ตอบ
srithanon


เข้าร่วม: 13 สิงหา 2009
ตอบ: 380

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 1324
ให้คำขอบคุณ: 4
อังคาร, 28 พฤษภาคม 2013 14:23 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
อยากเอาเนื้อหาของเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง อาจจะได้ข้อจริงว่าอะไรกันแน่ที่เป็นพลังงานหลัก ในระบบไฟของรถยนต์ หรือว่ามันทำงานร่วมกัน ลองอ่านดูนะครับ เนื้อความอาจจะยาวหน่อยแต่คิดว่าได้ประโยชน์มาก ที่ทำให้ทราบการทำงานของระบบทั้งส และขออภัยเพื่อนๆสมาชิกด้วย เพราะการตอบปัญหาและเนื้อหาที่นำมากล่าว จะเป็นกึ่งวิชาการ ทำให้เนื้อเรื่องมันยาว ขอบคุณครับ


ในเรื่องการทำงานของแบ็ตเตอรี่และไดน์ชาร์จ( Alternator) ว่าอะไรคือตัวที่จ่ายพลังงานกระแสไฟฟ้าในรถยนต์ทั้งหมดที่แท้จริง ไดน์ชาร์จหรือแบ็ตเตอรี่ ก็มีหลายๆท่านให้ความเห็นคิดต่าง ตามความเข้าใจของแต่ละท่าน ไม่ขอตอบว่าท่านใดตรงประเด็นและท่านใดไม่ตรงประเด็น แม้ในความคิดของผมเอง ก็พยายามทบทวนความเข้าใจตามตำรา ที่ท่านครูบาอาจารย์ท่านสั่งสอนมา จากท่านผู้ทรงความรู้ และในสื่อด้านวิชาการต่างๆ ก็ยังสับสนกับการทำความเข้าใจที่ท่องแท้ ว่าแท้จริงแล้ว ระหว่างแบ็ตเตอรี่ กับตัวไดน์ชาร์จ ตัวไหนทำการจ่ายพลังงานกระแสไฟฟ้าให้กับโหลดในรถยนต์ทั้งหมด บางท่านหรือแหล่งที่มาให้ข้อมูลก็มีความคิดต่างกัน บ้างก็บอกว่า ตัวไดน์ชาร์จ(Alternator) เป็นตัวจ่ายกระแสไฟทั้งหมดให้กับรถยนต์ และบอกว่าแบ็ตเตอรี่ เป็นเพียงพลังงานเสริม ยามที่ไดน์ชาร์จจ่ายไม่ทัน ไม่พอ แบ็ตก็จะเข้ามาเสริมให้กับระบบไฟในรถยนต์ บางท่านและบางแหล่งข้อมูล ก็บอกว่าไดน์ชาร์จมีไว้สำหรับชาร์จ หรือป้อนประจุไฟบวกให้กับแบ็ตเตอรี่ เก็บพลังงานในรูปของกระแสไฟ ให้แบ็ตเต็มไว้เสมอ เมื่อจ่ายออกก็ต้องหามาแทน โดยการชาร์จให้กระแสไฟเต็มตลอดเวลา เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของโหลดในรถยนต์


เมื่อเป็นดังนี้ ก็อยากจะมาถกปัญหา แชร์ประสบการณ์ทางความคิดและความรู้ มาวิเคราะห์กันว่า ความน่าจะเป็นควรจะเป็นอย่างไร ด้วยเหตุและผล ผิดบ้างถูกบ้างก็อย่าตำหนิ สิ่งไหนที่คิดว่าเป็นความรู้และถูกต้องตามหลักวิชาการ ก็รับเก็บเอาไว้ประดับความรู้ สิ่งไหนที่เห็นว่ามันยังแตกต่างขาดเหตุและผลน้อยไป ก็เก็บเอาไว้เปรียบเทียบกับข้อมูล ที่สามารถจะค้นคว้า ได้จากแหล่งเรียนรู้ ที่สมัยนี้โลกทางด้านวิทยาการ สามารถค้นคว้าได้ง่าย เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ก็ได้ข้อมูลที่อยากรู้ ความรู้ที่ได้จากตำราและครูบาอาจารย์ หากจะให้รู้แจ้งและเห็นจริง ก็ต้องทดลองและปฏิบัติควบคู่กันไปด้วย จึงจะสมบูรณ์


สำหรับผมแล้วก็ขอเอาความรู้แบบงูๆปลาๆ รูบ้างไม่รู้บ้าง มาออกความคิดเห็นต่างในเรื่องนี้บ้าง ว่าความคิดนี้ถูกต้องหรือไม่ และอย่างไร หากผิดพลาดหรือขาดความเข้าใจไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่ด้วย มาเข้าเนื้อหาของเรื่องนี้กันดีกว่า


ไดน์ชาร์จและแบ็ตเตอรี่ทำงานสัมพันธ์กันอย่างไรได้บ้าง ตามความรู้และเข้าใจของผมแบบพื้นๆทั่วไป เมื่อกล่าวถึงไดน์ชาร์จ ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า มีไว้สำหรับชาร์จ แบ็ตเตอรี่ ไม่ใช่บอกแบบกำปั้นทุบดิน เพราะหน้าที่ของมันก็คือการสร้างกระแสไฟหรือประจุกระแสไฟบวกให้กับแบ็ตเตอรี่ ที่ได้จาการทำงานของสนามแม่เหล็ก ของขดลวดโรเตอร์ ที่เหนี่ยวนำไปยังขดลวดสเตเตอร์ เกิดกระแสไหลในขดลวด ในรูปแบบของกระแสไฟ AC และนำกระแสไฟที่เป็นรูปสัญญาณ AC นี้ ไปทำการเร็คติฟลาย ให้เป็นไฟกระแสไฟตรง DC เพื่อนำไปชาร์ทให้กับแบ็ตเตอรี่


แต่เนื่องจากกระแสไฟที่ได้จากการเร็คติฟลาย ไม่เป็นกระแสไฟตรงแบบกระแสไฟ ที่ได้จาการเคลื่อนที่ของอีเลคตรอนประจุบวก ในทางฟิสิคส์เคมี ในการทำปฏิกริยาระหว่างแผ่นธาตุบวก และแผ่นธาตุลบ ในน้ำกรดกำมะถันเจือจางทางเคมี หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งว่า กระแสไฟที่ได้จากการแปลงพลังงานทางเคมีให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ที่ทำให้การเคลื่อนที่ของอีเลคตรอนประจุบวก เคลื่อนที่เป็นเส้นตรงตามผิวของตัวนำ ดังนั้นกระแสไฟที่ได้จากการเร็คติฟลายของ Diode ในไดน์ชาร์จ จึงไม่สามารถเป็นเส้นตรงราบเรียบเช่นกระแสไฟ DC ของแบ็เตอรี่ และยังมีส่วนของกระไฟที่มีลักษณะเป็น Ripple Voltage อันแสดงออกถึงความไม่เป็นเส้นตรงของลักษณะกระแสไฟ DC ที่เป็นคุณสมบัติของกระแสไฟที่ได้จากแบ็ตเตอรี่ และเป็นคุณสมบัติอันไม่พึงประสงค์ ในระบบวงจรไฟฟ้าทางอีเลคโทรนิคส์ เป็นผลที่ทำให้เกิดการรบกวนวงจรอีเลคโทรนิคส์ย่านความถี่ต่ำ เกิดเสียงฮัมในภาคขยายความถี่ต่ำ ของย่าน AF amplifier ของอุปกรณ์เครื่องเสียงวิทยุและเครื่อง Amplifier


ประการที่สำคัญ กระแสไฟที่ได้จากการ Generate ของไดน์ชาร์จ ไม่สามารถที่จะจ่ายพลังงานไฟฟ้าในรูปของกระแส ให้คงที่ได้ตลอดเวลา เมื่อมีการใช้กระแสไฟของรถยนต์มาก ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มการหมุนของทุ่นโรเตอรให้มีรอบความเร็วเพิ่มขึ้น โดยการเพิ่มความเร็วรอบของเครื่องยนต์ไปหมุนไดชาร์จ เพิ่อให้ทุ่นโรเตอร์หมุนด้วยความเร็วที่สูงขึ้น ทำให้เกิดเส้นแรงแม่เหล็กหรือสนามแม่เหล็ก เพิ่มขึ้นและเสริมทับกันมากๆ ยิ่งโรเตตอร์หมุนเร็วการเกิดเส้นแรงสนามมากขึ้น เมื่อสนามแม่เหล็กนี้ไปตัดกับขดลวดสเตเตอร์ ทำให้มีกระแสที่ไหลในเส้นลวดมากขึ้นตาม


เมื่อเป็นดังนี้ หากเราใช้รถที่ความเร็วต่ำ หรืออยู่ในตำแหน่งรอบเดินเบา มีการใช้กระแสไฟมาก เช่นในเวลากลางคืนหรือกลางวันเปิดแอร์ เปิดไฟหน้ารถ เปิดเครื่องเสียง ในจังหวะที่รถอยู่ในรอบเดินเบา มีการใช้กระแสไฟมาก ที่ตัวไดน์ชาร์จจะไม่สามารถผลิตกระแสไฟออกมาจ่ายให้กับโหลดที่ใช้กระแสไฟในขณะนั้น ไดน์ชาร์จจะผลิตกระแสได้ประมาณ 6-10 Amp เมื่อรอบเครื่องยนต์อยู่ในจังหวะรอบเดินเบา มันจึงมีกระแสไฟไม่พอจ่าย จึงเป็นภาระหน้าที่ ของแบ็ตเตอรี่ที่จะต้องจ่ายกระแสไฟไปแทนจากแบ็ตเตอรี่ (ความเข้าใจที่ผมคิดว่าผิด)


ในความเป็นจริงแล้วเรื่องของกระแสไฟฟ้า ที่เก็บพลังงานไฟฟ้าในรูปของกระแสไฟ เช่นแบ็ตเตอรี่ หากมีการเก็บพลังงานในรูปของกระแสยิ่งมาก ยิ่งมีแรงดันของกระแสมากขึ้นตาม และถ้าหากมีการใช้กระแสไฟฟ้าไปจ่ายให้กับโหลด มันจะดึงกระแสจากแหล่งเก็บพลังงานไฟฟ้าที่มีแรงดันของกระแสที่สูงกว่าไปใช้ มากกว่าที่มันจะไม่ดึงกระแสไฟจากตัวไดน์ชาร์ทไปใช้งานโดยตรง เพราะค่าแรงดันของกระแสไฟจากไดน์ชาร์จ มีน้อยแค่ 6-10 Amp เท่านั้น ในรอบเดินเบา เมื่อเทียบกับกระแสไฟที่ถูกชาร์จเก็บไว้ในหม้อแบ็ต 45-100 Amp


ในเรื่องตรงจุดนี้ ที่ใช้สนับสนุนว่า กระแสไฟจากไดน์ชาร์ท ถูกนำไปใช้น้อย กว่ากระแสที่มาจากแบ็ตเตอรี่ ก็คือให้เราหาแอมป์มิเตอร์ มาต่ออันดับระหว่างขั่ว B+ ของไดน์ชาร์จ กับขั่วบวกของแบ็ตเตอรี่(แอมป์มิเตอร์ตัวที่ 1) เพื่อเอาไว้อ่านค่ากระแสไฟชาร์จในรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ และก็ให้เอาแอมป์มิเตอร์ อีกตัวหนึ่ง มาต่ออันดับกับขั่วบวกของแบ็ตเตอรี่กับสายไฟทั้งหมดที่ต่อเข้าขั่วบวกกับแบ็ตเตอรี่( แอมป์มิเตอร์ตัวที่ 2) ที่เราเอาออกมาต่ออันดับกับแอมป์มิเตอร์ (แอมป์มิเตอร์ต้อง สามารถวัดกระแสได้อย่างน้อย 30 Amp )


จากนั้นให้ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ให้อยู่ในจังหวะรอบเดินเบา ให้ดูที่แอมป์มิเตอร์ตัวที่ 1 ว่ามีกระแสไหลผ่านกี่แอมป์ สมุติว่าอ่านได้ 10 แอมป์ ทีนี้ก็มาดูแอมป์มิเตอร์ ตัวที่ 2 ว่าขณะนี้อ่านได้กี่แอมป์ แล้วลองเปิดแอร์ เปิดอุปกรณ์ที่ใช่ไฟทั้งหมดในรถ ในระหว่างที่เปิดไฟในรถทีละจุดให้สังเกตที่แอมป์มิเตอร์ ตัวที่ 1 มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ จะพบว่าไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง แต่แอมป์มิเตอร์ตัวที่ 2 จะมีกระแสเพิ่มขึ้น สมมุติว่าเปิดไฟใช้กระแสทั้งหมดอ่านได้เท่ากับ 20 Amp


ช่วงนี้เราจะไม่ค่อยเห็นการเปลี่ยนแปลงที่แอมป์มิเตอร์ตัวที่ 1 เพราะกระแสไฟส่วนมากออกจากแบ็ตเตอรี่ ทำอย่างไรที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของกระแสที่ต่อจาก B+ ของไดน์ชาร์จ ไปที่ขั่วบวกแบ็ต ของแอมป์มิเตอร์ตัวที่ 1 ก็ต้องรอให้การใช้กระแสไฟจากแบ็ตจนเกือบจะถึงหรือต่ำกว่า 30 Amp ที่นี้เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของกระแสจากไดน์ชาร์จลดลง เพราะมีการจ่ายกระแสไปยังโหลดของระบบไฟทั้งหมด กระแสไฟที่มีการเอาออกไปใช้งาน หากมีการใช้งานในขณะนั้น เป็นครึ่งหนึ่งหรือ 50% ของกระแสไฟทั้งหมดในตัวแบ็ตเตอรี่ จะพบว่ามีแรงเคลื่อนโวลเต็จเริ่มลดลง


เมื่อแบ็ตเตอรี่มีโวลเต็จลดลง ทำให้ไฟโวลเต็จที่ต่อไปใช้ที่ตัวไดน์ชาร์จ ที่ขดลวดโรเตอร์ ลดลงไปด้วย การเกิดสนามแม่เหล็กที่ไปตัดกับขดลวดสเตเตอร์ ก็ต่ำลง กระแสไฟที่ได้จากขดลวดสเตเตอร์ก็ลดลง ประกอบกับโหลดมีการใช้กระแสมาก ในขณะที่กระแสในตัวแบ็ตเริ่มลดลงจนมีผลกับการใช้กระแสขณะนั้น โหลดจึงดึงกระแสจากไดน์ชาร์จมากขึ้น ในสภาวะเช่นนี้ในทางปฏิบัติ เราคงไม่สตาร์ทเครื่องยนต์จอดรถเปิดแอร์ไว้นานๆ ปกติทั่วไปก็ขับรถสลับกับความเร็วที่สูงและต่ำกันไป โดยมากรอบเครื่องยนต์จะอยู่ที่สองพันกว่ารอบขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่ไดน์ผลิตกระแสไฟออกมามาก 20-30 Amp มันก็จะชาร์จประจุไฟบวกให้กับแบ็ตเตอรี่จนเต็มในระยะเวลาอันสั้น เมื่อเต็มแล้ว ไดนชาร์จมันก็จะหยุดผลิตกระแสไฟออกมา โดยวงจรเร็คกูเรเตอร์ ที่มีวงจร reference current หรือ voltage compare คอนโทรลตัดต่อการจ่ายไฟเข้าขดโรเตอร์ของไดน์ชาร์จ เพื่อสร้างสนามแม่เหล็ก

จนกว่าการใช้กระแสไฟจากแบ็ตเตอรี่จะลดลงมา ณ. จุดๆหนึ่งตามที่เขาออกแบบกำหนดไว้ในวงจรเร็คกูเรเตอร์ว่า กระแสจากแบ็ตลงมากี่เปอร์เซ็นต์ แล้วจะทำให้ระบบคอนโทรลของวงจร ทำการจ่ายไฟให้กับขดลวดโรเตอร์ เริ่มสร้างสนามแม่เหล็ก ให้กับขดลวดสเตอร์ผลิตกระแสไฟออกมาชาร์ทให้กับแบ็ตเตอรี่ทำการชาร์จไฟให้กับแบ็ตเตอรี่ต่อ
ถามว่า ในระหว่างที่ไดน์ชาร์จหยุดการทำงานนี้ กระแสไฟที่จ่ายไปให้กับระบบไฟในรถยนต์ทั้งหมดมาจากไหน หากไม่ใช่จากแบ็ตแล้วจะเอาจากไหน ดังนั้นการที่มีผู้ทรงความรู้บอกว่า ไดน์ชาร์จ เป็นแหล่งจ่ายพลังงานหลักให้กับระบบไฟในรถทั้งหมด มันดูจะขัดกับหลักการที่ผมกล่าวมาทั้งหมด


การที่บอกว่าไดน์เป็นตัวจ่ายพลังงานหลักให้กับระบบไฟในรถยนต์ และแบ็ตเตอรี่เป็นเพียงแหล่งพลังงานเสริมช่วยในสภาวะไดน์ผลิตกระแสไม่พอ คำว่าพลังงานหลัก มันจะต้องจ่ายไฟได้เต็มตามสภาวะของโหลดได้เพียงพอและตลอดเวลา ไม่ใช่มีการเปลี่ยนแปลง พลังงานของกระแส ที่มีตัวแปรเรื่องรอบของเครื่องยนต์ และประการสำคัญ ไดน์ชาร์จ หากไม่มีไฟจากแบ็ตเตอรี่จ่ายให้ขดโรเตอร์ก่อน ไดน์ชาร์จก็ไม่สามารถทำงานได้ และอะไรคือพลังงานตัวจริงและเป็นพลังงานหลัก
ในระหว่างที่ไดน์ชาร์จหยุดทำงานจ่ายกระแสไฟ เนื่องจากกระแสไฟในแบ็ตเตอรี่เต็ม เพื่อป้องการ โอเวอร์ชาร์จ ที่จะสร้างความเสียหายให้กับแผ่นธาตุในโครงสร้างของแบ็ตเตอรี่ ในทางเคมี และการเกิดความร้อนในตัวแบ็ตเตอรี่ อันเป็นเหตุทำให้แบ็ตเตอรี่มีอายุการใช้งานสั้นลง


ถามว่า ในระหว่างที่ไดน์ชาร์จหยุดทำงาน อะไรคือแหล่งจ่ายพลังงานหลัก
ถามว่า การที่จะเกิดสนามแม่เหล็กเสริมมากขึ้น เพื่อสร้างกระแสไฟที่มากเพื่อจ่าย ให้กับโหลดและชาร์จให้แบ็ตเตอรี่ ยังคงต้องอาศัยเรื่องรอบเครื่องยนต์เป็นหลัก จะถือว่า เป็นพลังงานหลักได้ไหม?
ถามว่า หากกระแสไฟที่จ่ายให้กับวงจรไฟฟ้าในรถยนต์ ที่ต้องการไฟ DC กระแสตรง ที่ได้จาก พลังงานเคมี แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยการเคลื่อนที่ของอีเล็คตรอนบวก ในแนวเส้นตรงของกระแส กับกระแสไฟที่ได้จากการ เร็คติไฟน์ของวงจรไดโอด ในตัวไดน์ชาร์ท ที่มีกระแสไฟไม่เรียบ เหมือนกระแสไฟ DC มันขัดกับคุณสมบัติ ที่วงจรไฟฟ้าอีเลคโทรนิคส์ ที่ใช้ร่วมกับระบบไฟในรถยนต์ ต้องการไฟ DC กระแสตรง
ถามว่า ถ้าหากไดน์ชาร์ทมีไว้เป็นพลังงานหลัก ทำไมนักออกแบบดีไซน์ จึงไม่พัฒนา ระบบวงจรชาร์จเยอร์ ที่มีวงจรเร็คติไฟร์ แปลงไฟจาก AC เป็น DC ให้มีกระแสไฟตรงเช่นเดียวกับกระแสไฟที่ได้จากแบ็ตเตอรี่


มันต้องมีเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง และหนึ่งในเหตุผลนั้นก็คือต้องการพัลส์ของกระแสไฟที่ไม่เป็นเส้นตรงนี้ หรือกระแสไฟที่มี Ripple voltage ไปกระตุ้นเซลของตะกั่วซันเฟต ที่เป็นตะกอนสีขาวจับอยู่ที่แผ่นตะกั่วอ๊อกไซด์ขั่วบวกและลบของแบ็ตให้หลุดออกมาละลายกับน้ำ เกิดเป็นกรดกำมะถันจือจาง เพื่อให้เกิดขบวนการทางเคมี ในการประจุกระแสไฟได้ง่าย และนี้ก็คงเป็นเหตุผลหนึ่งในหลายๆเหตุผล


เรื่องพัลส์ของกระแสไฟที่มีผลต่อการทำปฏิกิริยาทางเคมี เคยมีผู้สร้างจรอีเลคโทรนิคส์ ที่มีการสร้างสัญญาณพัลส์ ไปกระตุ้นเซลตะกั่วซันเฟต ที่จับอยู่ที่แผ่นธาตุตะกั่วอ๊อกไซด์แผ่นตะกั่วขั่วลบ ให้หลุดออกมาทำปฏิกิริยากับน้ำ เป็นกรดกำมะถันเจือจาง ในแบ็ตเตอรี่ที่ทิ้งไว้นานๆโดยไม่ได้ชาร์จ และเสื่อม ให้กลับมาใช้งานได้ต่อไป มันก็เป็นเครื่องยืนยันนได้ส่วนหนึ่ง ที่ไดน์ชาร์จ ควรจะทำหน้าที่ชาร์จประจุให้กับแบ็ตเตอรี่เท่านั้น ถึงแม้บางท่านจะมีข้อคิดต่างมุมว่า ทำไมเวลาที่เครื่องยนต์ติดแล้วเอาขั่วลบแบ็ตออก แล้วเครื่องยนต์ยังติดและใช้งานได้


ที่เครื่องยนต์ติดใช้งานได้ ก็เพราะว่าระบบการทำงานของไดน์ชาร์จ จ่ายไฟออกมาแทนแบ็ตเตอรี่ แต่หากเครื่องยนต์มีโหลดการใช้กระแสไฟมาก และอยู่ในจังหวะรอบเดินเบา ไฟที่ออกมาจากไดน์ชาร์จ จะมีกระแสไฟไม่พอทำให้โวลเต็จตก จนระบบไฟจุดระเบิดไม่พอ เครื่องยนต์ก็ดับ และถามว่าหากการสตาร์ทเครื่องยนต์ในจังหวะนั้น โดยไม่มีไฟจากแบ็ตจ่ายไปยังมอเตอร์สตาร์ท แล้วอะไรคือพลังงานหลักในความคิดผม และอยากจะเห็นความคิดต่างมุมจากเพื่อนๆสมาชิกหรือท่านที่ทรงความรู้ ช่วยชี้แนะว่าที่แท้ควรจะเป็นอย่างไร ผมเองก็มีความเข้าใจบ้างแบบงูๆปลาๆ (แถมเป็ดไก่ให้ด้วยก็ได้) อาจจะไม่ทราบในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็ขอบอกและเป็นความคิดของผมว่า ไดน์ชาร์จและแบ็ตเตอรี่ มันก็คือองค์ประกอบที่ทำงานร่วมกัน ในระบบไฟฟ้ารถยนต์ครับ


เรื่องทั้งหมดที่นำมาสู่กันฟังนี้ เป็นเพียงให้ทราบว่าการทำงานของแหล่งกำเนิดไฟในรถยนต์ มันทำงานอย่างไร จะบอกว่าไดน์ชาร์จหรือระบบแบ็ตเตอรี่ เป็นพลังงานหลัก ตัวหนึ่งตัวไดไม่ได้ มันน่าจะตรงประเด็นมากกว่า ที่จะต้องทำงานร่วมกันทั้งคู่แบบปลาท่องโก๋ว่ามั๊ยครับ หวังว่ากระทู้คงทำให้เพื่อนๆสมาชิกได้เข้าใจในระบบพลังงานไฟฟ้าของเครื่องยนต์ ไม่มากก็น้อย หากเป็นไปได้อยากจะเห็นข้อคิดที่ต่างมุม เพื่อเอามาเป็นข้อวิเคราะห์เหตุและผล ว่าที่แท้จริงมันควรจะเป็นอย่างไร ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ……sriithanon
ได้รับคำขอบคุณจาก: chokpiti  tokmun002  black_civic_es  Makai  Ekk_bangyai  mayuct  hotline172  khunmoo  converse  phichetza  damrongwit  coco1340  alpha08  taguunzae  qq  domziia  N_J Civic  etabb  chan-o 
thanatphong


เข้าร่วม: 05 มิถุนา 2009
ตอบ: 2693

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 5343
ให้คำขอบคุณ: 20

ที่อยู่: zone none ( civic es only)
ปี: 2002
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
อังคาร, 28 พฤษภาคม 2013 15:12 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
...
basic00


ชื่อเล่น: บอย

เข้าร่วม: 11 กันยา 2012
ตอบ: 345

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 380
ให้คำขอบคุณ: 130

ที่อยู่: ปทุมธานี
ปี: 2004
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
อังคาร, 28 พฤษภาคม 2013 15:14 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
ไฟที่ใช้ในรถมาจากแบตเตอรี่ ไดชาร์จทำหน้าที่ชาร์จไฟให้แบตครับตามชื่อของมันครับ"<script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js">
chokpiti


ชื่อเล่น: โชค

เข้าร่วม: 17 ธันวา 2013
ตอบ: 1156

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1455
ให้คำขอบคุณ: 1837

ที่อยู่: มหาชัย-ระยอง
ปี: 2003
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
อังคาร, 28 พฤษภาคม 2013 18:52 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
ดีครับ
นี่ขนาดรู้งูๆปลาๆคุณยังพิมพ์ได้ลึกขนาดนี้ นี่ไม่ใช่งูๆปลาๆแล้วล่ะครับ นี่รู้ระดับเด็กช่างยนต์เลย ยาวมากเลยแต่ก็อ่านจบ อ่านแล้วเหนื่อยแทนครับ
chokpiti


ชื่อเล่น: โชค

เข้าร่วม: 17 ธันวา 2013
ตอบ: 1156

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1455
ให้คำขอบคุณ: 1837

ที่อยู่: มหาชัย-ระยอง
ปี: 2003
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
อังคาร, 28 พฤษภาคม 2013 18:58 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
สรุปแบบสั้นนะครับ
ไดชาร์จ (Alternator)

        หน้าที่ของไดชาร์จ คนส่วนใหญ่คิดว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในรถยนต์ทั้งหมดใช้ไฟจากแบตเตอรี่ไม่ว่าจะติดเครื่องยนต์ หรือไม่ได้ติดเครื่องยนต์ แล้วไดชาร์จมีหน้าที่เติมไฟ หรือชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ ซึ่งความเข้าใจแบบนั้นเป็นความเข้าใจที่ผิด ที่ถูกต้องคือ เมื่อเครื่องยนต์ทำงานเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ทั้งหมดจะใช้ไฟจากไดชาร์จ ไดชาร์จไม่ได้มีหน้าที่ชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่โดยตรง แต่ที่ไดชาร์จสามารถชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ได้เพราะว่า แรงดันไฟที่ไดชาร์จผลิตออกมาได้นั้นมีค่าสูงกว่าแรงดันไฟที่แบตเตอรี่มี จึงทำให้เกิดการไหลของกระแสไฟศักย์สูงไปยังกระแสไฟศักย์ต่ำ และสาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดแบบนั้นก็เพราะว่าเราคนไทยเรียกมันว่า "ไดชาร์จ" ซึ่งจริงๆ แล้วชื่อของไดชาร์จคือ "อัลเทอร์เนเตอร์" ซึ่งแปลว่า เครื่องปั่นไฟ โดยปกติที่รอบเดินเบาของเครื่องยนต์แรงดันไดชาร์จขณะเปิดโหลดจะอยู่ที่ 13.9V – 14.5V โหลดในที่นี้จะมีอยู่ 2 อย่าง คือ แอร์ และ ไฟหน้า เพราะฉะนั้นในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในรถยนต์จะใช้ไฟจากไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ใช้ไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์อย่างที่เคยเข้าใจกันมา สังเกตได้จากรถรุ่นเก่าๆ สมัยก่อน เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วสามารถถอดแบตเตอรี่ออกได้

 


Attached File :
อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์  ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่  ลองเข้ามาอ่านดู
ได้รับคำขอบคุณจาก: Ryuknight  damrongwit  coco1340  pja  narin  chan-o 
pondsamed


ชื่อเล่น: ปอนด์

เข้าร่วม: 18 สิงหา 2011
ตอบ: 665

Guru ES
Guru ES

ได้รับคำขอบคุณ: 408
ให้คำขอบคุณ: 1083

ที่อยู่: ชลบุรี (เกาะโพธิ์-เกาะจันทร์)
ปี: 2005
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
อังคาร, 28 พฤษภาคม 2013 21:53 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
เคยมีประสบการณ์ครับ รถที่ไดชาร์จพังระหว่างที่วิ่งอยู่ เหมือนรถบังคับแบตเตอรี่หมดยังไงยังงั้นเลยครับ เปิดไฟเลี้ยว,เหยียบเบรคฯลฯที่เกี่ยวกับการใช้ไฟ เครื่องทำท่าจะดับตลอด ขับประคองได้อย่างเดียวจนเครื่องดับไปเองเลยครับ
srithanon


เข้าร่วม: 13 สิงหา 2009
ตอบ: 380

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 1324
ให้คำขอบคุณ: 4
พุธ, 29 พฤษภาคม 2013 00:10 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
ขอบคุณครับคุณ chokpiti   ที่ความคิดเหมือนกับผู้ที่ผมเคยได้รับข้อคิดต่างมา ในแนวเดียวกับคุณ   เพราะเรื่องนี้แหละที่ผมตั้งประเด็นนี้ขึ้นมา  หลายๆท่านก็คิดอย่างคุณ  ผมคงไม่บอกว่าผิดหรือถูก   แต่ที่คุณกล่าวว่า ในระบบการชาร์ทไฟให้กับแบ็ตเตอรี่  ต้องมีศักด์โวลเต็จที่มีแรงเคลื่อนสูงกว่านั้น  มันเป็นความจริง  เพราะการที่จะใช้โวลเต็จทำการชาร์จแบ็ต จำเป็นที่จะต้องมีแรงเคลื่อนของโวลเต็จที่สูงกว่า  ถึงจะชาร์ทได้   มันเป้นเรื่องปกติที่ทราบกันดีโดยทั่วไป

แล้วมีใครทราบบ้างว่าแหล่งเก็บพลังงานไฟฟ้าที่มีค่าแรงดันของกระแสไฟที่สูงกว่า แหล่งเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ต่ำกว่า   หากมีการใช้กระแสไฟให้กับโหลดของกระแส   กระแสไฟที่ใช้มาจากไหนและอย่างไร    ตามที่คุณกล่าวว่าการชาร์ทประจุไฟให้กับแบ็ตเตอรี่  จะต้องมีแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่สูงกว่าถึงจะชาร์จได้  ก้ถูกต้อง   แล้วทำไมการใช้กระแสของรถ  ถึงเอามาจากไดน์ชาร์จ (Alternator) เท่านั้นหลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์ติดแล้ว  จริงหรือที่ไดน์ชาร์จ(ขออภัยที่เรียกไดน์ชาร์จ  เพราะเรียกตามภาษาชาวบ้านที่เข้าใจกัน)  จ่ายพลังงานในรูปกระแสให้กับระบบไฟทั้งหมดที่รถยนต์ใช้     มันก็ต้องพิสูจน์กัน  ตามที่ผมกล่าวไว้ในเนื้อความข้างบน

ตามที่ทราบมา แรงดันของกระแสไฟที่มากกว่า  ย่อมจ่ายกระแสไฟให้กับโหลดของกระแส   มากกว่าแหล่งแรงดันของกระแสที่ต่ำกว่า
ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นกันง่ายๆ     ให้นำเอาแบ็ตเตอรี่ขนาด แรงดันของกระแสที่ 100 Amp  กับขนาด 50 Amp   มาต่อขนานกัน โดยขั่วบวกของแบ็ตขนาด 50 Amp  ให้ใช้แอมป์มิเตอร์ต่ออันดับแล้วไปต่อกับขั่วบวกของแบ็ตขนาด 100 Amp  เรียกแอมป์มิเตอร์ตัวที่ 1 สำหรับขั่วลบของแบ็ตทั้งสองจต่อถึงกัน  

สำหรับที่ขั่วบวกของแบ็ต 100 Amp  ให้ใช้แอมป์มิเตอร์ต่ออันดับเข้ากับโหลดที่ใช้กระแสไฟ  เรียกแอมป์มิเตอร์ตัวที่ 2 หลังจากที่ต่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ก็ให้เปิดโหลดของกระแส  อาจจะเป้นหลอดไฟสูงหน้ารถทั้งสองดวงก็ได้  จะกินกระแสประมาณ 12-15Amp
จากนั้นให้ดูการอ่านกระแสของแอมผปมิเตอร์  ตัวที่หนึ่งแลละตัวที่สอง  ว่ามีการอ่านค่ากระแสที่ใช้ไปได้เท่าใด

จาการที่ทดลองทดสอบดู   ปรากฏว่าแอมป์มิเตอร์ตัวที่สองอ่าค่ากระแสไฟได้เท่ากับกระแสไฟของไฟสูงหน้ารถ   กระแสไฟที่วัดได้จากแอมป์มิเตอร์ตัวที่หนึ่ง  แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงคืออ่านได้น้อยมาก    เพราะว่ากระแสไฟที่จ่ายให้กับหลอดไฟหน้ารถ  มันจ่ายจากแบ็ตที่มีแรงดันของกระแสมากกว่า คือที่ 100Amp    ที่ 50 Amp  ยังไม่ถูกใช้ไปหรือมีการใช้น้อยมาก   จากผลของการพิสูจน์นี้ทำให้สามารถนำเหตุผลนี้มาใช้กับระบบไฟชาร์จของเครื่องยนต์ได้

ได้อย่างไร  สมมุติว่ามีการสตาร์ทเครื่องยนต์ ให้อยู่ในตำแหน่งรอบเดินเบา  ทราบหรือไม่ว่าเมื่อเครื่องยนต์อยู่ในรอบเดินเบา ที่ตัวไดน์ชาร์จ  จะจ่ายกระแสไฟได้ประมาณไม่เกิน 10 Amp   เพราะรอบเครื่องยนต์ยังต่ำ ทำให้การสร้างสนามแม่เหล็กของขดโรเตอร์  ยังทำการเสริมสนามแม่เหล็กไม่พอ  เนื่องจากหมุนช้า   ทำให้การผลิตกระแสไฟออกมาได้ต่ำ   หากจะให้มีกระแสไฟมากกว่านี้  ต้องเร่งรอบเครื่องยนต์ให้สูงประมาณ 2000-2500 รอบ  ถึงจะมีกระแสไฟออกมามากกว่า 30 Amp

ซึ่งตรงนี้เองสามารถที่จะพิสูจน์ได้ว่า  การใช้กระแสไฟทั้งหมดที่จ่ายให้กับเครื่องยนต์  มัมมาจากไหน  ข้อแม้ต้องเปิดไฟหน้ารถและเปิดแอร์และเครื่อใช้อุปกรณืไฟฟ้าทั้งหมด   สมมุติว่ามีการใช้กระแสไฟทั้งหมดเท่ากับ 20Amp   ถามว่ากระแสไฟที่จ่ายนั้นเอาไปจากไหน   หากไม่ได้จ่ายจากแบ็ต  แล้วไดน์ชาร์จจ่ายได้ไหม   จ่ายไม่พอ  หากดึงขั่วลบของแบ็ตออกให้เหลือแต่ไดน์ชาร์จ  เครื่องยนต์ก็ดับ  อย่าลืมว่าในระบบไฟฟ้า ระหว่างกระแสและโวลเต็จ  เมื่อกระแสไฟลดลงโวลเต็จที่ตกคร่อมโหลดก็ลดลง   นั้นหมายความว่าไฟโวลเต็จที่จ่ายให้กับหลอดไฟหน้ารถ แอร์ เครื่องงเสียง  ลดลงเหลือไม่เกินครึ่ง  ระบบไฟจุดระเบิดก็ไม่สามารถผลิตไฟโวลเต็จสูงให้กับหัวเทียนได้  เครื่องยนต์ก็ดับ

หากการใช้กระแสไฟของรถมีเพียงแค่ไฟที่ป้อนให้กับวงจรจุดระเบิดเพียงอย่างเดียว  เครื่องยนต์ก็ยังคงทำงานได้ในระบบเครื่องยนต์เบ็นซิล  เพราะมีการใช้กระแสไฟไม่เกิน 5-6 Amp    ถ้าในกรณีนี้ตอบว่าหากเอาแบ็ตออก เครื่องยนต์ก็ยังทำงานได้
อาจจะมีข้อแย่งว่า  ก้ต้องเร่งเครื่องยนต์ให้มีกระแสไฟออกมาสูงๆซิ  จะได้จ่ายพอ   มันไม่เป็นเช่นนั้น  เพราะ ว่าเหตุผลที่กล่าวมาเมื่อกี้นี้  ว่าแรงดันของกระแสไฟที่มีค้าแรงดันของกระแสไฟมากกว่าแรงดันของกระแสไฟที่ต่ำกว่า   การจ่ายกระแสไฟจะออกจากแหล่งแรงดันของกระแสที่มากกว่า  นี้เป้นเหตุผลที่ว่ากระแสไฟที่จ่ายให้กับระบบไฟในรถมาจากแบ็ตเตอรี่

ผมคงมิบังอาจว่าแนวความคิดของผมจะถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง   เพราะผมก็พิสูจน์ด้วยตัวผมเองว่ามันเป้นอย่างที่กล่าว   และสิ่งที่หลายๆท่านที่บอกว่าไฟทั้งหมดไปจากไดน์ชาร์จ  ถามหน่อยว่าในระบบไดน์ชาร์จเขามีวงจรตัดระบบไฟที่จ่ายเข้าขดลวดโรเตอร์  ตัวที่สร้างสนามแม่เหล็ก  ให้หยุดทำงาน  เพื่อป้องกันการโอเวอร์ชาร์จของแบ็ตเตอรี่  ที่ทำให้เกิดการเสียหายกับแผ่นธาตุ  ตอบหน่อยได้ไหมว่า   ระหว่างที่ตัวไดน์ชาร์จหยุดทำงาน   แล้วเอากระแสไฟจากไหนจ่ายให้กับระบบไฟรถยนต์   

แลละที่บอกว่าไดน์ชาร์จ ไม่ได้มีหน้าที่ชาร์จไฟให้กับแบ็นเตอรี่โดยตรง  เป็นไปได้อย่างไร และปัจจับในเรื่องนี้ทั้งหมด  ผมว่าทั้งแบ็ตและระบบไดน์ชาร์จ  ต้องทำงานร่วมกัน  จะขาดอย่างหนึ่งอย่างไดไม่ได้    

และก็ขอขอบคุณสำหรับคุณ chokpiti  มา ณ ที่นี้ด้วย   ที่มีความคิดเห็นต่าง  ทำให้เกิดการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้น  จะจริงหรือไม่จริง ถูกหรือผิด  ก็เป็นความคิดที่ต่างมุมกัน  ต่างก็มีเหตุผลด้วยกัน   ถือว่ามาดีเบสเพื่อก่อให้เกิดความคิดที่สร้างสรรค์ และสีสรรค์ของกระทู้ก็แล้วกันนะครับ.........srithanon


 
ได้รับคำขอบคุณจาก: chokpiti  chan-o 
chokpiti


ชื่อเล่น: โชค

เข้าร่วม: 17 ธันวา 2013
ตอบ: 1156

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1455
ให้คำขอบคุณ: 1837

ที่อยู่: มหาชัย-ระยอง
ปี: 2003
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
พุธ, 29 พฤษภาคม 2013 08:33 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
ขอบคุณครับคุณsrithanon
ยิ่งอ่านก็ยิ่งสับสนกลับเจตนาของคุณนะว่าจะเอาอะไรกันแน่ เดาหรือคิดตั้งสมมุตฐานขึ้นมาเอง ข้อมูลผมก็เอามาจากnet ผมตรวจเช็คแล้วว่าถูกตั้งเพราะว่าเคยเรียนช่างยนต์มาก่อนครับ ข้อมูลผมไม่ได้พิมพ์เอง ถ้าอธิบายยาวมากขึ้เกียจพิมพ์ครับ


1. วันนี้คุณลองไปสตาร์ทเครื่องยนต์หลังจากเครื่องติดแล้วลองถอดขั้วแบตเตอรี่ออกและเปิดไฟหน้า เครื่องเสียง และอุปกรณ์ทุกๆอย่างที่ใช้ไฟ ดูนะว่ามันทำงานหรือไม่ ผมลองมาก่อนแล้วว่าไฟมาจากAlternator(ไดชาร์จ) ไม่ได้มาจากแบตเตอรี่เลย
2. ถ้าไฟมันจะมาจากแบตเตอรี่ เครื่องยนต์ต้องไม่สตาร์ทครับ Alternator(ไดชาร์จ)ต้องไม่หมุนครับ เมื่อมันไม่หมุนมันจะปั่นไฟได้อย่างไร
3. การที่ต้องมีแบตเตอรี่ก็เพราะว่าเราต้องเอาไฟฟ้าในช่วงแรกเพื่อการสตาร์ทเครื่องยนต์ซึ่งมันต้องมีอุปกรณ์หลายตัวที่ต้องทำงาน และกินไฟจำนวนมากไงครับ

4. เมื่อต้องใช้ไฟในช่วงแรกที่ติดเครื่อง เมื่อใช้ไประยะนานแบตเตอรี่ก็จะมีระดับแรงดันไฟฟ้าลดลงจึงต้องมีอุปกรณ์ที่ช่วยในการชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ไงครับ

ลองดูเวปนี้ก่อนนะเผื่อคุณอาจจะถึงบางอ้อ http://www.guitarthai.com/webboard/question.asp?QID=365805
 และ http://phithan-toyota.com/th/article/detail/159/7


 
ได้รับคำขอบคุณจาก: narin  chan-o 
damrongwit


ชื่อเล่น: ต๋อม

เข้าร่วม: 19 มกรา 2013
ตอบ: 601

Guru ES
Guru ES

ได้รับคำขอบคุณ: 597
ให้คำขอบคุณ: 635

ที่อยู่: โคราช-บางพลี-บางนา
ปี: 2003
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
พุธ, 29 พฤษภาคม 2013 10:03 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
ถูกต้องครับ ถ้าเราอยากรู้ว่าไดชาร์จเสียไม่เสียถอดขั้วลบแบตเตอรี่ออกดู
ถ้ารถดับ เหอะๆๆไดชาร์จกลับบ้านเก่าแล้วครับ..
srithanon


เข้าร่วม: 13 สิงหา 2009
ตอบ: 380

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 1324
ให้คำขอบคุณ: 4
พุธ, 29 พฤษภาคม 2013 10:13 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
ขอบคุณมากครับ   

อยากจะเรียนให้ทราบดังนี้นะครับ   ผมไม่ได้เรียนช่างยนต์ หรือจบวิศวะเครื่องกลมาแต่อย่างได   ให้รู้ว่าผมทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้าสื่อสารโทรคมและอีเลคโทรนิคส์  มากกว่าสี่สิบปี  ทั้งของรัฐบาลไทยและของอเมริกา อีกยี่สิบแปดปี   จึงอยู่ในวงการด้านอีเลคโทรนิคส์มาตลอด ทั้งเพื่อนรุ่นเดียวกัน  ก็เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่พระจอมเกล้าลาดกระบัง  และรุ่นน้องก็เป็นอาจารย์อยู่พระจอมเกล้าพระนครเหนือ

งันกระทู้ที่ผมถามและตั้งขึ้นมา  ไม่ได้เดาหรือสมมุติฐานขึ้นมาเอง    แต่มาจากที่ได้ศึกษาและคลุกคลีอยู่กับระบบอีเลคโทรนิคส์  และระบบต่างๆที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าและเครื่องยนต์กลไก    มิได้มีเจตนาแอบแฝงอะไร  เพียงอยากจะหาความรู้จากความคิดเห็นต่างของผู้อื่น  มาเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์พื้นฐานของระบบ   ที่มีผู้ทรงความรู้และคณาจารย์ได้เขียนเป็นตำราวิชาการเอาไว  และมันเป็นจริงอย่างที่กล่าวไว้หรือไม่    ผมจะพยายามสื่อให้เห็นว่าตำราที่นักวิชาการท่านเขียนเอาไว้ ทั้งของนอกและใน  ไม่ได้กล่าวไว้ว่า  ตัวไดน์ชาร์จหรือ Alternator ทำงานจ่ายกระแสทั้งหมดให้กับระบบไฟของรถยนต์   หลังจากที่สตาร์ทเครื่องยนต์ติด   

และหากว่าผมพิสูจน์และทดลองทดสอบแล้ว  หากได้ตามตำราหรือไม่ตรง  ก็จะเป็นข้อที่ต้องการคำตอบที่ถูกต้องจาก ผู้อื่นที่มทรงความรู้  มาช่วยแนะนำว่าสิ่งที่ผมดกลองมันมีข้อผิดพลาดตรงไหนถึงไม่ตรงกับในตำรา  หากพิสูจน์ได้ว่าผมเป็นผู้เข้าใจผิด  ก็จะยุติในการหาคำตอบ   ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือเจตนาของผม

อยากจะขยายความต่ออีกนิด  ในคำกล่าวข้อ 2

2. ถ้าไฟมันจะมาจากแบตเตอรี่ เครื่องยนต์ต้องไม่สตาร์ทครับ Alternator(ไดชาร์จ)ต้องไม่หมุนครับ เมื่อมันไม่หมุนมันจะปั่นไฟได้อย่างไร

ขอตอบอย่างนี้นะครับ ผมว่าเป็นการเข้าใจระบบการทำงานของตัว Alternator ที่ใช้กับรถยนต์ ที่ไม่ถูกต้องครับ ระบบไดน์ชาร์จหรือ อัลเทอร์เนเตอร์ในรถยนต์ มันจะทำงานจ่ายกระแสไฟออกไปได้ ต้องอาศัยไฟจากแบ็ตเตอรี่จ่ายกระแสไฟไปให้ขดลวดโรเตอร์ ที่พันบนแกนทุ่นโรเตอร์ เพื่อให่เกิดสนามแม่เหล็ก เมื่อมีการสตาร์ทเครื่องยนต์ ทำให้สายพายของเพลาข้อเหวี่ยงหมุน ทำให้แกนทุ่นโรเตอร์หมุน เมื่อแกนทุ่นโรเตอร์หมุนก็จะทำให้เส้นแรงหรือสนามแม่เหล็ก ที่แกนทุ่นโรเตอร์ หมุตตัดกับขดลวดสเตเตอร์ ทำให้เกิดกระแสไฟในขดลวดสเตอเตอร์แล้วนำไปเร็คติไฟร์เป็นกระแสไฟ DC


ดังนั้นหากไม่ีมีกระแสไฟจากแบ็ตไปจ่ายให้ขดลวดโรเตอร์ ต่อให้เครื่องยนต์หมุนตัวAlternator อย่างไรก็ไม่ีไฟออกจากตัว Alternator ซึ่มันต่างกับระบบไดน์นาโม ที่ผลิตกระแสไฟ ที่อาศัยการทำให้แกนทุ่นอเมเจอร์หมุนตัดกับสนามแ่เหล็กถาวร ที่ติดตั้งในตัวไดน์นาโม เมื่อทุ่นอเมเจอร์ที่มีขดลวดพันบนแกนเหล้กอ่อน ตัดกับสนามแม่เหล็กถาวร มันจึงมีกระแสไฟจากขดลวดของอเมเจอร์ ผ่านสลิปริงแปลงถ่านเอากระแสไฟไปใช้ จึงนำระบบนี้มากล่าวในระบบไดน์ชาร์จรถยนต์ไม่ได้


และในสุดท้ายนี้ ผมต้อขออภัยคุณ Chokpiti มา ณ ที่นี้ด้วย หากมีอะไรที่ทำให้ขุ่นใจไปบ้าง ก็ขออย่าได้ถือสา นึกว่าเข้ามาหาข้อมูลที่ต่างความคิดกัน ดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย ที่มีเหตุและผลของการแสดงออก ขอบคุณมากครับ....srithanon 
ได้รับคำขอบคุณจาก: SYS 
coco1340


เข้าร่วม: 11 มกรา 2012
ตอบ: 1239

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1169
ให้คำขอบคุณ: 302

ที่อยู่: พระราม 2
พุธ, 29 พฤษภาคม 2013 11:31 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
 ยื่งอ่านก็ยิ่งเข้าใจ และงง ในเวลาเดี่ยวกัน แต่ยังไงก็ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูล
chokpiti


ชื่อเล่น: โชค

เข้าร่วม: 17 ธันวา 2013
ตอบ: 1156

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1455
ให้คำขอบคุณ: 1837

ที่อยู่: มหาชัย-ระยอง
ปี: 2003
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
พุธ, 29 พฤษภาคม 2013 13:28 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
จากข้างบนผมหมายความว่า

1. ในกรณีดับเครื่องถ้าเราต้องการใช้ไฟ แหล่งพลังงานที่ได้จะมาจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวครับ
2. ในกรณีสตาร์ทเครื่องยนต์เสร็จแล้ว ถ้าเราต้องการใช้ไฟในแบบFull load เช่น เปิดแอร์+ไฟหน้า+ที่ปัดน้ำฝน+เครื่องเสียง ฯลฯแหล่งพลังงานที่ได้จะมาจากAlternator + แบตเตอรี่ครับ  (แต่ถ้าเราถอดขั้วลบแบตเตอรี่ออก แหล่งพลังงานที่ได้จะมาจากAlternatorเพียงอย่างเดียวครับ ซึ่งถ้าเราเปิดใช้อุปกรณ์ทั้งหมดจะสังเกตุว่าไฟจะตก ดังนั้นถ้าเราอยากให้ระบบไฟมีเสถียรภาพก็ควรใส่ขั้วแบตเตอรี่เข้าเหมือนเดิมก็จะช่วยให้มีกำลังไฟฟ้ามากยิ่งขึ้นครับ)
3. ในการสตาร์ทเครื่องยนต์จะมีไฟบางส่วนไปเลี้ยงAlternatorที่ขดลวดโรเตอร์ ที่พันบนแกนทุ่นโรเตอร์ เพื่อให่เกิดสนามแม่เหล็ก อันนี้มันเป็นความจริงครับตามDiagramวงจรไฟฟ้า

ขอบคุณครับ



 
ได้รับคำขอบคุณจาก: narin  N_J Civic  SYS  chan-o 
taguunzae


ชื่อเล่น: นู๋ผึ้ง

เข้าร่วม: 18 กรกฎา 2011
ตอบ: 1079

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1756
ให้คำขอบคุณ: 1460

ที่อยู่: สป.บางพลี สค.มหาชัย ชลบุรี-ศรีราชา
ปี: 2005
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
พุธ, 29 พฤษภาคม 2013 21:56 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
ยาวมากเลยคะ พยายามอ่านให้จบ รอบนึงผ่านไปยางไม่รู้เรื่องเลย แต่ก็ขอบคุณมากคะ สำหรับข้อมูล
จ่าทัน


เข้าร่วม: 26 พฤศจิกา 2012
ตอบ: 608

Guru ES
Guru ES

ได้รับคำขอบคุณ: 391
ให้คำขอบคุณ: 330

ที่อยู่: กำแพงเพชร กรุงเทพบ้าง
ปี: 2004
สี: เทา ซิกเน็ต (เมทัลลิก) (RP-31M)
ศุกร์, 2 สิงหา 2013 20:16 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
ความรู้ครับ
sripasong


ชื่อเล่น: สอง

เข้าร่วม: 09 สิงหา 2011
ตอบ: 232

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 250
ให้คำขอบคุณ: 117

ที่อยู่: สระบุรี
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
อาทิตย์, 4 สิงหา 2013 03:27 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
เคยมาละ tena ตัวท็อป ไดชาร์จพังที่สายสี่ ซื้อแบตมาเปลี่ยน ขับไปเกือบไม่ถึงเลียบด่วนพระรามเก้า พลังงานได้จากแบตตอนเริ่มต้นสตาท พอสตาทเสร็จ ใช้จากไดร์ ถ้าไดร์พังมันก็เอาจากแบตที่มีไฟ ไปใช้ ถ้าแบตหมดก็จบ เพราะเคยเจอมากับตัวละ จบข่าว
narin


ชื่อเล่น: นะ

เข้าร่วม: 14 มกรา 2011
ตอบ: 155

มือใหม่หัดขับ
มือใหม่หัดขับ

ได้รับคำขอบคุณ: 130
ให้คำขอบคุณ: 313

ที่อยู่: ลพบุรี
ปี: 2005
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 6 สิงหา 2013 16:27 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
ผมเห็นด้วย กับคุณ chokpiti คับ
N_J Civic


เข้าร่วม: 27 ตุลา 2009
ตอบ: 3806

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 5146
ให้คำขอบคุณ: 5687

ที่อยู่: นิคม304 - ปราจีน - ชัยภูมิ
ปี: 2003
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
อังคาร, 6 สิงหา 2013 17:04 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
หุ หุ ตาลายกับตัวหนังสือคับ
สั้น ๆ ก็พอมั้ง อิ อิ
ได้รับคำขอบคุณจาก: akkarin_c 
fiattuta


เข้าร่วม: 11 มกรา 2012
ตอบ: 41

น้องใหม่
น้องใหม่

ได้รับคำขอบคุณ: 42
ให้คำขอบคุณ: 46
พุธ, 7 สิงหา 2013 22:35 - อะไรคือพลังงานหลัก ในระบบไฟในรถยนต์ ไดน์ชารจ์หรือแบ็ตเตอรี่ ลองเข้ามาอ่านดู
ได้ความรู้เยอะเลยคับ ชอบๆๆ  เด่วไปลองถอดแบตดูคับถ้ารถดับแสดงว่า ไดชาร์จ ใกล้เสียแล้วอะดิ
ตอบ
หน้า 1 จาก 1
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2025 Civic ES Group. All rights reserved.