eskung พิมพ์ว่า: |
ใจเย็นๆครับผมวันนี้ผมก็เจอ
วันนี้ขับรถมาจากทางประเวศจะมาเลี้ยวเข้าเฉลิมพระเกียรติร.9 ซ.28 พอมาถึงปากซอย 30 มีรถเลี้ยวออกผมเลยเบี่ยงขวาก่อนเดี๋ยวชน พอพ้นรถที่ออกจากซอย ก็มีรถกระบะไทยรุ่งออกมาจากเซเว่น ขัดอัดผมเลยเหมือนเจตนาไม่ให้เราเลี้ยวได้ ผมกดแซงแล้วเลี้ยวเลย พอเข้าซอยได้ผมก็ขับช้าลง เพื่อให้เข้าเห็นว่าเราไม่อยากมีเรื่อง ผม 33 แล้วมีพ่อแม่พี่น้องและกิจการงานที่ต้องดูแล เห็นรถแต่งๆอย่างนี้ก้ไม่ได้วัยรุ่นนะครับ อยากบอกมันอย่างนี้เหมือนกัน ผมขับเข้ามาในซอยช้าๆแต่รู้สึกได้ว่ามันพยายามขับจี้ตลอด พอถึงอพาร์ทเมนต์ที่หมายผมเลยแกล้งขับเลยไปเข้าอีกซอยนึงเพื่อความปลอดภัย ปรากฏว่ามันมีที่หมายเดี๋ยวกันครับ ผมไปอ้อมเข้ามันเข้าตรงผมวนรถกลับมาเจอประจัญหน้าตรงๆเลยทีนี้ ผมคิดในใจมึงมาดิ กวนตีนกูแล้วมึงจะเก่งใส่อีก กูไม่เอาไว้แน่ ผมขับรถเข้ามาจอด จังหวะพอดีว่าคุยโทรศัพท์มาแต่แรกตอนขับมาแล้วผมเลยจอดรถคุยไปเรื่อยๆ ผมดุอาการแล้วมันก็คงกลัวเหมือนกันแหละเพราะอาการมันเหมือนผมขับตามเข้ามาดักหน้า แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ผมก็ไม่อยากมีเรื่องงานรออยู่ตรงหน้าเยอะแยะ บทสรุปของเรื่องนี้คือ ไม่มีไรเกิดขึ้น ท่าทางคงเกิดจากความคึกคะนองแหละ เห็นรถแต่งๆก็เลยแกล้งเรา แต่ในมุมมองผมๆว่ามันปัญญาอ่อนมาก ถ้าให้ผมเดาจากพฤติกรรมเค้าน่าจะเป็นรถพ่อ รถญาติ ไม่น่าใช่รถเค้าเอง เพราะดูจากพฤติกรรมการขับแล้วไม่มีความระมัดระวังและขาดความรับผิดชอบต่อผู้อื่นเป็นอย่างมาก อย่าหาว่าผมดูถูกคนเลยนะครับ คนเราถ้าต้นทุนชีวิตเค้าราคาถูก ภาระหน้าที่ที่เค้าต้องมีต่อคนอื่นเช่นพ่อแม่พี่น้อง หรือชื่อเสียงของตัวเค้าเอง ถ้าสิ่งเหล่านี้มันมีไม่มาก เค้าก็จะกล้าทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องได้ง่ายขึ้นโดยที่ไม่ได้แคร์อะไรมากมายนัก ขอบ่นนิสนุงครับ ผมชอบใช้คำว่าเล่าสู่กันฟังอันเป็นหนทางในการระบายอย่างนึง สิ่งที่มันหนักหนาจะได้เบาและคลายตัวแล้วเข้าสู่ภาวะปกติในที่สุด การเป็นคนดีนั้นไม่ง่าย แต่ถ้าเราปรารถณาหนทางแห่งความสุขสงบอย่างแท้จริง เราก็ต้องอดทนและเพียรทำความดี อย่ากลัวคนเพราะถึงเรากลัวเค้าๆก็ไม่เป็นคนดีขึ้นหรอก แต่จงเลือกใช้วิธีที่จะพูดจะคุยจะปฏิบัติกับเค้า ในแบบที่คนที่มีสติปัญญาอย่างเค้าจะพอเข้าใจได้ ดังคำกล่าวที่ว่า บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น แต่ทำยังไงเราถึงจะเอาปลามากินได้ สาธุอาตมาขอจำนำวัดแล้วคุณโยม ดึกมากง่วงจนน้ำตาเลี่ยนแล้ว เจริญพรอนซ์ ![]() |
ไปที่: |