเดียว
 (3) จะต้องเข้าช่องทางให้ถูกต้องเมื่อเข้าบริเวณใกล้ทางร่วมทางแยก
 (4) เมื่อจะแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น
 (5) เมื่อผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่ารถในช่องเดินรถด้านซ้าย
 *หมายเหตุ มาตรา นี้ได้มีการเพิ่มเติมเข้าไปโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ข้อความใหม่เข้าไปโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4)พ.ศ.2535 ใน มาตรา 6 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 109 ตอนที่ 39 หน้า 44 วันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2535 
 

มาตรา 35 รถที่มีความเร็วช้าหรือรถที่มีความเร็วต่ำกว่าความเร็วของ รถคันอื่นที่ขับในทิศทางเดียวกัน ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ใกล้ขอบทางเดินรถ ด้านซ้ายเท่าที่จะกระทำได้
 ผู้ขับขี่รถบรรทุก รถบรรทุกคนโดยสาร รถจักรยานยนต์ในทางเดินรถ ซึ่งได้แบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่สองช่องขึ้นไป หรือได้จัดช่อง ทางเดินรถประจำทางด้านซ้ายไว้โดยเฉพาะ ต้องขับรถในช่องเดินรถด้าน ซ้ายสุดหรือใกล้เคียงกับช่องเดินรถประจำทางแล้วแต่กรณี
 ความในวรรคสองมิให้ใช้บังคับแก่รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีน้ำหนักไม่ เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัม และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน ตามกฎหมาย ว่าด้วยรถยนต์
 *หมายเหตุ มาตรา นี้ความเดิมได้ถูกยกเลิกไป และมีการเพิ่มเติมข้อความ ใหม่เข้าไปโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2535 ใน มาตรา 3 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 103 ตอนที่ 180 ลงวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2529

เครดิต : http://www.kodmhai.com/m4/m4-4/H9/m31-43-4.html

..

 และรถเรา นน. เท่าไรกันเนี่ย 

พึ่งเจอมาเทื่อวานนี้ครับ สภ.เมืองปทุม เรื่องมีอยู่ว่ารถผมวิ่งขวามาแล้วจู่ๆมีรถเก๋งยาริสสีดำ(ไม่ขอบอกทะเบียนนะคับ)วิ่งออกมาจากซอยซ้ายมือแล้วก้อวิ่งเข้าเลนขวาเฉยเรยโดยไม่มองรถผมเรยผมบีบแตรและกระพริบไฟเพื่อให้หลบกลับวิ่งปาดมาซะงั้น ผมเบรกพร้อมหักหลบรถเสียหลักหมุนไปฟาดกับรถเก๋งที่จอดอยู่ ผลตกลงไปข้างทางทั้งคู่ ส่วนยาริสวิ่งไปเฉยเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น พลเมืองดีมาช่วยผมออกจากรถ และวิ่งข้ามไปสกัดรถยาริสต้นเหตุที่ไปกลับรถมาไว้จากนั้นร้อยเวรมาและให้ไปที่โรงพักและได้แจ้งข้อหากับผมว่า ผมประมาทไม่มองรถข้างหน้า รู้ว่าเค้าปาดทำไมไม่ระวังอ้าวแร้วทีมันออกมาทำไมมันไม่มอง มีข้อกฏหมายนี้ดัวยหรอขับรถไม่ระวังรถที่จะปาด แร้วมีอีกตร.บอกผมว่าผมไม่ได้ชนเค้าผมเรยเอาผิดเค้าไม่ได้ถ้าผมชนเค้าผมจะเป็นฝ่ายถูก ผมเรยถามตร.ร้อยเวรว่าถ้าผมถูกแร้วไอ้ยาริสผิดข้อหาอะไร ร้อยเวรบอกว่าประมาทเพราะขับปาดหน้าผม อ้าวแร้วหยั่งนี้ผมเรยถามอีกว่าถ้าผมเจอปาดอีกผมชนเรยจะผิดไหม ร้อยเวรบอกไม่ผิดเพราะเค้าขับรถปาดหน้าเรา