ใครพอจะทราบเกี่ยวกับ turbo supercharger มั้งครับ ว่ามันทำงานยังไงเป็นแบบไหน ขอบคุณครับ

รอสาวก Turbo มาตอบแล้วกันนะครับ

Attached File :

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ทั้งสองอย่างนั้นแตกต่างกัน เพียงแค่คล้ายๆ
turbo คือ การนำไอเสียมาอัดให้อากาศเข้าไปในท่อไอดีมากขึ้น โดยอาศัยแรงอัดของไอเสีย

ส่วน supercharger คือการอัดอากาศเข้าในไอดีคล้าย turbo แต่ไม่ได้อาศัยแรงอัดจากไอเสีย แต่มีสายพานต่อกับเครื่องยนต์ ทำแรงอัดอากาศสม่ำเสมอกว่า แต่ได้แรงน้อยกว่ากินแรงของเครื่องยนต์ด้วย
TURBOCHAGER ใช้ไอเสียขับส่งใช้เป็นระบบจุดระเบิดของเครื่องยนต์ดีเซลCOMMONRAIL DISEIL, แรงตกในเครืองเบนซินเป็นเพราะ รอบเครืองยนต์ไม่พอหรือเกินกำหนดค่าอัดและใช้ผิดประเภท,SUPERCHARGER ใช้ระบบขับจากเครื่องยนต์ใช้โซ่หรือสายพาน เป็นอัดอากาศ ออกแบบใช้เครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์แก้สโซลีน ในทั้งสองรูปแบบใช้ระบบหล่อเย็นเสริม (INTERCOOLER) หรือระบบหล่อเย็นแบบเฉพาะ
ข้อมูลอ้างอิง จาก วิศวกรรม เครื่องกล
มีระบบหนึ่ง ชื่อ TWINCHARGER คือ ติด TURBOCHARGER และ SUPERCHARGER เป็นที่แก้ปัญหาการขาดกำลังเครืองของ TURBOCHARGERในรอบต่ำ และรอบกลาง อัตราเสียหายเกิดขึ้นช่วงรอบ 3,000 รอบของนาทีขึ้นไป 65% ต่อ 1 ชั่วโมง 59 นาที เชือเพลิงที่ใช้ น้ำมันเตา ออกเทน 100 น้ำมันเบนซิน ออกเทน 97,98,99,100
แต่ได้กำลังเครืองเหนือกว่า TURBOCHARGER
TURBOCHARGER มีจุดอ่อน คือ
1. ในเรื่องจุดระเบิดที่น้ำมันเบนซิน เอทอนอล 5,10,20,85 ทำให้มีไอน้ำมันตรงท่อไอเสีย จึงมีประกายไฟพร้อมเขม่าควันจากจุดระเบิด ไอเสีย และระบบจ่ายผสมไอดีทำให้เสียกำลัง 85%
2. เครืองยนต์เบนซิน ที่ใช่ TURBOCHARGER ไม่ว่ามีกี่โข่ง แปรผันไอเสีย ค้องใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 98,99,100 เท่านั้น เพือประสิทธิภาพในการแรงขับ 100% ถ้าเกินออกเทน 100 เครืองยนต์หลอมละลาย และจะระเบิดระบบท่อไอดี INTERCOOOLER เสื้อสูบ ถ้าต่ำกว่า ออกเทน 98  เกิดเขม่าควันไม่ว่ามีระบบกรองไอเสียแล้ว ปล่อยแก๊สพิษ
เครืองยนต์เดินไม่สมำเสมอเพราะเขม่าควันอุดหัวฉีด หัวเทียน ท่อไอดี ท่อไอเสีย และเกิดคราบที่ TURBOCHARGER พร้อมทำให้ระบบควบคุมอัดอากาศซึงรวมถึงระบบวัดแรงดันอากาศร่วน แล้วเสียถาวรถ้าใช้ต่อ
หมายเหตู ระบบ Boost ร่วนได้ในทุกกรณี เพราะเครืองยนต์เบนซฺิน TURBOCHARGER อ่อนไหวต่อความร้อน กับการขยายตัวของวัสดุ ต่อให้มี INTERCOOLER ที่ชุดท่อไอดี และ INTERCOOLER
3. เครืองยนต์ดีเซล TURBOCHARGER มีจุดอ่อนที่ระบบเผาผลาญไม่สมบูรณ์ เพราะมีกลิ่นตอนเดินเครืองยนต์ในห้องเครื่อง แรงขับไม่สม่ำเสมอ ต้องใช้ต้ังเวลารอบอัดอากาศที่รอบ 2,800 รอบต่อนาที แต่ก็ทำให้เครืองยนต์กำลังแรงขับตกรวดเร็ว ทุกคนมีความเข้าใจผิด คิดว่าเป็นการเบรกของเครืองยนต์ แต่เป็นเพราะมีแรงที่ TURBOCHARGER หยุดทำงาน แล้วไม่สามารถทำให้ใบกังหันหยุด 2 ทิศทางได้  ดังนั้นจึงมีลิ้นเปิดปิดการอัดอากาศ ทำให้เครืองยนต์แรงตกได้ซึงใช้เครืองยนต์ที่ใช้ TURBOCHARGER
4. ในเครืองยนต์ COMMONRAIL TURBOCHARGER หรือระบบอัดเชือเพลิงและวงเวียนเชื้อเพลิงในการอัดฉีด  กำลังขับตก แต่สมัยนี้ใช้ TURBOCHARGER แปรผัน แต่การดูรักษายาก เพราะ หน้าที่ TURBOCHARGER อีกหน้าที่หนึงคือ เพิ่มเผาผลาญอากาศให้ร้อนเพือจุดระเบิดน้ำมันดีเซลในจังหวะอัด ซึงแตกต่างเครืองยนต์เบนซินที่ต้องอาศัย intercooler ทำให้อากศเย็น แต่ต้องใช้ INTERCOOLERหล่อเย็นเครืองยนต์ให้อุณหภูมิอยู่ 120-180 องศาเซลเซียสเป็น 40 องศาเซลเซียสตลอด
เพือกันเครืองยนต์น็อต จุดด้อย คือ ระบบตรวจจับอุณภูมิเสียง่าย ทำให้เครืองยนต์เสือสูบกับลูกสูบบิดเบี้ยว ไม่ควรให้ไอเสียผสมไอดี เพราะถ้าไอเสียผสมไอดีทำให้เกิด ก๊าซ CO และ INTERCOOLER ไม่กีโขมง เสือมเร็วระยะ 8,000 กม(เกิดข้ึนในเครืองยนต์เบนซิน TURBOCHARGER ไม่ว่ามีกี่โข่ง ในระยะ 4,000 กม) ทำให้ต้องเปลียนยกชุด INTERCOOLER  ระบบตรวจจับอากาศร่วนได้ ทำให้เครืองยนต์ดับ
ยกเครื่อง ตอน 20,000 กม แต่อะไหล่พังก่อนในช่วง 2000 กมในเคริ่องยนต์เบนซิน
SUPERCHARGER ไม่มีจุดอ่อน คือ ได้กำลังต่อเนืองในทุกเชื้อเพลิงที่เป็นเบนซินและไม่ต้องเปลียนอะไหล่
ในส่วนสรุป
เชื้อเพลิงที่ใช้ เครืองยนต์เบนซิน TURBOCHARGER น้ำมันเบนซิน ออกเทน 98,99,100 น้ำมันเตา ออกเทน 100 ไม่สามารถใช้แบบ ผสมน้ำมันพืชได้ กับออกเทนที่ต่ำกว่า 98 อัตราเสียหาย 70% ต่อ วัน และ ก๊าซ NGV,LPG เพราะเกิดเขม่าและอะไหล่สึกกร่อนเร็วในเสื้อสูบ, กระบอกลูกสูบ ,intercooler, ท่อไอเสียและท่อไอดี ในเวลา 1 ชั่วโมง 50 นาที ต่อ 50%
เชื้อเพลิงที่ใช้ เครืองยนต์เบนซิน SUPERCHARGER น้ำมันเบนซิน ออกเทน  85,87,91,95,99,100 ,E20, E85 TURBOCHARGER มีจุดอ่อน คือ ได้กำลังเฉพาะในรอบต่อนาที BOOSTซึงเกิดขึ้นกับ TURBOCHARGER ทุกชนิด
SUPERCHARGER INTERCOOLER สามารถติดตั้งในเครื่องยนต์ระบบจุดระเบิดด้วยหัวเทียนเท่านั้นและTURBOHARGER INTERCOOLER สามารถติดตั้งในเครื่องยนต์ระบบจุดระเบิดด้วยอัดเท่านั้น
SUPERCHAGER INTERCOOLER สามารถติดตั้งในเครื่องยนต์ระบบจุดระเบิดด้วยหัวเทียนเท่านั้นและTURBOHAGER INTERCOOLER สามารถติดตั้งในเครื่องยนต์ระบบจุดระเบิดด้วยอัดเท่านั้น
Turbochager มีข้อเสียดังนี้
1. แรงเครืองยนต์ตกตอนไม่ใช้รอบบูส ในทุกชนิดและจำนวนที่ติดตั้งกับเครืองยนต์จำนวนลูกสูบ
2. แรงไม่คงที่ ทำให้ไม่มีสมการที่ได้จากการวัด
3. ใบกังหันไอเสียเสียรูปจากประกายไฟตอนคายไอเสีย และพบละอองน้ำมันในระบบไอเสีย
4. ให้แรงอัดที่วนกลับในเทอโบ เพราะกังหันไอดีไม่ได้ควบคุมแรงอัดในขนาดเทอโบร์ทั้งหมด
สำหรับความแรงที่ต้องการจากเครื่องยนต์นั้น ถ้าต้องการให้ออกมามากๆ ก็ต้องเสียตังค์เยอะหน่อย โดยเฉพาะเครื่องยนต์แบบ N/A ที่ดูแล้วต้องลงเงินมาเป็นพิเศษกว่าจะได้ความแรงออกมามากๆ ส่วนใครอยากแรงทางลัดด้วยงบประมาณที่น้อยกว่าก็ต้องติด “หอย” หรือเทอร์โบชาร์จกัน ยิ่งสมัยนี้เทอร์โบดูจะเป็นที่ต้องการใช้ของวัยแรงเครื่องยนต์เดิม ๆ จึงมักเอาเข้ามาติดเข้าไปทั้งนั้น แม้แต่เหล่าขุนพลตัวแรงสไตล์ N/A อย่างพวกเครื่องยนต์ VTEC ของ HONDA ก็หันมาติดเทอร์โบเพิ่มเข้าไปทั้งนั้น

ประเด็น หลักๆ ของการติดเทอร์โบเข้าไปนอกจากการเลือกขนาดเทอร์โบที่จะใช้ หรือรูปแบบของการติดตั้ง ไม่ว่าจะเป็นแบบดูดหรืออัดก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือ ความละเอียดในการติดตั้ง และคุณภาพของอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมด้วยนั่นแหละ ในการเชื่อมท่อและส่วนประกอบต่างๆ ขึ้นมานั้น เราดูกันได้ตั้งแต่การต่อท่อร่วมไอเสียที่จะต่อให้ไอเสียเป่าเข้าไปยัง เทอร์โบ ซึ่งรอยต่อเชื่อมภายนอกนั้นทุกที่สามารถทำได้สวยเหมือนกันหมดเพราะสามารถ เจียแต่งกันให้เรียบได้ แต่ที่สำคัญคือ รอยต่อของแป็ปภายในชนกันสนิทหรือไม่ นั้นละจุดสำคัญ ส่วนเรื่องต่อไปคือ เศษเหล็กที่ละลายเนื่องจากการเชื่อมในท่อไอเสียเป็นเม็ดกลมเล็กๆ ที่ติดอยู่ภายในท่อรอบจุดที่เชื่อมนั้นต้องสกัดออกให้หมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านก่อนเข้าเสื้อเทอร์โบไอเสียหรือเสื้อเทอร์ไบน์นั่นเอง เพราะความร้อนขณะที่เทอร์โบทำงานเต็มที่นั้น นอกจากเสื้อเทอร์ไบน์จะร้อนจน “แดง” แล้วที่ท่อไอเสียหรือเฮดเดอร์ก่อนเข้าตัวเทอร์โบนี้ก็จะร้อนจน “แดง” เหมือนกัน ซึ่งเศษจากเชื่อมเหล่านี้สามารถจะหลุดออกมาในภายหลังได้ และมันต้องผ่านเข้าไปในเสื้อเทอร์ไบน์ ซึ่งหากเกิดการติดขัดในนั้นจะทำให้ตัวเสื้อสึกหรอหรือผิดปกติได้ ถ้าเป็นด้านไอเสียก็ยิ่งไปกันใหญ่เลย ลองนึกภาพหากมีเศษเหล็กซักเม็ดเล็กๆ เข้าไปในกระบอกสูบจะเป็นอย่างไร ...............................

..... turbocharger ใช้แรงดันไอเสียมาปันใบพัด เพื่ออัดอากาศ เข้าเครื่อง

......supercharger ใช้กำลังจากเครื่องยนต์(มูเลย์หน้าเครื่อง) มาปั่นตัว Roter เพื่ออัดอากาศเข้าเครื่องยนต์

ถ้าเน้นเรื่องความแรงแบบมากๆ เครื่องรอบจัด turbo จะเหมาะกว่า เพราะยิ่งรอบสูงไอเสียจะยิ่งออกมามากเป็นทวีคูณ และออกมามากตามคันเร่ง.... ทำให้เทอร์โบอัดอากาศได้เต็มที่และรุนแรงกว่า เรียกว่า บูส มาตามเท้า... แต่ช่วงรอบต่ำไอเสียน้อยก็จะอัดอากาศได้น้อย หรือไม่ทำงานเลยก็เป็นได้

ถ้าเน้นแรงตั้งแต่ออกตัว รอบต่ำ supercharger จะตอบสนองได้ดีกว่า เพราะมันจะเริ่มทำงานตั้งแต่เครือ่งหมุน แต่ถ้ารอบสูงมากๆ มันจะกินกำลังเครื่องยนต์ มากกว่าเทอร์โบ และมันไม่ บูสตามการเหยียบคันเร่งนะ แต่จะบูส ตามรอบเครื่อง หมายความว่า ถ้าเราเหยียบคันเร่ง แต่ถ้ารอบยังไม่ขึ้นมันก็ไม่บูสเพิ่ม

แต่ปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์พวกนี้ก็ได้ออกแบบให้มันทำงานแปรผันได้ ก็จะลดข้อด้อยของมันลงไป....

สิบกว่าปีที่ผ่านมารู้สึกว่าเทอร์โบจะเป็นที่นิยมมากกว่านะ.....แต่ช่วงหลังๆ นี่ รู้สึกว่า ซุปเปอร์ชาร์จก็กำลังจะกลับมาเหมือนกันสำหรับรถเดิมๆ ที่ต้องการกำลังเพิ่มขึ้นแบบพอประมาณ.....ตอนนี้ เรื่องของ supercharger จะค่อนข้างเห็นน้อยลงมาเรื่อย ๆ ตามลำดับ ซึ่งสมัยก่อน
supercharger จะฮิตกันมาก ๆ ในฝั่ง ตะวันตก แต่ในฝั่ง asia เราจะค่อนข้างชื่นชอบ ระบบของ turbo

แต่ปัจจุบันมีการดัดแปลงพัฒนาในข้อด้อยต่าง ๆ ของ turbo ออกไปค่อนข้างเยอะมาก เช่นเรื่อง
ของการรอรอบ ก่อนที่จะมีอัตราการบูส หรือ บูสมาเร็วแต่รอบปลายไม่มีแรง เพราะโข่งใบหลังเล็ก
ระบายไม่ทัน

การแก้ไขมีตั้งแต่เรื่องของการผลิตและออกแบบ turbo แปลผัน หรือกันดันแปลงใบพัดของโข่งใบหลังให้
กินลมได้มากขึ้นทั้ง ๆ ที่ใบหลังใหญ่ มาถึงในปัจจุบัน แม้แต่ในฝั่งตะวันตกเองก็ค่อย ๆ เพิ่มการใช้
turbo แทน supercharger ขึ้นมาเรื่อย ๆ ตามลำดับเลยหละ

เท่าที่รู้ ข้อเปรียบเทียบ โบกับซุปนะคับ
โบ เอาไอเสียงมาปั่น จึงต้องคุมเรื่องความร้อน ติดตั้งง่าย หาของง่าย ซ่ิอมบำรุงง่าย ต้องรอบูสมาดังนั้นมักจะทำงานเต็มที่ในรอบสูง 
ซุป เอาการหมุนของมุเล่มาปั่นอากาศเข้า แรงมาตั้งแต่รอบต่ำ สม่ำเสมอแต่ไม่หนักเหมือนโบ หายาก ราคาแพง ซ่อมบำรุงลำบาก อะไหร่หายาก

Attached File :

กระทู้นี้ของจริงกดไลท์ครับ..อิอิ

กว่าจะอ่านกระทู้นี้จบ หลับไปสามรอบ  = ="

ถ้าเราจะเซ็ตโบเราต้องมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไร
ผมเห็นบางท่านบอกว่ามีทั้งลูกเล็กและโบลูกใหญ่แล้วแบบไหนดีและประหยัดงบ
แล้วถ้าเซ็ตโบเราจะขับทางไกลมีผลเสียอะไรมั้ย มีแบบไหนบ้างที่ทำแล้วประหยัดงบประมาณมากที่สุด
สนใจมากครับ แต่งบมีแค่20000 แนะนำด้วยครับ

Attached File :

เซ็ตโบ มันไม่ได้จบง่ายอย่างที่คิดนะครับ มันยังมีรายละเอียดอีกพอสมควรเลย ไอ้แค่ใส่แล้วมั่วๆวิ่งนะ มันจะพังเอา = ="

Attached File :