scanclub พิมพ์ว่า: |
อันดับแรกที่ต้องทำ แจ้งความไว้ก่อน เพื่อเอาไว้เรียกค่าเสียเวลาในการเอารถเข้าอู่ไปซ่อม กับคู่กรณีครับ เพราะเราเป็นฝ่ายโดนชน
อันดับสอง ต้องแจ้งอู่ประกันว่าเราเอาอะไหล่แท้เบิกศูนย์ แล้วเข้าไปดุรถบ่อยๆๆครับ เพราะประกันเราจะไปเรียกเก็บกับประกันคู่กรณีอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง จัดเต็มที่ตามวงเงินประกัน ที่เราทำครับ แล้วที่สำคัญครับพวกขับรถสิบล้อ รายได้ดีครับ เราอาจเห็นเข้าแต่งตัวเหมือนไม่มีเงิน หอบลูกหอบเมียไปด้วย แต่ที่จริงแล้ว เค้าวิ่งรถสาม สี่วันเข้าก็มีเงินเป้นหลักหมื่นแล้วครับ ที่ทราบตรงนี้ก็เพราะ ผมมีลูกพี่ลูกน้องวิ่งรถ สิบล้อกับหกล้ออยู่ เงินดีมากครับ สุดท้าย ขอให้รถกลับมาหล่อไวๆๆนะครับ เคลียประกันราบรื่นครับ |
bandai_join พิมพ์ว่า: |
ทุกอย่างที่เราต้องการ บอกประกันไปเลย และสิ่งที่เขาให้ ต้องเขียนลงใบเครมให้หมดนะครับ
ส่วนเรื่องอะไหล่ อันนี้ ต้องดูครับ ว่า ประกันของเรา ซ่อมอู่ หรือ ซ่อม ห้าง ถ้าซ่อมอู่ เราต้องไปคุยกับอู่ ไม่งั้นได้ของปลอมแน่นอน ถ้าซ่อมห้าง ศูนย์จะเปลี่ยนของแท้ให้อยู่แล้ว แต่ถ้าประกันของเราซ่อมอู่ แล้วเราอยากซ่อมห้าง เราต้องยอมจ่ายส่วนต่างเองนะครับ ของผม เคยโดนแบบ จขกท. โดน Taxi กวนตรีน เข็ดเลยกับการเป็นคนขี้เห็นใจ อยากแนะนำเลยว่าให้แจ้งความไว้ก่อน เพราะ เราสามารถเสียกค่าใช้จ่ายต่างๆ ในขณะที่เราไม่มีรถใช้ได้ง่ายนะครับ |
tochi229 พิมพ์ว่า: |
ทำบุญสะเดาะเคราะห์หน่่อยก็ดีนะครับ ![]() |
gittikhun พิมพ์ว่า: |
ถามหน่อยครับ พอมีทางไหม ว่าจะเปลื่ยนโคมท้ายเป็น โคมสโม๊ค ด้วยเลย ต้องคุยกับใครครับ พอดี ของผมเหลือ 1 อันที่ไม่แตก อันนั้นผมออกเองได้ แต่ที่เหลือ อีก 3 โคมที่แตกอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องเปลื่ยนใหม่ ต้องคุยกับคัยครับเวลาเอารถไปเข้าอู่
เพิ่มเงินส่วนต่างก็ว่ากันไป ใครมีประสบการณ์ไหมครับ ? |
gittikhun พิมพ์ว่า: |
เขาบอกให้ไปปรึกษาทนายไปแจ้งความกับศาลแพ่ง แต่ผมจะได้ไม่คุ้มเสีย เพราะจะเจอค่าจ้างทนาย |
Leonic_l พิมพ์ว่า: | ||
ประกันรถอายุเกิน5ปี เค้าให้อู่นอกหมดเลยครับ แต่ถ้าเข้าศูนย์ จ่ายส่วนต่างเอง ผิดถูกเพิ่มเติมได้ |
AofStaR พิมพ์ว่า: |
ผมเคยเคลมประกันครับ ชั้น1เหมือนกัน ผมจะแนะวิธีการให้เผื่อเป็นแนวทาง 1.ดูใบเคลมว่าประกันมันให้ซ่อมหรือให้เปลี่ยนอะไรบ้าง
2.เอาใบเคลมที่ประกันประเมินการซ่อมไปให้อู่ในเคลือประกันดูว่าจะว่อมหรือจะเปลี่ยนแล้วให้อู่ในเคลือตีราคาว่าค่าซ่อมเท่าไร 3.เมื่ออู๋ในเคลือตีราคาและการซ่อมมาแล้ว เราก้อเอาใบเคลมไปให้อู่นอกดูแล้วให้อู่นอกตีราคาให้(ถ้าเป็นอู่ที่เรารู้จักสนิทยิ่งดีเลยครับ)ให้ตีราคา+เพิ่มเผื่อมา ให้อู่นอกออกใบประเมินราคา แล้วเราส่งใบประเมินราคาให้ประกันแล้วประกันมันจะเช็คราคากลางอีกที เราอาจจะมีเงินเหลือจากการเคลมประกันครั้งนี้ แต่ในกรณีนี้เราเป็นฝ้ายถูกรถที่มาชนเราเขาต้องซ่อมให้เราจิ (แต่ถ้ากรณีนี้เป็งผมผมจะไม่เรียกประกันฝ้ายของเรามาครับแต่ผมจะเรียกเงินจากคู่กรณีซัก15000-20000แล้วเอารถไปถอยชนกำแพงแล้วเรียกประกันมาเคลม เรามีเงินเหลือแถมประกันซ่อมให้)อาจจะดูแรงไปนะครับ แต่นี้แหละคือการเล่นกับประกันเพราะมันอยากเขี่ยวกับเราก่อน ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมPmหาผมได้ครับ ปล.พี่สะใภ้ผมทำงานอยู่บริษัทประกันครับ |
phoochit-n พิมพ์ว่า: |
ถ้าเราถูกก็ไม่ต้องเรียกประกันของเรามาครับ
เพราะถ้าเราเคลมประกันของเรา ปีถัดไปจะเสียค่าเบี้ยประกันเพิ่ม เนื่องจากเรามีการเคลม |
AofStaR พิมพ์ว่า: |
ผมเคยเคลมประกันครับ ชั้น1เหมือนกัน ผมจะแนะวิธีการให้เผื่อเป็นแนวทาง 1.ดูใบเคลมว่าประกันมันให้ซ่อมหรือให้เปลี่ยนอะไรบ้าง
2.เอาใบเคลมที่ประกันประเมินการซ่อมไปให้อู่ในเคลือประกันดูว่าจะว่อมหรือจะเปลี่ยนแล้วให้อู่ในเคลือตีราคาว่าค่าซ่อมเท่าไร 3.เมื่ออู๋ในเคลือตีราคาและการซ่อมมาแล้ว เราก้อเอาใบเคลมไปให้อู่นอกดูแล้วให้อู่นอกตีราคาให้(ถ้าเป็นอู่ที่เรารู้จักสนิทยิ่งดีเลยครับ)ให้ตีราคา+เพิ่มเผื่อมา ให้อู่นอกออกใบประเมินราคา แล้วเราส่งใบประเมินราคาให้ประกันแล้วประกันมันจะเช็คราคากลางอีกที เราอาจจะมีเงินเหลือจากการเคลมประกันครั้งนี้ แต่ในกรณีนี้เราเป็นฝ้ายถูกรถที่มาชนเราเขาต้องซ่อมให้เราจิ (แต่ถ้ากรณีนี้เป็งผมผมจะไม่เรียกประกันฝ้ายของเรามาครับแต่ผมจะเรียกเงินจากคู่กรณีซัก15000-20000แล้วเอารถไปถอยชนกำแพงแล้วเรียกประกันมาเคลม เรามีเงินเหลือแถมประกันซ่อมให้)อาจจะดูแรงไปนะครับ แต่นี้แหละคือการเล่นกับประกันเพราะมันอยากเขี่ยวกับเราก่อน ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมPmหาผมได้ครับ ปล.พี่สะใภ้ผมทำงานอยู่บริษัทประกันครับ |
es330 พิมพ์ว่า: |
ต้องคุยกับประกันครับ บางอย่างอาจจะต้องออกเอง 50/50 เพราะประกันจะเอาของ taiwan หรือไม่ก็ของมือ 2 สภาพดีมาให้ครับ โดยส่วนใหญ่ประกันเขาจะมีสัญญาใจระหว่างกันคือไม่เครมกันแพงมาก แต่จะช่วยเฉลี่ยกันไป
ตัวอย่างเช่น ลูกค้าประกัน A ผิดไปชนรถลูกค้าประกัน B ค่าความเสียหายจะช่วยกันโดยการไม่เครมของแท้ให้หมด หรือให้แท้แต่เป็นมือ 2 สภาพโอเค หากคราวหน้าลูกค้าประกัน B ผิดไปชนลูกค้าประกัน A ก็จะได้ช่วยกันคือ กำไรทั้งคู่แต่ลูกค้าเสียเปรียบ เพราะจะอ้างว่ารถของลูกค้าใช้มาหลายปีแหละเสื่อมตามสภาพ ต้องเบิกให้ตามสภาพความเป็นจริงแต่ถามว่าใครอยากให้รถตัวเองโดยชนบ้างล่ะ? ก็ตอบไม่ได้อ้างข้างๆคูๆไปเรื่อย อีกอย่างคือระหว่างที่เราไม่มีรถเราสามารถขอค่าเสียโอกาสและค่าเดินทางได้แต่โดยส่วนใหญ่ประกันจะไม่ค่อยบอกเพราะถ้าบอกเขาก็ต้องทำหน้าที่ไปเดินเรื่องให้ หรือไม่ก็จะผลักภาระให้ลูกค้าไปฟ้องกันเอง ทางที่ดีคือคุยกับประกันของค่าเดินทางและเสียโอกาสตรงนี้ด้วยครับ ขอให้หายไวๆครับ |
ไปที่: |