เรื่องมีอยู่ว่า  ตอนนี้ ผมทำงานมา 2 ปี แล้วครับจากที่เรียนจบมา  ทำงานเป็น โปรแกรมเมอร์ ที่สระบุรีครับ
ขณะนี้ งานผมหนักบ้าง เบาบ้าง ส่วนใหญ่จะเครียด  งานมึนๆกะ SUPER USER  เมื่อก่อนผม ขับ es ที่แม่ให้มา อยู่หลายปี
จบวันนึง มีเรื่องสิทธิรถคันแรก ซึ่งมันทำให้ผม ต้องตามใจตัวเองไปออก jazz mt มา ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือ การเป็นภาระผ่อน  เดือนละ 7580 เป็นเวลา 4 ปี ซึ่งเงินเดือนผมเองรับแล้วประมาณ 21000 
      และปัญหาคือ ไม่รู้ทำไม แต่ละเดือนไม่เคยเหลือเก็บ  เดือนชนเดือนด้วยซ้ำไป  อีกทั้ง ตอนนี้มีความคิดอยากเรียน โทราม แต่กลัวไม่มีเงินไปจ่ายค่าเทอม ค่าเรียน  กลัวกดดันกะการใช้เงิน     


        รายจ่ายผม ค่าน้ำมันขับไปทำงาน 1000 ต่อ week ค่ากินข้าวกลางวัน 600 ต่อ week สรุป weekละ 1600
ผมไม่ได้แต่งรถเลย งง เิงินไปไหน
    
      เลยอยากถามพี่ๆว่า  ผมจะเรียนต่อดีไหม และจะจัดการการเงินตัวเองยังไงดี


                                               

รถเปลี่ยนไไป ใจคงเดิม

 สู้ ๆๆ นะครับเป็นกำลังใจให้

ลองจดบัญชีรายรับรายจ่านดิครับ เรื่องที่คิดว่าง่าย ๆ แต่เห็นผลนะครับ

เมื่อก่อนผมใช้เงินแบบใช้ไปเรื่่อยครับ เก็บบ้างไม่เก็บบ้าง แฟนเค้าเป็นบัญชีลองมาทำกันสองคนดูเล่น ๆ
เราสามารถรู้ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและตัดค่าใช้จ่ายเหล่านั้นไปได้ครับ เดือน ๆ นึงเก็บเงินได้เยอะเลยครับ

ติดแกส...ก่อน เพื่อลดรายจ่ายต่อเดือน...เป็นโปรแกรมเมอร์ ลองหางานนอกรับทำบ้างเล็กๆน้อยๆ ก็ดีคับ...

หารายได้เสริมเวลาเราว่าง...

เราต้องเลือกซื้อ - เลือกใช้ที่จำเป็นครับ
เ
รื่องเรียน หากไม่ได้ทำงานแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่าย+ค่าเรียน + ค่ารถล่ะ
ทำงานต่อไป ประหยัด ใช้เท่าที่จำเป็น ดีกว่าครับ

เรียนครับ ส่วนเรื่องเงินผมว่าไม่เกี่ยวกับรับมากรับน้อยนะครับ มันอยู่ที่การจัดการ ส่วนตัวผมเองรับเยอะแต่ก็ไม่มีเงินเก็บเหมือนกันเพราะภาระมันเยอะตาม มันอยู่ที่ความพอดีและความพอใจที่เราเป็น
          แต่ผมกลับมองว่ามันอยู่ที่เราด้วยครับว่าเราจะสร้างให้รากฐานของชีวิตเรากว้างหรือแคบ ส่วนตัวผมๆเลือกที่จะเลือกที่จะสร้างให้มันกว้าง ทำงานเยอะ ภาระเยอะ รับผิดชอบเยอะ จนเป็นความเคยชิน
         เรื่องเรียนก็เป็นเรื่องสำคัญในการต่อยอดของชีวิตการทำงาน
ลองดูครับฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึง
          ถ้าคุณคิดตะกายขึ้นไปบนดวงดาว ต่อให้คุณพลาด คุณก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาวอันงดงาม

ขอบคุณ ทุกกำลังใจมากครับ นี่แหละ ที่ Group อื่นไม่มี  แต่ที่นี่ เกินกว่าคำนั้น 

I Love es group

เรื่องเรียนโท ผมตั้งคำถามว่าเรียนไปเพื่ออะไร
ถ้าตอบว่าเรียนแล้ว สามารถนำไปปรับเงินเดือนขึ้นได้มีผลต่อหน้าที่การงาน ผมแนะนำว่าเรียนเลย 
แต่ถ้าตอบว่า เรียนเพราะอยากได้ความรู้เพิ่มหรืออยากได้วุฒิปริญญาโท ถ้าเป็นตัวผม ผมไม่เรียน

เพราะผมคิดเสมอว่า การเรียนโท มันก็คือการลงทุนอย่างหนึ่ง ซึ่งมันควรจะมีผลกำไรที่ชัดเจน 
ผลกำไรที่ชัดเจนคืออะไร มันก็คือ เงินเดือนขึ้น ปรับตำแหน่ง หรืองานใหม่ที่พร้อมจะรองรับ โดยที่มีอัตราเงินเดือนที่สูงขึ้นกว่าเดิม
เพื่อนผมหลายๆคนเรียนโทกัน ส่วนใหญ่บอกตามตรง มันเป็นการเรียนแบบแฟชั่น มีเพื่อนเรียนก็ไปเรียนกัน
จบมาก็ทำงานเหมือนเดิม ที่เดิม ตำแหน่งเดิม เรตเงินเดือนเท่าเดิม
แต่สิ่งที่ได้แน่นอนจากการเรียนโทคือสังคมที่กว้างขึ้น มันจะมีทั้งข้าราชการ นักธุรกิจ เจ้าของธุรกิจ หรือแม้กระทั่งเด็กจบใหม่
มุมมองมันจะค่อนข้างหลากหลาย ตรงนี้เป็นผลดีค่อนข้างมากต่อตัวเราน่ะ    
 

ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ใครเห็นต่าง ก็ไม่ได้แปลว่าผิดน้าาา ต่างคนต่างความคิด

ของผมเอาเงินเดือนไปผ่านของ เอาโอทีมาใช้จ่ายและเก็บ 

ผมว่านั่งรภของบริษัทไปทำงานดีกว่าไหมครับ 1 เดือน 4 Week  ก็ลดได้ 4 พันและ 

ก็จริงนะครับ  ยังไม่มีครอบครัรีบเรียนก่อนดีกว่า
ถ้าเกิดมีลูกก็ต้องสละเวลาให้ลูกแหละครับ  ไม่ว่างมาทำ Thesis แน่นอน

ส่วนเรื่องเงินก็ลองจดรายรับรายจ่ายดูครับ
บางทีไม่ได้คิดอะไร ใช้แป๊ปๆ ก็หมดครับ  ผมก็เป็น
เลยพยายามเก็บไว้สักิดนึงทุกเดือน  ที่เหลือค่อยใช้ตามใจ  จะได้มีเหลือบ้าง

 สู้ๆครับ ผมเองยังไม่จบ ปตรี เลย แต่ทำงานขายของในห้าง ตอนนี้ก้ปีกว่าแระ
  เงินเดือน ปวช ไม่เยอะหรอกครับ แต่ก้พอใช้นะ เงินเดือน หมื่นกว่าบาทเอง แต่ก็มีรายวันเพิ่ม บางวันก้ 1000 up
ทุกวันนี้ขับรถมาทุกวัน  รถไม่ติดแกส อยู่ลำสาลีมาทำงานซีคอน ผมว่ามันไม่ได้อยู่ที่สายที่เราจบมาครับ
เพื่อนๆผมจบ ป ตรี กันหมดก้ไม่เห็นจะได้งานตามที่จบเลย บางคนก็ขายของมั้ง รับทำกิจการจากพ่อแม่บ้าง
 ตอนนี้ผมว่าพนักงานขาย ก็โอเคนะ เพื่อนผมขาย โน้ตบุค samsung เดือนๆนึงรับเกือบ 3 หมื่น 
 ผมขาย Apple ครับ เงินเดือนผ่อนรถรายวันได้จากการช่วยขาย ยี่ห้ออื่นบ้าง ไว้เติมน้ำมันก็ยังดี 
 ถามว่าผมอยากเรียนไหมอยากครับ แต่บ้านเราไม่ได้รวยจนมีเงินส่งเสียครับ เราต้องทำงานเอง เลี้ยงตัวเองครับ แต่ก็ลงเรียนรามเอาครับ
ผมเห็นพนักงานที่นี่รับปริญญากันหลายคนแล้วแต่ก็ยังทำที่เดิม แทบทุกคนครับ เด่วนี้งานที่เราอยากทำมันหายากครับ
สู้นะครับพี่น้อง  ถ้าสิ่งที่ผมพิมพ์ มันไม่เหมาะสมก็ขออภัยพี่ๆน้องทุกท่านนะครับ แต่แค่ขอให้เป้นกำลังใจ พี่ๆน้องๆทุกคนสู้ต่อไปครับ

อันนี้ความเห้นส่วนตัวนะครับ

เรื่องเงินเก็บ... ผมเห็นด้วยกับการจดรายรับรายจ่าย แต่ในแต่ละเดือนที่เรารับ แบ่งก่อนเลยครับ เอาแต่ที่จำเป็น ส่วนเงินเราจะใช้ในสิ่งไม่จำเป็น ลองคิดดูก่อนครับว่า ถ้าเราใช้ กับไม่ใช้ในส่วนนั้น เราจะเป็นอะไรมั๊ย ถ้าไม่เป็นอะไร เราก็เอาส่วนนี้แหละครับ ยัดเข้าธนาคารแบบฝากประจำไปเลยครับ เพื่อเป็นการบังคับตัวเองไปในตัว เก็บไปจนถึงวันที่เราอยากเรียนนั่นแหละครับ ดอกเบี้ยต่ำ แต่ก็ดีกว่าเอาเงินไปเสียกับสิ่งที่ไม่ควรเสียครับ

เรื่องแต่งรถ... ผมมองว่า รถเดิมๆ ขับได้ สบายใจครับ เพราะของแต่งแต่ละอย่างไม่เคยทำกำไรให้เรา ในแต่ละวัน ของแต่งนั้นมีแต่เสื่อมลงครับ... (แต่ผมก็อดไม่ได้ อิอิ)

เรื่องเรียน... มองได้ สองมุมแบบที่พี่น้องเราแนะนำครับ ต้องดูก่อนว่า อยากเรียนอะไร เรียนแล้วได้อะไร (แต่ไม่มีขาดทุนกัีวิตแน่นอนครับ) แล้วเอาไปทำอะไรต่อ คิดเป็นขั้นเป้นตอนไปครับ... มหาลัยสำหรับโทมีเยอะครับ บางที่แพง บางที่ถูก บางโปรแกรมดี ไม่ดี ทุกที่มีข้อดี ข้อเสียต่างกันครับ... แต่ที่แน่ๆ นะครับ เรียนเพื่อตัวเองครับ เพราะต่อให้เราไปอยู่ที่ไหน ไม่ว่าทำงานที่ไหน ความรู้เราไม่เคยหายครับ... แล้วเอาความรู้กับประสบการณ์นี่แหละครับ มาใช้ดำเนินชีวิต... (ลองหา มหาวิทยาลัยที่มีทุน ก็ดีนะครับ ประหยัดไปอีกทางครับ อย่างน้อยเราจะเจอคนที่ต้องการจะเรียนจริงๆ ไม่ใช่เรียนตามเพื่อนครับ)

สู้ๆ ครับ ผมก็ผ่านจุดนี้มาก่อน

อายุเท่าไหร่ครับ วางแผนชีวิตไว้ยังไง อยากแต่งงาน มีลูกตอนไหน รอผ่อนรถหมดก่อนดีไหมครับ ตอนนี้แต่ละเดือนถ้ายังไม่มีเหลือเก็บ เรียนไม่ไหวแน่นอน ถ้าค่ายาง-ค่าประกันมา พร้อมค่าเทอม สะดุดแน่นอนครับ โทตั้งใจจริง 2 ปีก็จบครับ คำนวนดีๆนะครับ เพราะรายจ่ายคุณเพิ่มขึ้นมาหลักแสนแน่นอน

เรียนเถอะครับถ้ามีโอกาส

ถ้ามองไม่เห็นหนทางในการเพิ่มรายได้..ก็ต้องหันมาจัดการกับรายจ่ายครับ
เคยทำบัญชีค่าใช้จ่ายแล้วมานั่งดู...ส่วนใหญ่มันหมดไปกับสิ่งที่ใจชอบ<ซื้อตามแต่ใจจะสั่งมา>ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็น
ประมาณว่าไม่ซื้อก็ไม่ตาย..หลังๆ มาต้องคิดให้หนักก่อนจะซื้ออะไรสักอย่าง..ก็ช่วยได้เยอะครับ

เรียนโทใช้เงินเยอะ..รอให้ผ่อนรถหมดก่อนก็ดีเหมือนกัน
จะได้เครียดกับเรื่องการเรียนอย่างเดียว..ไม่ต้องมาเครียดอีกหลายเรื่องให้เส้นโลหิตในสมองชำรุดเปล่าๆ

เป็นกำลังใจให้ครับ

เกือบทุกมหาลัย สอนเรา ให้เรียนสูงๆเก่งๆ----------->เพื่อเป็นพนักงานที่ดี ได้อยู่องค์กรที่ดี

แต่น้อยนักที่จะสอนให้เรา   เรียนสูงๆเก่งๆ------------>เพื่อเป็นเจ้านายที่ดี เป็นเจ้าของกิจการที่ดี 

...ผิดถูกอย่างไรขออภัยด้วยครับ...

สู้ๆครับ เป็นกำลังใจให้ 

ผมก็เป็นคนที่เรียนไม่จบคนนึง เพราะที่บ้านมีปัญหาเรื่องการเงิน แต่ผมก็ได้ทำงานเร็วกว่าคนอื่น ผมทำงานครั้งแรกเงินเดือนแค่ 4,500 บาทเองครับ กับงานขายของสินค้าพวก Skateboard ที่ MBK เมื่อ 13 ปีก่อน ก็ยังใช้พอ เพราะผมต้องคิดทุกคร้งก่อนใช้ และผมก็หมั่นหาความรู้นอกห้องเรียนทางด้าน Computer จนผมได้มาทำงานที่บริษัท Computer ยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง โดยใช้ประสบการ์เข้าสมัครงานจนได้เงินเดือน 12,000 บาท เมื่อ 10 ปีก่อนกับงาน Computer Network Analysis ได้ไปดูโรงงานผลิต Computer ที่ต่างประเทศ แต่เงินผมกับไม่พอใช้เพราะมันมีค่าสังคมที่ฟุ่มเฟือยเพิ่มเข้ามาเมื่อเราเจอคนเยอะขึ้น และผมถูกขึ้นเงินเดือนเฉลี่ยปีละประมาณ 1,000 - 1,500 บาททุกปี แต่ถ้าผมอยากได้เงินเดือน 30,000 หละ ผมคิดดูแล้วผมต้องอยู่ที่นั่นอีกอย่างน้อย 15 - 20 ปี แก่ตายกันพอดี ผมจึงลาออกจากงาน เพื่อมาเริ่มต้นใหม่กับอะไรที่เป็นของตัวเอง ล้มลุกคุกคลานอยู่ประมาณ 2 ปีแรก แต่ทุกวันนี้ผมพอใจกับวันนั้นที่ผมตัดสินใจก้าวออกมาจากคำว่า "มนุษย์เงินเดือน" เพราะผมคิดว่าผมไม่มีปริญญาเป็นทุน แต่ผมกับมีเวลาเป็นทุน นั่นสำคัญมากๆ เพราะมันจะมาคู่กับคำว่าประสบการณ์ชีวิต จนทุกวันนี้ผมมีบ้านเล็กๆ ที่ซื้อเป็นของตัวเองได้ก่อนอายุ 30 ปี มี ES ขับชิวๆ และเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง ทั้งๆที่เพื่อนผมจบ ป.ตรี เป็นอาจารย์สอนเด็ก ปวช. ปวส. แล้วลาออกมาต่อ ป.โท ทุกวันนี้ยังไม่มีงานทำ เพราะไม่รู้จะทำอะไร ไม่รู้จะเริ่มต้นยัง ยังอยู่บ้านเที่ยว กิน ใช้ เงินของพ่อแม่อยู่เลย ผมว่ามันอยู่ที่แนวคิด และที่เราเลือก แล้วตั้งใจทำมันให้สุดๆไปเลยครับ สู้ สู้ นะครับ

Attached File :

เอาใจช่วยครับ  เขียนรายรับรายจ่ายอีกเสียงครับ



สู้ๆ

การเรียน ถ้าจบแล้วได้ประโยชน์จากวุฒิที่เพิ่มขึ้นก็OK ถ้ารอจนรถหมดงวดจะช้าไปไหม ถ้าช้าไปก็ลองเครียร์ระบบเงินของตัวเองดู ลดสิ่งไม่จำเป็น ขาดเหลือเท่าไรลองขอความช่วยเหลือจากแม่ดู แล้วค่อยส่งคืนทีหลัง แม่ไม่ใจดำกับลูกแน่นอน แผนนี้ใช้มาแล้วได้ผลชัวร์