~ สเตฟาน ~ พิมพ์ว่า: |
หุ หุ .. ไม่เอามาให้อ่าน..ไม่ได้เลยอ่ะ
คืนวันนั้น... ผมกับยายนั่งคุยกันริมระเบียงถึงเรื่องในอดีต วัยเพียง 15 ปี ทำให้ผมนั่งฟังยายเล่าได้ไม่นาน สักพักผมก็ยุกยิกอยากจะไปเล่นกับเพื่อน ยายคว้ามือผมไว้ มือเหี่ยวย่นน่ากลัวเหมือนหนังตายซาก สายตายายดุดัน แต่เหม่อลอย มองหน้าผม เหมือนไม่ได้มอง ผมนั่งข้างยายอย่างหวาดกลัวในกิริยา แล้วฟังเรื่องเล่าจากปากยาย ยายเล่าว่า... สมัยก่อนเมื่อผู้ใหญ่ในบ้านตาย ผู้ใหญ่จะนำมะพร้าว ฝรั่ง มะม่วงในสวน มาบนเจ้าที่ ไม่ให้ผู้ตายมารับตัวเด็กๆในบ้านไปอยู่ด้วย ยายถามผมว่า... ถ้ายายตายไปแล้วกลับมารับผมให้ไปอยู่ในโลกอีกโลกด้วย ผมจะไปกับแกไหม ? ผมหัวเราะในความงมงาย คนแก่ก็อย่างนี้ พยักหน้าเสียหน่อยไม่ให้แกน้อยใจ แล้วผมก็รีบเดินไปเล่นกับเพื่อน ยายหัวเราะอยู่คนเดียวเกือบครึ่งชั่วโมง... อีก 7 วันต่อ มาแกก็เสียชีวิตแบบประหลาด กลางดึกคืนสุดท้าย ยายลุกพรวดพราดขึ้นมาจากเสื่อที่ปูนอน ปากตะโกนเสียงแหบว่า...ไม่เอา ฉันไม่ไป ไม่เอา ฉันไม่ไป ไม่เอา ฉันไม่ไป แล้วก็หวีดร้องเหมือนปีศาจ ทำให้พ่อกับแม่ของผมตกใจ ต้องรีบจุดตะเกียงเป็นการใหญ่ บ้านริมน้ำของเราใช้ตะเกียงเป็นดวงไฟ และใช้ยากันยุงแบบจุดม้วนเพื่อไล่ยุง หลังจากห่มผ้าให้ยายแล้ว ผมก็นอนอยู่ข้าง ๆ ตัวแกสั่นกุกกัก ลองหันไปดู ..ตาแกลืมโพลง น้ำหมากไหลย้อยออกมาจากปากตอนนอน ตัวเย็นชืด ทดสอบหยิกไปที่หลังมือ ยายก็ไม่ตอบสนอง ทุกคนรีบมาดูอาการ แล้วลงความเห็นว่ายายจากพวกเราไปแล้ว หลังคืนสวดศพ 3 วัน ผมนอนบนเสื่อกับพื้นกระดาน ลมแม่น้ำพัดตีเข้าบ้าน เย็นสบาย กลุ่มดาวส่องประกายระยิบระยับ แว่วเสียงไม้กระดานลั่นเหมือนมีคนเดิน น้ำหนักมือกดลงบนหน้าอกผมขณะนอนหงาย เสียงแหบแห้งของยายถามผมช้าๆ ' ไปอยู่กับยายนะลูกเอ๊ย....' ร่างเกร็งแข็งพยายามยกมือมาพนมกลางอก ' ไปอยู่กับยายนะลูกเอ๊ย....' เสียงแหบโหยดังแผ่วซ้ำมาอีกครั้ง ผมน้ำตาไหลอาบแก้ม ริมฝีปากหมุบหมิบสวดคาถานะโมสามจบ กระท่อนกระแท่นเต็มที เพราะความหวาดกลัวแล่นขึ้นสมอง น้ำหนักทับบนหน้าอกหนักขึ้นทุกทีที่สวดมนต์จบคาบ น้ำหนักยายคงไม่เกิน45 กิโล แต่ที่ทาบทับบนหน้าอกตอนนี้ ก็น่าจะปาเข้าไป 60 กิโลแล้ว กระดูกกับปอดตรงทรวงอกถูกบดทับจนรวดร้าว ผมขอร้องยายว่า... ' อย่าเอาผมไปเลยให้เวลาอีกนิด รอให้ผมสนุกกับเพื่อนฝูงจนเต็มคราบก่อนค่อยกลับมารับ ' เสียงยายหัวเราะข้างหู ผมขนลุกซู่ทั่วตัว กลิ่นน้ำหมากคละคลุ้งจนเสียวสันหลัง แล้วน้ำหนักที่อัดแน่นลงบนทรวงอกก็ค่อยถ่ายออกทีละน้อย ยายหัวเราะ หมายถึงว่าตกลง... เวลาผ่านไปสองปี การเล่นกับเพื่อนลดน้อยลง หันไปอ่านหนังสือมากขึ้นเพื่อพัฒนาผลการเรียน ผมลืมเรื่องยายไปเสียสนิท มาเมื่อคืนวาน ผมปิดไฟนอน หลับตาสวดมนต์สามคาบ แล้วแผ่ส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ พอลืมตามองเพดาน ในห้องมืด... หางตาผมก็มองเห็นยายนั่งอยู่ข้างๆ ' ไปอยู่กับยายนะลูกเอ๊ย....' เสียงแหบโหยดังแผ่วซ้ำกับเมื่อครั้งอดีต ผมแทบเป็นบ้า ร่างยายเต็มไปด้วยน้ำเลือดน้ำหนอง ดวงตาหลุดหายไปหนึ่งข้าง น้ำหมากกับเศษฟันหักร่วงหยดแหมะๆ เปรอะที่นอนเต็มไปหมด กลิ่นเหม็นของผีตายซากอบอวลเต็มห้อง คราวนี้ยายเอาจริงแน่ ' ผมไม่ไปกับยายหรอก ' ผมส่ายหัว มือประกบพนมไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยายนั่งนิ่ง ตาข้างที่ยังเหลืออยู่มองผมอย่างรวดร้าวเจ็บช้ำ ไม่มีเสียงหัวเราะจากปากแก เพียงเสี้ยววินาทีแกปราดขึ้นมานั่งทับอกผมบนเตียง มือเหี่ยวงุ้มบีบคอและพยายามล้วงเข้าไปในปากผม เรี่ยวแรงเหมือนผีสิง ผมแทบสู้แกไม่ไหว ' ยายเอาคนอื่นไปแทนได้ไหม? เอาเพื่อนผมไปแทนได้ไหม?' ผมเอ่ยถามทางดวงจิต '.....................' แกนิ่งเงียบ ' ยายเอาตัวเพื่อนผมที่เข้ามาอ่านบทความนี้ไปนะ ถ้าอ่านแล้วไม่เม้มตอบกระทู้ผม ตอนกลางคืนเค้านอนหลับ ยายเข้าไปล้วงปากกินเครื่องใน กินวิญญาณเค้าเลยนะยาย..' เสียงยายก้มลงมาหัวเราะริมหูผม... ยาวและนาน เหมือนกับว่าสะใจ ในข้อเสนอ ก่อนจะหายตัวไป... ต้องมีคนอ่านอีก 20 คนด้วยนะ ถึงจะรอด ตัวใครตัวมันนะ บรื๋ออออออออ ''''''''''''''' (ขอโทษน๊า.............มันจำเป็นอ่ะ ) |
~ สเตฟาน ~ พิมพ์ว่า: |
หุ หุ .. ไม่เอามาให้อ่าน..ไม่ได้เลยอ่ะ
คืนวันนั้น... ผมกับยายนั่งคุยกันริมระเบียงถึงเรื่องในอดีต วัยเพียง 15 ปี ทำให้ผมนั่งฟังยายเล่าได้ไม่นาน สักพักผมก็ยุกยิกอยากจะไปเล่นกับเพื่อน ยายคว้ามือผมไว้ มือเหี่ยวย่นน่ากลัวเหมือนหนังตายซาก สายตายายดุดัน แต่เหม่อลอย มองหน้าผม เหมือนไม่ได้มอง ผมนั่งข้างยายอย่างหวาดกลัวในกิริยา แล้วฟังเรื่องเล่าจากปากยาย ยายเล่าว่า... สมัยก่อนเมื่อผู้ใหญ่ในบ้านตาย ผู้ใหญ่จะนำมะพร้าว ฝรั่ง มะม่วงในสวน มาบนเจ้าที่ ไม่ให้ผู้ตายมารับตัวเด็กๆในบ้านไปอยู่ด้วย ยายถามผมว่า... ถ้ายายตายไปแล้วกลับมารับผมให้ไปอยู่ในโลกอีกโลกด้วย ผมจะไปกับแกไหม ? ผมหัวเราะในความงมงาย คนแก่ก็อย่างนี้ พยักหน้าเสียหน่อยไม่ให้แกน้อยใจ แล้วผมก็รีบเดินไปเล่นกับเพื่อน ยายหัวเราะอยู่คนเดียวเกือบครึ่งชั่วโมง... อีก 7 วันต่อ มาแกก็เสียชีวิตแบบประหลาด กลางดึกคืนสุดท้าย ยายลุกพรวดพราดขึ้นมาจากเสื่อที่ปูนอน ปากตะโกนเสียงแหบว่า...ไม่เอา ฉันไม่ไป ไม่เอา ฉันไม่ไป ไม่เอา ฉันไม่ไป แล้วก็หวีดร้องเหมือนปีศาจ ทำให้พ่อกับแม่ของผมตกใจ ต้องรีบจุดตะเกียงเป็นการใหญ่ บ้านริมน้ำของเราใช้ตะเกียงเป็นดวงไฟ และใช้ยากันยุงแบบจุดม้วนเพื่อไล่ยุง หลังจากห่มผ้าให้ยายแล้ว ผมก็นอนอยู่ข้าง ๆ ตัวแกสั่นกุกกัก ลองหันไปดู ..ตาแกลืมโพลง น้ำหมากไหลย้อยออกมาจากปากตอนนอน ตัวเย็นชืด ทดสอบหยิกไปที่หลังมือ ยายก็ไม่ตอบสนอง ทุกคนรีบมาดูอาการ แล้วลงความเห็นว่ายายจากพวกเราไปแล้ว หลังคืนสวดศพ 3 วัน ผมนอนบนเสื่อกับพื้นกระดาน ลมแม่น้ำพัดตีเข้าบ้าน เย็นสบาย กลุ่มดาวส่องประกายระยิบระยับ แว่วเสียงไม้กระดานลั่นเหมือนมีคนเดิน น้ำหนักมือกดลงบนหน้าอกผมขณะนอนหงาย เสียงแหบแห้งของยายถามผมช้าๆ ' ไปอยู่กับยายนะลูกเอ๊ย....' ร่างเกร็งแข็งพยายามยกมือมาพนมกลางอก ' ไปอยู่กับยายนะลูกเอ๊ย....' เสียงแหบโหยดังแผ่วซ้ำมาอีกครั้ง ผมน้ำตาไหลอาบแก้ม ริมฝีปากหมุบหมิบสวดคาถานะโมสามจบ กระท่อนกระแท่นเต็มที เพราะความหวาดกลัวแล่นขึ้นสมอง น้ำหนักทับบนหน้าอกหนักขึ้นทุกทีที่สวดมนต์จบคาบ น้ำหนักยายคงไม่เกิน45 กิโล แต่ที่ทาบทับบนหน้าอกตอนนี้ ก็น่าจะปาเข้าไป 60 กิโลแล้ว กระดูกกับปอดตรงทรวงอกถูกบดทับจนรวดร้าว ผมขอร้องยายว่า... ' อย่าเอาผมไปเลยให้เวลาอีกนิด รอให้ผมสนุกกับเพื่อนฝูงจนเต็มคราบก่อนค่อยกลับมารับ ' เสียงยายหัวเราะข้างหู ผมขนลุกซู่ทั่วตัว กลิ่นน้ำหมากคละคลุ้งจนเสียวสันหลัง แล้วน้ำหนักที่อัดแน่นลงบนทรวงอกก็ค่อยถ่ายออกทีละน้อย ยายหัวเราะ หมายถึงว่าตกลง... เวลาผ่านไปสองปี การเล่นกับเพื่อนลดน้อยลง หันไปอ่านหนังสือมากขึ้นเพื่อพัฒนาผลการเรียน ผมลืมเรื่องยายไปเสียสนิท มาเมื่อคืนวาน ผมปิดไฟนอน หลับตาสวดมนต์สามคาบ แล้วแผ่ส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ พอลืมตามองเพดาน ในห้องมืด... หางตาผมก็มองเห็นยายนั่งอยู่ข้างๆ ' ไปอยู่กับยายนะลูกเอ๊ย....' เสียงแหบโหยดังแผ่วซ้ำกับเมื่อครั้งอดีต ผมแทบเป็นบ้า ร่างยายเต็มไปด้วยน้ำเลือดน้ำหนอง ดวงตาหลุดหายไปหนึ่งข้าง น้ำหมากกับเศษฟันหักร่วงหยดแหมะๆ เปรอะที่นอนเต็มไปหมด กลิ่นเหม็นของผีตายซากอบอวลเต็มห้อง คราวนี้ยายเอาจริงแน่ ' ผมไม่ไปกับยายหรอก ' ผมส่ายหัว มือประกบพนมไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยายนั่งนิ่ง ตาข้างที่ยังเหลืออยู่มองผมอย่างรวดร้าวเจ็บช้ำ ไม่มีเสียงหัวเราะจากปากแก เพียงเสี้ยววินาทีแกปราดขึ้นมานั่งทับอกผมบนเตียง มือเหี่ยวงุ้มบีบคอและพยายามล้วงเข้าไปในปากผม เรี่ยวแรงเหมือนผีสิง ผมแทบสู้แกไม่ไหว ' ยายเอาคนอื่นไปแทนได้ไหม? เอาเพื่อนผมไปแทนได้ไหม?' ผมเอ่ยถามทางดวงจิต '.....................' แกนิ่งเงียบ ' ยายเอาตัวเพื่อนผมที่เข้ามาอ่านบทความนี้ไปนะ ถ้าอ่านแล้วไม่เม้มตอบกระทู้ผม ตอนกลางคืนเค้านอนหลับ ยายเข้าไปล้วงปากกินเครื่องใน กินวิญญาณเค้าเลยนะยาย..' เสียงยายก้มลงมาหัวเราะริมหูผม... ยาวและนาน เหมือนกับว่าสะใจ ในข้อเสนอ ก่อนจะหายตัวไป... ต้องมีคนอ่านอีก 20 คนด้วยนะ ถึงจะรอด ตัวใครตัวมันนะ บรื๋ออออออออ ''''''''''''''' (ขอโทษน๊า.............มันจำเป็นอ่ะ ) |
ไปที่: |