athongchum พิมพ์ว่า: |
ก่อนจะฟลัชเกียร์แนะนำให้ลองเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แบบปกติดูก่อน ถ้าเปลี่ยนแล้วอาการดีขึ้น ก็ฟลัชได้ แต่ถ้าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง การฟลัชเกียร์อาจจะทำให้เกียร์นั้นพังเร็วขึ้นไปอีก บางคนถึงกับเกียร์วืดพังไปเลยก็มี เพราะสาเหตุจริงๆมันไม่ได้อยู่ที่น้ำมันเกียร์ แต่มันอยู่ที่แผ่นคลัชต่างหาก |
athongchum พิมพ์ว่า: |
ส่วนราคาที่ว่ามาแพงมากครับ น้ำมันเกียร์ของรุ่นเรา มีประมาณไม่เกิน 10 ลิตร ตกราคาประมาณ ไม่เกิน 2000 บาท
การฟลัชเกียร์ก็ใช้น้ำมันเกียร์ใหม่ไม่น่าเกิน 10 ลิตร ไม่เกิน 2000 บาท ตกค่าแรง 1800 ถือว่าแพงมากเพราะมันไม่ได้ทำยากเลย ลองศึกษาดูครับ |
tatam001 พิมพ์ว่า: |
เมื่อวานไปที่อู่ช่างแสบ ช่างแสบกำลัง o/h เกียร์ es 2003 คันหนึ่งอยู่ ถามอาการช่างแสบ บอกว่าเจ้าของบอกว่า ติดไฟแดงแล้วเกียร์มีอาการวืด ใส่ D แล้วไม่วิ่ง ต้องรอสักพักใหญ่ เดี่ยววิ่ง เดียวไม่วิ่ง เจ้าขอเลยต้อง O/H
ผมเลยขอดูที่กรองเกียร์ว่ามันคงจะตันแน่ๆ ปรากฎว่า ใส้กรองไม่ตัน สะอาดดีด้วยช้ำ งงเลย ช่างแสบเลยชี้ให้ดูที่ แผ่นครัชเกียร์ แต่ละแผ่นเป็นสีดำ แผ่นครัชเกียร์ไหม้ งงหนักเลย ช่างแสบบอกว่า ซีลในเกียร์มันเสื่อมมันยุบตัวไปอุดทางเดินน้ำมัน เจ้าของเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตรงเวลาด้วย 555 โดยความคิดส่วนตัว ผมคิดว่าหน้าจะเกิดจากการสลับเกียร์ไปมา จาก D ไป N คือจอดติดไฟแดงปุบ ก็สับไป N ทันที ทำเหมือนการเข้าเกียร์ว่างแบบเกียร์ธรรมดา ผมเลยคิดว่า ฟลัชเกียร์ คงไม่ได้ช้วยมากนัก เปลี่ยนน้ำมันเกียร์แบบปกติดูก่อน (จริงๆเคยถามร้านที่รับฟลัชเกียร์ร้านดังร้านหนึ่ง เขาไม่แนะนำให้ทำครับ เฉพาะ ES นะ เนื่องจากหากผ้าครัชมันสึกมันก็จะทำให้กรองเกียร์ตันอยู่แล้ว ดังนั้น ไอ้ที่ตันอยู่ที่กรองมันก็ไม่ออกมาอยู่ดีนั่นแหละ) ผมเลยจะเก็บเงินไว้ O/H เกียร์เลยดีกว่าครับ เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ขอบคุญครับบบบบบบบบบ |
ไปที่: |