Attached File :

เวลาขึ้นครั้งละ 50 สตางค์ เวลาลงครั้งละ 20 สตางค์ ประจำ
 

ได้เวลาเติมพอดี...อิอิ

...

ยังไม่ถึงลิตรละ 100 บาทเลยอ่ะ เอ้า!! พยายามต่อไปรัฐบาลสู้ๆ

ขายรถ ซื้อจักรยานดีกว่า

"""

เติม v-power ntp แม่มเลย ราคาคงที่ 555

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

wow wow wow ขึ้นมาก ลงน้อยทุกที  E85 สุราษฎร์ หาเติมยากมากๆ

นั่นสิคับ. ขนาดนานๆผมใช้รถทียังไม่พอเลย เฮ้อ แย่ๆ

พรุ่งนี้ ปตท.-บางจาก ขึ้นเบนซิน-โซฮอล์ลิตรละ 50 สต. แล้วปั๊มอื่นไม่ขึ้นเหรอครับ

ราคาต้อนรับปีใหม่ พร้อมกับค่าแรง 300
 

ปล น่าอิจฉา แว๊นควันดำ

โอ้ว ............. อยากจะบ้าตาย

สงสัยต้องจูน e85 ใช้ซะแล้ว

 เซง 

แดรกแกลบขี้แสบตรูดละทีนี้

สมัยก่อน ข้าวแกงจานละบาทเอง พอขึ้นเป็น 6สลึง คนก็โวยด่ารัฐบาลยุคนั้นกันเป็นแถว เพราะขึ้นแต่ละครั้งตั้ง 50% แต่ก็โวยมากไม่ได้ เพราะรัฐบาลเผด็จการ เดี๋ยวโดนยัดข้อหาก่อความไม่สงบเป็นภัยต่อสังคม

มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไข่ไก่ลูกละ 50สต. กระโดดพรวดเป็น 75สต. ขึ้นอีก 50% ก๋วยเตี๋ยวลาดหน้าจานละ 2 บาทขึ้นเป็น 10สลึง ขึ้น 25% ไม้ขีดกล่องละสลึง ขึ้นเป็นสองกล่องบาท ขึ้นอีกเท่าตัว. ในชีวิตนี้ยังไม่เคยเห็นรัฐบาลใหนแก้ปัญหาเรื่องของบริโภคอุปโภคได้เลย และในอนาคตอีก 100ปีก็ไม่มีรัฐบาลใหนทำให้ของถูกได้ มีแต่ทรงและขึ้นที่ละน้อยไปเรื่อยๆ

การแก้ปัญหาเรื่องค่าครองชีพนี้ ไม่มีใครคิดแก้ทำให้สินค้าถูกลง เพราะเป็นไปไม่ได้ ทุกปีค่าแรงจะต้องขึ้น จะขึ้นมากขึ้นน้อยก็ว่ากันไป เมื่อค่าแรงขึ้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุน ถ้าบริษัทใหนไม่ขึ้นค่าแรงลูก ก็คงไม่มีลูกจ้างทำงานให้ เพราะไม่ว่าใครๆ ทำงานก็หวังว่าเงินเดือนจะขึ้น เมื่อเงินเดือนขึ้น เจ้าของกิจการก็ต้องคิดเป็นต้นทุน และแน่นอนก็ต้องขายแพงขึ้น ค่าแรงกับสินค้าเหมือนโซ่กับฟันเฟือง เมื่อโซ่ขยับเฟื่องก็ต้องหมุน เมื่อฟันเฟืองหมุนโซ่ก็ต้องขยับ

การแก้ปัญหาเรื่องนี้ รัฐบาลจะต้องทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นในทุกส่วน แรงงานจะต้องไม่ตกงาน สวัสดิการในการรักษาพยาบาลจะต้องไม่แพงหรือจัดฟรีเช่น ประกันสังคมหรือบัตรทอง บัตรผู้ชราเป็นต้น เรื่องราคาสินค้าต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด และเลิกอุดหนุนน้ำมันเชื้อเพลิง สิ่งที่รัฐบาลต้องคำนึงมากที่สุด คือ น้ำ ไฟ และการคมนาคม ที่จะต้องดูแลประชาชนให้มากๆเข้าไว้ สินค้าบริโภคต้องดูแล แต่ไม่ใช่ไปกดไม่ให้เขาขึ้นราคา เพราะถ้าไปกดเขาจนเกินไป ก็จะทำให้ของขาดตลาด เพราะไม่ว่าพ่อค้าที่ใหนเขาคงไม่ขายของแล้วขาดทุนหรอก

บ้านเราใช้ไฟฟ้าเฉลี่ย 300 หน่วย/เดือน
ถ้าใช้ตัวคูณค่าไฟ ตามแจ้งมา แพงขึ้นประมาณ 10 กว่าบาท
สำหรับเรา ไม่เดือดร้อนค่ะ แค่ดับไฟฟ้าหน้าบ้านตอนกลางคืนซะ 1 ดวง
ก็กลับเข้ามาสู่ราคาเดิมแล้วค่ะ
ส่วนตัวเราจำคำพูด พณฯ อดีตนายกท่านหนึ่งได้ค่ะ
"คนไทยหมดเวลาใช้น้ำมันถูกแล้วค่ะ"
หรือ "แพงไว้ คนจะได้ไม่ใช้"

แย่ๆจริงๆๆ 

 เลิกบิดเบือน ...แม่ลูกจันทร์ ...ไทยรัฐออนไลน์
กระทู้สนทนา


คนไทยล้างผลาญพลังงานกันวินาศสันตะโร
เพราะนโยบายบิดเบือนราคาต่ำกว่าต้นทุนจริง
ทำให้คนไทยใช้พลังงานกันไม่บันยะบันยัง
ข้อมูลล่าสุด คนไทยกะซวกน้ำมันเบนซิน 21 ล้านลิตรต่อวัน
กะซวกน้ำมันดีเซลสูงปรี๊ดถึง 57 ล้านลิตรต่อวัน
ต้องใช้เงินนำเข้าน้ำมันดิบ ไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาทต่อวัน
หรือห้าแสนเจ็ดหมื่นล้านบาทต่อปี
อ้อ...ยังไม่รวมนโยบายรถคันแรกอีก 1 ล้านคัน ซึ่งต้องกะซวก
น้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 5 เปอร์เซ็นต์
ชื่นสะดือจริงๆประเทศไทย
แม่ลูกจันทร์ ย้ำว่า พลังงานอีกประเภทที่ถูกบิดเบือนราคาขายปลีก
ต่ำกว่าต้นทุนจริงจั๋งหนับบุเรงนองคือ ก๊าซหุงต้ม หรือก๊าซแอลพีจี
วันนี้ คนไทยล้างผลาญก๊าซแอลพีจีแบบบ้าระห่ำ
ถึง 650,000 ตันต่อเดือน หรือ 7.8 ล้านตันต่อปี
ความต้องการใช้แอลพีจียังเพิ่มขึ้นๆอย่างรวดเร็ว
ที่งามไส้คือมีขบวนการลักลอบขนก๊าซแอลพีจีจากประเทศไทย
ไปขายฟันกำไรในกัมพูชา พม่า ลาว อีกบานตะเกียง
นี่คือความชั่วร้ายของนโยบายบิดเบือนราคาพลังงาน
เพื่อประโยชน์ทางการเมือง
แม่ลูกจันทร์ คัดค้านนโยบายรัฐบาลชุดก่อนที่บิดเบือน
ราคาน้ำมันและก๊าซต่ำกว่าต้นทุนเกือบเท่าตัว
ทำให้โครงสร้างราคาพลังงานของประเทศผิดเพี้ยนจากความเป็นจริง
เป็นภาระหนักที่รัฐบาลต้องจ่ายชดเชยส่วนต่างหลายหมื่นล้านบาทต่อปี
ที่เจ็บปวดที่สุดคือนโยบายบิดเบือนราคาพลังงาน
ทำให้คนไทยขาดจิตสำนึกประหยัดใช้พลังงานชิง
ฉะนั้น การที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ตัดสินใจประกาศเลิกนโยบาย
บิดเบือนราคาพลังงาน เพื่อรองรับการเกิดขึ้นของ
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี
แม่ลูกจันทร์ สนับสนุนนโยบายนี้สุดลิ่มทิ่มประตู
สรุปว่าจะมีการปรับราคาขายปลีกแอลพีจีให้สะท้อน
ต้นทุนที่แท้จริงตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
โดยก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือนจะปรับขึ้นเป็นขั้นบันได
กก.ละ 50 สตางค์ต่อเดือน
จากปัจจุบัน 18 บาทต่อ กก. เป็น 24 บาทต่อ กก.
หรือแพงขึ้นอีก กก.ละ 6 บาท ภายใน 1 ปี
สำหรับก๊าซแอลพีจีภาคขนส่งจะขยับจาก 21.38 บาทต่อ กก.
เป็น 24.38 บาทต่อ กก.
หรือแพงขึ้นกิโลละ 3 บาทโดยประมาณ
ส่วนก๊าซแอลพีจีภาคอุตสาหกรรม ซึ่งปรับก่อนเพื่อนยัง
ราคาเดิม 30 บาทต่อ กก.
สรุปว่านโยบายลอยตัวก๊าซแอลพีจี ตามต้นทุนที่แท้จริงจะ
ล้างสารพิษจากการบิดเบือนราคาที่กลายเป็นปัญหาดินพอก
หางหมูมาหลายปี
อนึ่ง แม่ลูกจันทร์ เห็นด้วยที่ เสี่ยเพ้ง พงษ์ศักดิ์
รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ประกาศมาตรการลด
ผลกระทบการขึ้นราคาแอลพีจีครบวงจร
คือช่วยประชาชนผู้มีรายได้น้อย 9 ล้านครัวเรือน
(ใช้ไฟไม่เกิน 90 ยูนิตต่อเดือน) สามารถซื้อ
ก๊าซหุงต้มราคาเดิมต่อไปอีกเดือนละ 6 กิโล
ช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยทั่วประเทศอีก 5 แสนราย
จะได้ซื้อก๊าซหุงต้มราคาเดิมต่อไปอีกรายละ 150 กก.ต่อเดือน
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันพ่อค้าแม่ค้าอ้างการขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี
ไปฉวยโอกาสขึ้นราคาอาหารขีกขูดรีดประชาชน
งานนี้ถ้าสำเร็จ เสี่ยเพ้ง ก็ได้เครดิตมโหฬาร
แต่ถ้างานนี้ล้มเหลว เสี่ยเพ้ง ก็เสียฟอร์ม.
แม่ลูกจันทร์
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/314872

และสรุปสุดท้าย ขอบอกว่า ที่น้ำมันขึ้นตอนนี้นั้น ขึ้นให้ใกล้เคียงราคาที่แท้จริงแค่นั้นเอง

เพราะที่เราใช้พลังงานที่ผ่านๆมานั้น เป็นผลจากนโยบายบิดเบือนพลังงาน ของรัฐบาล นั่นเอง

และตอนนี้ เมื่อยกเลิกการบิดเบือนราคาพลังงานแล้ว ราคาพลังงานต่างๆ จะต้องขึ้นแน่นอน

เพราะราคาจะต้องใกล้เคียงความเป็นจริง และน่าจะขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้น เราต้องเตรียมตัวเตรียมใจ รับสถาณการณ์ ที่จะตามมา

เพราะมันคงไม่มีลงแล้ว ราคา อ่ะ

เช่น การประหยัด หรือ งดใช้พลังงาน ตามแต่ วิธีของแต่ละคนนั่นเอง สวัสดี....................