ตอบ
newcolor


เข้าร่วม: 10 กรกฎา 2010
ตอบ: 989

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 2374
ให้คำขอบคุณ: 3894
ศุกร์, 13 กันยา 2013 07:06 - เห็นว่าดีเลยเอามาให้อ่านกันครับ
เรื่องนี้น่าสนใจ อ่านแล้วดีมาก ๆ อ่านให้จบนะคะ เสียเวลาเพียง 3 นาทีเอง
สำหรับคนที่เป็นพ่อแม่ กำลังจะเป็น และคนที่เป็นลูก

เรื่องนี้ไว้สอนสำหรับคนเป็นพ่อแม่โดยเฉพาะ อ่านแล้วค่อยให้ลูกๆอ่านต่อ

ในระหว่างทานข้าวกลางวัน วนิดาซึ่งเป็นซีอีโอ
ถามกิตติผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งที่รายงานตรงต่อเธอว่า
“ กิตติ พี่สังเกตว่าคุณไม่เคยปิดมือถือเลย แม้กระทั่งเวลาประชุม
แล้วพี่ก็เห็นคุณขอตัวออกไปจากที่ประชุมกลางคันเพื่อรับโทรศัพท์
พี่อยากรู้ว่าเป็นโทรศัพท์ของใครหรือ ทำไมมันสำคัญขนาดรอจนจบประชุมไม่ได้ พี่เห็นเป็นประจำเลยนะ ”
กิตติมีท่าทีอึดอัด เขาตอบว่า
“ ไม่มีอะไรหรอกครับ เรื่องส่วนตัวนะครับ ผมขอโทษ ”
วนิดายิ้มแบบผู้ใหญ่ใจดี เธอเงียบไปสักครู่จึงพูดต่อ
“ กิตติ เราสองคนทำงานด้วยกันมาพอสมควร
คิดว่าพี่เป็นพี่สาวของคุณก็ละกัน เพราะพี่อายุมากกว่าคุณสองสามปี
มีอะไรก็เล่าสู่กันฟังซิคะ เผื่อว่าพี่อาจจะแนะนำอะไรให้ได้บ้าง ”
วนิดาเลือกใช้แนวทางพี่น้อง แทนที่เธอจะตำหนิเขาโดยตรง
ในเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในที่ประชุมแบบเจ้านายกับลูกน้อง
วิธีนี้ได้ผล! กิตติสารภาพออกมาแบบกระอักกระอ่วน
“ ก็...คือว่า...พี่อย่าโกรธผมนะครับ มันเป็นโทรศัพท์มาจากลูกสาวผมเอง
เธอเพิ่งไปเรียนไฮสคูลที่ออสเตรเลียเมื่อไม่กี่เดือน
โรงเรียนที่ลูกสาวผมเรียนนี้ค่อนข้างจะเข้มงวด แถมมีการบ้านจมเลย
ตอนลูกสาวผมเรียนที่นี่ ผมช่วยติวและทำการบ้านร่วมกับเธอบ่อยๆ
ลูกคนเดียวเธอคือดวงใจของผมเลยครับ ผมบอกเธอว่าไปอยู่นั่น
ติดขัดเรื่องการบ้านละก็โทรมาหาผมได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะเป็นเวลาใด
ผมจะคอยช่วยเหลือเธอผมไม่ต้องการเห็นเธอล้มเหลว
ตอนค่ำเมื่อกลับบ้านผมก็แทบจะไม่ได้พักผ่อน
แต่จะไปช่วยเธอทำการบ้านแล้วก็แฟ็กซ์ส่งไปเรื่องคณิตศาสตร์บ้าง
ภาษาอังกฤษบ้าง ผมอยากให้เธอประสบความสำเร็จ
ผมต้องขอโทษที่บริหารเวลาไม่ค่อยได้เรื่อง ”
กิตติจบเรื่องลงด้วยท่าทีละอายใจ วนิดาแสดงความเห็นใจ
“ เรื่องของคุณมันฟังแล้วคุ้นๆมากเลย พี่พอจะจินตนาการออก
ถึงความลำบากใจของเธอ พี่เองก็มีลูกสาวเรียนปริญญาโทอยู่ที่อเมริกา
พี่เคยทำแบบคุณเหมือนกัน เพราะลูกสาวพี่จบตรี แล้วไปต่อโทเลย
จึงไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน ดังนั้นพอทำกรณีศึกษาก็มักจะ
ไม่ทันเพื่อนเขา หรือไม่เข้าใจ แถมยังไม่กล้าถามอาจารย์อีก
พี่เลยต้องช่วยทำเคส แล้วก็อีเมล์ไปให้เธอ แต่ว่าตอนนี้พี่หยุดช่วยเธอแบบนั้นแล้วล่ะค่ะ ”
กิตติถามด้วยความประหลาดใจ
“ ทำไมล่ะครับ พี่ไม่รักเธอแล้วหรือ
หรือว่าพี่เห็นว่างานมีความสำคัญกว่าครอบครัวครับ ”
วนิดาตอบพร้อมกับยิ้มอย่างอารมณ์ดีว่า
“ พี่ยังรักลูก และเห็นคุณค่าของครอบครัวและงานเหมือนเดิม
พี่โชคดีที่มีเพื่อนชาวอเมริกันคนหนึ่ง เขาสังเกตเห็นวิธีที่พี่ช่วยลูกสาว
แล้ววันหนึ่งเขาก็ให้หนังสือเล่มหนึ่งชื่อ The Power of Failure
โดย Charles C. Manz และมีการแปลเป็นไทยในชื่อ วิกฤติคือโอกาส
โดยพสุมดี กุลมา เรียบเรียงโดย นราธิป นัยนา
เพื่อนอเมริกันเขาคั่นเรื่องๆหนึ่งให้พี่อ่านโดยเฉพาะเลย พี่จะเล่าให้เธอฟัง ”
........


มีชายคนหนึ่งนั่งมองผีเสื้อที่กำลังดิ้นรนจะออกจากรังไหม
เจ้าผีเสื้อดิ้นรนไปซักพัก จนกระทั่งใยรังไหมเริ่มขาดเป็นรูเล็กๆ
ชายคนนั้นมองด้วยความสนใจ เจ้าผีเสื้อดูเหมือนจะหยุดไป ที่จริงผีเสื้อมันพักเพื่อที่จะดิ้นรนต่อไป
แต่ว่าชายคนนั้นคิดไปเองว่าผีเสื้อคงติดใยรังไหม ไม่สามารถจะออกมาได้ด้วยตนเอง
ด้วยความหวังดี เขาจึงนำกรรไกรขนาดเล็กมาตัดใยรังไหมนั้น
ทำให้รูมันขยายใหญ่ขึ้น เจ้าผีเสื้อเห็นรูขยายใหญ่ขึ้นมันก็คลานต้วมเตี้ยมออกมา
แต่เขาสังเกตว่าตัวมันมีขนาดเล็กกว่าปกติ ปีกเหี่ยวย่น แถมลำตัวของเจ้าผีเสื้อก็มีลักษณะบวมผิดปกติ
กลายเป็นว่าในขณะที่ผีเสื้อต้องดิ้นรนออกแรงตะเกียกตะกาย
เพื่อพยายามจะดันตัวมันออกจากรังไหมนั้น
เป็นกระบวนการธรรมชาติที่จะกระตุ้นให้ของเหลวชนิดหนึ่ง
ที่อยู่ในลำตัวผีเสื้อเคลื่อนที่มาสู่ปีก เพื่อทำให้ปีกแข็งแรงเพียงพอจะบินได้
ด้วยความปรารถนาดีของชายคนนั้น
ผีเสื้อตัวนี้ปีกจึงเหี่ยวย่นไม่แข็งแรงเพียงพอจะบินได้
แถมยังมีรูปร่างพิกลพิการ เพราะของเหลวที่ควรจะอยู่ที่ปีก ดันไปติดคั่งค้างอยู่ที่ลำตัว
เจ้าผีเสื้อตัวนี้ออกจากใยมาได้ด้วยความสบาย
แต่ต้องพิกลพิการ และบินไม่ได้ไปชั่วชีวิตของมัน

.....
อุปสรรคและความล้มเหลวในชีวิตของคน ก็คล้ายๆกันกับสิ่งที่เจ้าผีเสื้อเผชิญ
ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ ความก้าวหน้าในชีวิต การพัฒนาทักษะ ความกล้าหาญ

ความมุ่งมั่น ล้วนแล้วแต่น่าสงสารและน่าเห็นใจ
แต่จะได้คุณค่ามาก็ด้วยการล้มเหลวอย่างถูกวิธี
เราจะคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต
โดยไม่มีความล้มเหลวนั้นเป็นไปไม่ได้
เมื่อเราเผชิญอุปสรรค แล้วเราหลีกเลี่ยงที่จะแก้ไขหรือต่อสู้กับมัน
เท่ากับว่าเรากำลังเสียโอกาสสำคัญในการเรียนรู้บทเรียนที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในชีวิตของคน
กิตติฟังด้วยความสนใจ “ โอ้โฮ เรื่องนี้จุดประกายน่าดูครับ แต่ผมกลัวว่าลูกผมจะเกลียดผมนะซีครับ ” วนิดาเสริมต่อ “ มีคำพูดที่ว่า 'No pain No gain' "ไม่เจ็บ ไม่ได้เรียนรู้" ที่จริงพวกเรานะผิดเองที่ป้อนลูกๆ เรามากไป
สำหรับกรณีของพี่ พี่อธิบายให้ลูกเขาเข้าใจด้วยการเล่าเรื่องนี้แหละ
หลังจากนั้น พี่ก็ขอโทษสำหรับการให้ความช่วยเหลือลูกแบบผิดๆในอดีต
ลูกๆ ของเราเขาฉลาดพอจะเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้นะ ...
กิตติ คุณลองมองไปรอบๆตัวเราสิ เรามีพนักงานที่มีความรู้ มาจากครอบครัวที่มีฐานะ หลายคนที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ พวกเขาไม่อดทนต่อปัญหาและอุปสรรค
คนที่ควรถูกตำหนิคือ พ่อแม่ของเขา คุณอยากถูกคนอื่นเขาต่อว่าแบบนี้ในอนาคตไหมล่ะ แถมลูกๆ ของเรายังอ่อนแอไม่สามารถจะฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคได้ .. ...คุณมีสิทธิ์เลือกนะ … "
เป็นข้อคิดที่ดี แต่พวกพี่่ๆท่านลูกโตหมดแล้ว ให้ลูกอ่านเตือนใจไว้สอนหลานละกัน
ได้รับคำขอบคุณจาก: Tiv  fasang.Mr  es330  neam62  sukhothai  Saka  neverplus  converse  csirinant  Kriss_es04  poh  cisco  noppon  luckratchada  kort999  Oyoyoo  Bik_ES01  fiattuta 
neam62


ชื่อเล่น: แหนม

เข้าร่วม: 18 กรกฎา 2013
ตอบ: 22

น้องใหม่
น้องใหม่

ได้รับคำขอบคุณ: 25
ให้คำขอบคุณ: 25

ปี: 2002
สี: ทอง ไทเทเนียม (เมทัลลิก) (YR-525M)
ศุกร์, 13 กันยา 2013 07:57 - เห็นว่าดีเลยเอามาให้อ่านกันครับ
 'No pain No gain' "ไม่เจ็บ ไม่ได้เรียนรู้"  สุดยอดมากครับ 
 
ได้รับคำขอบคุณจาก: poh 
neverplus


ชื่อเล่น: วิน

เข้าร่วม: 01 กรกฎา 2013
ตอบ: 1591

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1061
ให้คำขอบคุณ: 185

ที่อยู่: ประชาอุทิศ90-พระราม 9-รัชดา-สุทธิสาร
ปี: 2002
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
ศุกร์, 13 กันยา 2013 17:27 - เห็นว่าดีเลยเอามาให้อ่านกันครับ
เป็นบทความที่อ่านแล้ว มองย้อนถึงตัวเองเลย ขอบคุณครับ 
ได้รับคำขอบคุณจาก: poh 
converse


ชื่อเล่น: อ๊อบ

เข้าร่วม: 12 กรกฎา 2011
ตอบ: 101

มือใหม่หัดขับ
มือใหม่หัดขับ

ได้รับคำขอบคุณ: 162
ให้คำขอบคุณ: 964

ที่อยู่: @ Rayongcity @
ปี: 2002
สี: แดง แรลไล (R-513)
ศุกร์, 13 กันยา 2013 17:34 - เห็นว่าดีเลยเอามาให้อ่านกันครับ
ขอบคุณครับสำหรับบทความดีๆ
Kriss_es04


ชื่อเล่น: อ๊อด

เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1745

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1544
ให้คำขอบคุณ: 234

ที่อยู่: ดินแดง-แจ้งวัฒนะ-นนทบุรี-มหาชัย-พระราม2-กระทุ่มแบน-สามพราน
ปี: 2004
ศุกร์, 13 กันยา 2013 18:18 - เห็นว่าดีเลยเอามาให้อ่านกันครับ
เป็นเนื้อหาที่ดีมากครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: poh 
luckratchada


ชื่อเล่น: ลักษณ์

เข้าร่วม: 29 ธันวา 2011
ตอบ: 629

Guru ES
Guru ES

ได้รับคำขอบคุณ: 938
ให้คำขอบคุณ: 304

ที่อยู่: รัดาซอย3----ลาดพร้าว101
ปี: 2001
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
ศุกร์, 13 กันยา 2013 23:32 - เห็นว่าดีเลยเอามาให้อ่านกันครับ
ดีมากครับ
ake_es


ชื่อเล่น: เอก

เข้าร่วม: 01 มิถุนา 2009
ตอบ: 838

Guru ES
Guru ES

ได้รับคำขอบคุณ: 710
ให้คำขอบคุณ: 244

ที่อยู่: ดอนเมือง
เสาร์, 14 กันยา 2013 09:27 - เห็นว่าดีเลยเอามาให้อ่านกันครับ
ขอบคุณครับ
fiattuta


เข้าร่วม: 11 มกรา 2012
ตอบ: 41

น้องใหม่
น้องใหม่

ได้รับคำขอบคุณ: 42
ให้คำขอบคุณ: 46
เสาร์, 14 กันยา 2013 10:23 - เห็นว่าดีเลยเอามาให้อ่านกันครับ
ให้แง่คิดได้ดีมากเลยคับ
TIRL_ES


ชื่อเล่น: เติ้ล

เข้าร่วม: 26 ธันวา 2011
ตอบ: 539

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 280
ให้คำขอบคุณ: 176

ที่อยู่: กทม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน อิเทอนอล (B-96P)
อาทิตย์, 15 กันยา 2013 20:26 - เห็นว่าดีเลยเอามาให้อ่านกันครับ
ดีจัง
ตอบ
หน้า 1 จาก 1
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2025 Civic ES Group. All rights reserved.