ก้ได้มีโอกาสตรวจสอบการทำงานของกล่องคิท E85 ที่เขากล่าวกันว่า มันทำหน้าที่ ช่วยเพิ่มระยะเวลายกหัวฉีดน้ำมัน ให้มีระยะเวลาเพิ่มขึ้นกว่าระยะเวลาเดิมของการใช้น้ำมันเบ็นซิล เพื่อให้มีปริมาณน้ำมันเพิ่มขึ้นในอัตราส่วนผสม ในการจุดระเบิด

เนื่องจากน้ำมัน E85 มันให้ค่าความร้อนต่ำกว่าน้ำมันเบ็นซิล จึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มปริมาณน้ำมันในอัตราส่วนผสมให้มากกว่าเดิม ตามที่นักวิชาการท่านกล่าวไว้ เพิ่มขึ้นอีก 3% นั้นหมายความว่าการยกของหัวฉีดน้ำมัน จะต้องยกให้น้ำมันพุ่งเข้าห้องสูบนานขึ้น หรือเพิ่มขึ้น จากค่าเดิมของระบบน้ำมันเบ็นซิล จึงจะทำให้ค่าพลังงานที่ได้จากการจุดระเบิดมีความสมบูรณ์

ทำให้เครื่องยนต์ไม่สดุดเดินเรียบและมีกำลังที่ดี จากคำกล่าวที่บอกว่า ต้องเพิ่มอีก 3% นั้นมันจริงแค่ไหน ตัวคิท E85 มันยกให้เราเห็นได้จริงหรือไม่ ไม่ใช่ว่าแค่ใช้ความรู้สึกเป็นตัวบอก
แต่เรามีวิธีตรวจสอบสัญญาณพัลส์ของหัวฉีดได้โดยใช้เครื่องมือทางอีเลคโทรนิคส์ด้วย Digital oscilloscope ทำการตรวจจับสัญญาณพัลส์ของหัวฉีดน้ำมันว่า มันมีระยะเวลายกนานขึ้นจริงหรือเปล่า

หลังจากที่ทำการตรวจสอบวัดสัญญาณ ก็ปรากฏว่าเป็นไปความจริง สามารถเห็นคาบเวลาที่สัญญาณพัลส์ สั่งให้ยกหัวฉีดมีระยะเวลาเพ่มขึ้น โดยการตรวจจับเวลาของเดิมที่เป็นสัญญาณเข้า input ของกล่องคิท E85 และเราไปตรวจจับสัญญาณทาง output ที่ไปเข้าหัวฉีด ปรากฏว่า มีระยะเวลาเพิ่มขึ้นจริง สามารถอ่านค่าเวลาที่เกิดขึ้นในการยกหัวฉีด เป็น มิลลิเซ็คให้เห็น

จากการทดสอบกับเครื่องยนต์ของ Honda CRV ที่ความเร็วรอบเดินเบา ที่ 900 รอบ ได้ผลตามรูปข้างล่างสองรูปนี้

รูปนี้เป็นสัญญาณที่วัดได้ หลังจากที่มันเพิ่มรัยะเวลาการยกหัวฉีดเพิ่มขึ้น จากรูปแรกที่วัดได้ 8.20 ms
และหลังจากที่มันยกหัวฉีดเพิ่ม อ่านค่าเวลาของมันได้ 8.60 ms ซึ่งมีค่าเวลาเพิ่มขึ้น 0.40 ms หรือประมาณ 4% การที่วัดได้เกินกว่า 3% ตามที่เขาอ้างในทางทฤษฏี มันไม่แน่เสมอไป ขึ้นอยู่กับตัวตัวเรื่องเกรดและคุณภาพของน้ำมันที่ใช้ สรุปว่ารถ HONDA CRV ตัวนี้ เวลาใช้งานจริง เขาปรับไปประมาณ 4%

เนื่องจากน้ำมัน E85  ต้องมีชุดคิทที่ทำหน้าที่หน่วงสัญญาณ หรือ delay การให้หัวฉีดทำการฉีดน้ำมันให้นานขึ้นกว่าระบบน้ำมันเบ็นซิล  เพื่อต้องการให้มีปริมาณน้ำมัน E85 เพิ่มขึ้น  จะทำให้ค่่พลังงานที่ได้จากการจุดระเบิด  มีค่าเทียบเท่าระบบน้ำมันเบ็นซิล  ก่อให้เกิดประโยชน์กับกำลังของเครื่องยนต์  มีการจุดระเบิดที่สมบูรณ์ ไม่เกิดมลภาวะ เป็นพิษ การจุดระเบิดเกิดขึ้นแบบลากยาวของการเคลื่อนตัวของลูกสูบ ทำให้เกิดกำลังแรงแรงบิดกับเครื่องยนต์สูงกว่าระบบน้ำมัน  เครื่องยนต์เดินเรียบ ในการวิจัยจากนักวิชาการกล่าวว่า ให้กำลังเพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 5-10%   นั้น จริงหรือไม่จริงก็ต้องพิสูจน์จากผู้ใช้   และนำเอารถไปตรวจสอบกำลัง  ขึ้นไดน์โน่เทสกัน

หากเป็นจริงตามนั้น  น่าหันมาใช้กันไม่ดีกว่าหรือ    นอกจากจะมีผลดีกับเครื่องยนต์  มันก็มีผลเสียบ้างเล้กน้อย  ในเรื่องที่น้ำมัน E85 มันเป็นน้ำมัน เอทานอลบริสุทธิ   ที่ตัวมันเอง  มีความแห้ง  ในตัวของมัน    ดังนั้นเมื่อมันไปรวมอยู่กับวัสดุที่เป็นยางธรรมชาติหรือโลหะ  มันก็จะดูดเอาความชื้นจากวัสดุนั้นออกไป  หากเป็นท่อย่างธรรมชาติ มันก็จะแข็งแห้งแตกหักง่าย   หากเป็นท่อส่งน้ำมันที่เป็นโลหะ ก็จะเกิดสนิม   

แต่อย่าไปกังวลกับเรื่องนี้ให้เกินเหตุ   เดี๋ยวนี้รถที่เริ่มใช้น้ำมันเบ็นซิลไร้สารตะกั่วมาจั้งแต่ปี 1990  ต่อมา ก็จะเปลี่ยนท่อโลหะเป็นแบบอลูมิเนียม   นักวิชาการกล่าวไว้ว่า  จริงแล้วรถที่มีในปัจจับันนี้ ในบอดี้และเครื่องยนต์ก็สามารถใช้ได้ 90%  สามารถที่จะใช้กับน้ำมัน E85 ได้ทันที่  .................แล้วจะเข้ามาเพิ่มเติมข้อมูลให้นะครับ........srithanon

สำหรับค่ามุมองศา กำหนดการจุดระเบิดในระบบน้ำมัน E85  ในชุดคิท E85  เขาไม่สร้างหรือผลิดออกมา   จากการที่ได้อ่านข้อมมูลจากนักวิชาการ ท่านให้ความเห้นว่า    น้ำมัน E85  มีค่าอ็อกเทนสูงกว่าระบบน้ำมันเบ็นซิล  คือ น้ำมันเบ็นซิลอยู่ที่ 95 ส่วนน้ำมัน E85  104-105    เฉพาะเครื่องยนต์ที่มีกำลังอัดตั้งแต่ 140 ปอนด์/ ตารางนิ้ว  หรือ อัตราส่วนกำลังอัด ตั้งแต่ 9/1  หรือ 10/1   นั่นหมายความว่า  การที่ลูกสูบเคลื่อนที่สู่จุดศูนย์ตายบน หากสามารถกำหนดมุมองศาให้น้อยลง จาก 10 องศา ในเครื่องยนต์ที่มีกำลังอัด 9/1 หรือ 10/1  เป็นมุมองศา 6, 7 ,8 ย่อมทำได้ หมายถึงให้ลูกสูบเคลื่อนที่สร้างแรงอัดเพิ่มเข้าไปอีกนั้น   สามารถทำได้ เพราะค่าอ๊อกเทนของ E85  มันสูงกว่าน้ำมันเบ็นซิล   มันจะไม่ชิงจุดระเบิดก่อนแน่นอน

แต่จะต้องคำนึงโดยพื้นฐานว่า เครื่องยนต์ที่นำมาใช้กับน้ำมันเบ็นซิล95  นั้นเขาออกแบบมาให้มีกำลังอัดที่กำหนดมาใช้กับระบบน้ำมันเบ็นซิล    แต่เรากำลังจะทำให้น้ำมัน E85  มาใช้กับเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อน้ำมันเบ็นซิล   งั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยึดถือเรื่องมุมองศาการจุดระเบิดที่แตกต่างไปจากระบบน้ำมันเบ็นซิล    เพียงแต่ทำอย่างไรที่จะให้ค่าความร้อนของน้ำมัน E85  มันใกล้เคียงกับระบบน้ำมันเบ็นซิล   ทำให้การจุดระเบิดสมบูรณ์

นักวิชาการและวิศวกรที่ค้นคิด  ได้เลือกทางแก้โดยการปรับอัตราส่วนปริมาณของน้ำมัน E85 ให้มากกว่าเดิมในอัตราส่วนผสมการจุดระเบิด   ซึ่งจะทำให้ได้ค่าพลังงานจากการจุดระเบิดเทียบเท่ากับน้ำมันเบ้นซิล  เท่ากับว่าเราต้องจ่ายน้ำมัน E85  มากกว่าน้ำมันเบ้นซิลประมาณ 15% ในการใช้พลังงานของเครื่องยนต์ที่เท่ากัน  และในระยะทางที่เท่ากัน

สำหรับเรื่องมุมองศาการจุดระเบิด  ในชุดคิท E85  จะไม่ีมาให้  นอกจากท่านเจ้าของรถที่พิศมัยเรื่องความแรง  จะเอากล่องไปอัพจูนในเรื่ององศาการจุดระเบิด และเวลาการยกของหัวฉีด  ใน ROM ใหม่  เพื่อความแรงในกรณีพิเศษ พวกรถแต่ง รถแข่ง  สำหรับรถบ้านพื้นๆ ก็ใช้แค่ปรับระยะเวาการยกของหัวฉีดเท่านั้นครับ    แต่ทราบว่าก็มีระบบ Full system ที่ผลิดออกมาเหมือนกัน  มีทั้งแก้ไขเรื่ององศาการจดระเบิดและ เรื่องระยะเวลาของหัวฉีดและอื่นที่เต็มรูปแบบ  ................srithanon

เหลือที่จะพอครับ   เพราะเขาออกแบบมาเพื่อไว้ถึง  30%  จะปรับให้หนาไว้ก็ได้ ครับ     ปกติในการตรวจสอบการทำงานของชุดคิทที่กล่าวข้างต้นนั้น   เวลาใช้งานจริงจะมีการใช้ A/F meter เป็นตัวตัววัดหาค่าแลมด้า  เรื่องอัตราส่วนผสมระหว่างอากาศกับน้ำมัน E 85   ให้ได้ค่าแลมด้าเท่ากับ 1  นั้นหมายความว่า  มีอัตราส่วนผสมอากาศกับน้ำมันใกล้เคียงทางทฤษฏี  14.7/1  ในการปรับระยะเวลาของหัวีดน้ำมันครับ.................srithanon 

ถึงจะไม่เข้าใจทั้งหมด โดยเฉพาะ ค่าตัวเลขต่างๆ แต่มีประโยชน์มากครับ
thank นี้มีสาระมากครับ

..

สุดยอดดด