อาการคือบิดกุญแจแล้วดัง แปะๆๆๆๆๆๆ ไม่มีเสียงสตาร์ท ไฟโชว์แดงรูปแบต กะ นำ้ มันเครื่อง ไฟ้หน้าติดปกติ แต่วิทยุขึ้นcode รถจอดไว้ตั้งแต่วันอาทิตย์ก่อนมาเมื่อเช้าสตาร์ทไม่ติดเลย ช่วยหน่อยค้าบวันนี้ต้องไปต่างจังหวัดด่วน

แบตหมดเปล่า ไดรชาตรเสียหรือเปล่าครับ

ไฟแบตไม่พอแบตไม่เก็บไฟหารถมาพ่วงแบตครับ

ลองดูตามที่บอกนะคร้าบพี่คร้าบ

แบ็ตเตอรี่เก็บไฟไม่อยู่   น่าจะใช้งานมานาน เริ่มเสื่อมแล้ว   หากแบ็ตที่ยังมีสภาพสมบูรณ์  จะเก็บไฟได้นานบางครั้งหนึ่งเดือนก็ยังมีไฟเหลือให้สตาร์ทเครื่องยนต์ติดได้     ลองเอาแบ็ตมาพ่วงแล้วสตาร์ทดู  จะสตาร์ทติดทันที่  ดังที่เพื่อนๆข้างบนแนะนำนั่นแหละครับ  ปกติแล้วแบ็ตเตอรี่ที่เรื่มเสื่อมสภาพเก็ไฟไม่ค่อยอยู่   หากเราใช้งานทุกวันจะไม่ทราบ  เพราะมีการชาร์จต่อเนื่อง  แต่ถ้าหากทิ้งไว้สองสามวันจะเก็บไฟไม่อยู่       นอกจากเสียว่าระบบไฟในรถมีการรั่วของกระแสไฟที่ไม่มาก  หรือมีการใช้กระแสไฟตลอดเวลา  ทั้งที่ดับเครื่องยนต์แล้ว   เช่นในระบบอุปกรณืเครื่องป้องกันขโมย  ที่มีอุปกรณ์ของวงจร  รั่วหรือลีคของกระแสไฟ ซึ่งการรั่วนี้ไม่มีผลต่อการทำงานของวงจร  เพราะอาจจะเป็นภาคส่วนของระบบฟิลเตอร์ของกระแสไฟ  ที่ใช้พวกค่า capacitor ที่เป็นแบบอีเลคโตรไลท์   ที่เมื่อนานไฟ ทำให้ตัวของมันเสื่อมเกิดค่าความต้านขึ้นในตัวมัน  ทำให้มีกระแสไฟรั่วลงกราวด์     เท่ากับว่ามีการใช้กระแสไฟมากกว่าปกติ ทำให้เวลาจอดรถทิ้งไว้นานหลายวัน  ก็จะทำให้ไฟในหม้อแบ็ตหมด  ก็มีส่วนเป็นไปได้

ทางที่ดีหลังจากนำแบ็ตมาพ่วงในการสตาร์ทเครื่องยนต์   ควรนำรถไปตรวจสอบสภาพแบ็ตว่าปกติหรือไม่  ทางร้านเขามีเครื่องตรวจสอบ  
และให้ช่างลองตรวจเช็คการรั่วของกระแสไในระบบไฟของรถด้วย  ว่ามีการั่วหรือไม่  โดยการวัดกระแสไฟขณะที่ไม่ได้สตาร์ทเครื่องยนต์     ปกติจะมีการใช้กระแสไฟไม่ควรเกินสองสามร้อยมิลลิแอมป์   เพราะต้องใช้เครื่องป้องกันขโมยตลอดเวลา  และระบบไฟเมมโมรี่  พวกอุปกรณือีเลคโทรนิคส์ พวกวิทยุหรืออุปกรณ์  ที่ต้องการให้หน่วยความจำแบ็คอัพข้อมูลไว้ตลอดเวลา


หากการวัดค่กระแสไฟที่วัดได้ มากกว่าหนึ่งแอมป์แปร์ขึ้นไป   ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเกิดการรั่วของกระแสไฟขึ้นในระบบไฟรถยนต์แน่นอน

อาจจะมาจากตัวไดโอดเร็คติไฟร์ในตัวไดน์ชาร์จช๊อทลงกราวด์   หรือในระบอุปกรณ์เครื่องเสียง  อาจจะมีชุดหนุ่งชุดไดมีวงจรชอร์ท  รวมไปถึงระบบสายไฟต่างๆของรถชอร์ท    หากเกิดการสงสัยก็ให้ปลดสายไฟที่ไปใช้กับอุปกรณ์ต่างๆออก  แล้ววัดกระแสไฟใหม่อีกครั้ง  หากปรากฏว่าลดลงปกติ (ไม่เกินสองสามร้อยมิลลิแอมป์)  ให้ถือว่าอุปกรณ์ชุดหนึ่งชุดใดมีปัญหา    ก็ทดสอบหาว่าเป็นที่ตัวไหน  ก็ให้ต่อไฟกลับที่อุปกรณ์นั้นๆทีละชุด  แล้วก็ดูที่แอมปมิเตอรที่วัดว่า  เวลาใส่ไฟเข้าที่เดิมมีกระแสไขึ้นมาทันที ทั้งๆที่ยังไม่ได้เปิดอุปกร์นั้นๆ  ก็ทำให้ทราบว่าเกิดที่ตัวไหน  ก็เป็นการตรวจสอบแบบเคร่าๆ..............srithanon

ติดยังครับ  พี่อยู่แถวไหนครับ 

ลองวัด volt ที่แบตก่อนก็ได้ครับ ว่าได้กี่โวลท์   หรือถ้าไม่มีมิเตอร์ ลอง หารถแถวๆ นั้น ขอ jump battery เพื่อ ลอง  start ก่อนก็ได้ครับ


 

แบตหมดดดดด

ตามข้างบนเลยครับ

ระวัง รีเลย์คลัช คอมแอร์ เสียด้วยคับ เคยโดนมาแล้ว

ข้อมูลแน่นปึกแล้วหละ

ตามข้างบนกันเลย เพราะของผมก็ใกล้แหละ