คิดยังไงกับเหตุการณ์นี้  (นายตำรวจทุบรถโชว์ศูนย์จำหน่าย)







ศูนย์ข่าวศรีราชา - 2 สามีภรรยาตำรวจ ไม่พอใจศูนย์ซ่อมรถยนต์เชฟโรเลต สาขาชลบุรี นำรถเข้าซ่อม แต่ทำสีเพี้ยน เรียกค่าเสียหาย 3 แสน แต่ศูนย์ฯไม่ยินยอม จึงเตะและทุบกระจกรถ พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่ผู้จัดการ

วันนี้ (6 ก.ย.55) ที่หน้าศูนย์เชฟโรเลต สาขาชลบุรี เลขที่ 95/2 ม.3 ถ.สุขุมวิท ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี 2 สามีภรรยา ประกอบด้วย ด.ต.รัชพล โรมรันผบ.หมู่สส.สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และ ร.ต.อ.พลอยไพลิน ศักดิเดช ภาณุพันธ์ ณ อยุธยา ไม่ทราบสังกัด นำรถยนต์ เชฟโรเลต รุ่น CRUSE 1.8 สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ก8008 ชลบุรี มาเจรจากับ นายพีรวัฒน์ มุฑาวุฒิกร ผู้จัดการศูนย์ฯ

การมาครั้งนี้เพื่อขอคืนรถและให้ทางศูนย์เชฟโรเลต คืนเงินดาวน์ 170,000 บาท และค่าผ่อนรถเดือนละ 12,000 บาท รวม 11 งวดเป็นเงิน 302,000 บาทให้พร้อมกับขอรถรุ่นนี้ใหม่ 1 คันเพื่อผ่อนเดือนละ 12,000 บาทจำนวน 5 ปี พร้อมกับเรียกค่าเสียหายอีก 300,000 บาท เนื่องจากไม่พอใจที่ศูนย์เชฟโรเลต สาขาพัทยา ซ่อมสีช่วงคิ้วกันชนด้านล่างผิดจากเดิมเล็กน้อย

แต่ทางนายพีรวัฒน์ มุฑาวุฒิกร ผู้จัดการศูนย์ฯ ยืนยันว่า ถ้าลูกค้าไม่พอใจก็จะให้คืนรถได้โดยพร้อมจะคืนเงินดาวน์ 170,000 บาท และค่าผ่อนรถเดือนละ12,000บาทรวม 11 งวด เป็นเงิน 302,000 บาทให้โดยเท่ากับใช้รถฟรีไป 11 เดือน แต่ส่วนที่ขอรถรุ่นนี้ใหม่ 1 คันเพื่อผ่อนเดือนละ 12,000 บาท ไม่มีดาวน์และขอค่าเสียหายอีก 3 แสนบาทนั้นคงให้ไม่ได้

หลังจากเจรจาไม่สำเร็จ ทำให้ตำรวจทั้ง 2 คนไม่พอใจเอารถไปจอดกลางถนนสุขุมวิท โดยเตะและใช้ค้อนทุบกระจกรถทำให้รถติดยาวหลายกิโลเมตร นอกจากนี้ ยังมีผู้เห็นเหตุการณ์ที่ทั้งสองคนใช้ค้อนและอาวุธปืน บุกเข้าไปข่มขู่เพื่อให้นายพีรวัฒน์ มุฑาวุฒิกร ผู้จัดการศูนย์ฯยินยอมตามที่ทั้งคู่ต้องการ แต่ไม่ยินยอมพร้อมกราบและไหว้ให้ทั้ง 2 คนเข้าใจว่าเป็นเพียงเรื่องสีซ่อมที่ทางศูนย์พร้อมจะซ่อมให้เป็นที่พอใจ หรือรับคืนรถตามที่ต้องการแต่มาขอรถใหม่ พร้อมเรียกค่าเสียหายชดเชย 3 แสนนั้นทำไม่ได้

สร้างความไม่พอใจให้กับ ร.ต.อ.พลอยไพลิน จนกระทั่งปาแก้วน้ำเฉียดหัว นายพีรวัฒน์ ไปเล็กน้อย จนกระทั่งตำรวจชั้นสัญญาบัตร สภ.เมืองชลบุรี ต้องมาระงับเหตุและทนายความของศูนย์เชฟโรเลต ต้องเป็นผู้ที่มาขอเจรจาเอง โดยให้นายพีรวัฒน์ หลบไปก่อน ในที่สุดก็ยังตกลงกันไม่ได้

เชอะ ขี้เลียนแบบ ฮอนด้าล่ะสิ

แรงจริง เลย

อ่านข่าวละ ตอนนี้ 2 ผัวเมียกำลังโดนเรียกสอบวินัย แต่ไม่พบชื่อของภรรยาในสารบบตำรวจ ซึ่งถ้าไม่ใช่ตำรวจจริง โดนข้อหาแต่งกายเลียนแบบเพิ่มอีก รอดูต่อไป ตำรวจไทยรวยไม่แพ้ชาติใดในโลกอยู่ละ ออกป้ายแดงได้ 2 คัน คันที่เอามาทุบผ่อนเดือนตั้ง 12000 แน่ะ วู๊ว อิจฉา

ความคิดเห็นส่วนตัวถ้าเป็นอย่างรายละเอียดด้านบนคืนเงินดาวน์คืนค่างวดที่ผ่อนผมว่าแฟร์ดีนะ.........

เกินกว่าเหตุ + อยู่ในเครื่องแบบด้วย ดูเควี่ยมาก 

เอาทั้งเงิน ทั้งรถ มีด้วยเหรอแบบนี้

แค่สีเพี้ยน เปลื่ยนกันชนใหม่พร้อมสีเดิมจากโรงงานก็จบและ

ทำแบบนี้ตรงกันข้ามคนอาจจะชอบเชฟมากขึ้น..........

พูดมะออกเลย เวงเอ้ย..

ไม่พอใจก็คืนเงินดาวน์+ผ่อนแล้ว...ยังจะขอรถใหม่อีก

ตกลงแม่นางได้เป็นตำรวจจริงหรือเปล่าเนี่ย
แรงจริงๆ ไม่แน่ใจว่าสอบเข้าตำรวจมาได้ยังไงครับ

ผมว่า แค่รับเงินดาวน์กับเงินค่างวดคืน แล้วหาดาวน์รถใหม่ น่าจะพอแล้วนะครับ 
อยู่ในเครื่องแบบงี้ด้วย 

ผู้หญิงตรวจสอบแล้วไม่มีชื่อในสารบบ   แต่ผู้ชายตำรวจศรีราชา

คนจำพวกนี้ มันต้องจัดให้หนักกว่าชาวบ้านครับ มันถือว่าเป็นตำรวจ แต่ตอนนี้มันดังแน่นอนครับ ขอบอง

ทำเสียชื่อเสียงตำรวจไทยและสื่อไทย
จะเป็นตำรวจจริงหรือไม่ก้อตาม จัดฉาก เพื่อต้องการออกสื่อ. โชว์ว่าตัวเองเป็นตำรวจใส่เต็มยศ และสื่อก็ซื่อบื้อที่ไปทำข่าว
ตัวรวจจริงเค้าไม่แต่งตัวไปแบ่งหลอกครับ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - งานเข้า 2 สามี-ภรรยาแต่งกายเครื่องแบบตำรวจแสดงอาการใหญ่คับเมือง ทั้งจอดรถขวางถนน ทุบกระจกรถ และใช้ปืนและค้อนข่มขู่ผู้จัดการศูนย์เซพโรเลต สาขาชลบุรี หลังไม่พอใจงานบริการเพื่อขอเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ ล่าสุด จเรตำรวจสั่ง ผกก.สภ.ชลบุรีหาตัวผู้กองหญิง และ ด.ต.ผู้เป็นสามีแล้ว พร้อมให้สอบวินัยร้ายแรง ซ้ำชื่อผู้กองหญิงคนดังกล่าวยังไม่อยู่ในสารบบตำรวจ ชี้หากแต่งกายเลียนแบบเจออีกข้อหาแน่
      
       จากกรณี 2 สามีภรรยา ซึ่งรับราชการตำรวจในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ประกอบด้วย ด.ต.รัชพล โรมรัน ผู้บังคับหมู่ สืบสวนสอบสวน สภ.หนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และภรรยาซึ่งแต่งกายคล้ายตำรวจระบุยศ ร.ต.อ.หญิงพลอยไพลิน ศักดิเดช ภาณุพันธ์ ณ อยุธยา ไม่ทราบสังกัด ทั้งยังปิดใบหน้า และถอดป้ายชื่อออก นำรถเชฟโรเลตที่ซื้อไว้ 11 เดือนก่อนไปส่งคืนให้แก่นายพีรวัฒน์ มุฑาวุฒิกร ผู้จัดการศูนย์เชฟโรเลต เนื่องจากไม่พอใจที่ทั้งคู่ได้นำรถยนต์คันดังกล่าวไปเฉี่ยวชนมาจนทำให้คิ้วกันชนล่างถลอก โดยอ้างว่าเมื่อนำไปซ่อมสีที่ศูนย์ฯ เมืองพัทยา ปรากฏว่าสีที่ออกมาเพี้ยนจากเดิมไปเล็กน้อย
      
       จึงต้องการนำรถยนต์คันดังกล่าวมาคืนศูนย์เชฟโรเลต จังหวัดชลบุรี เพื่อขอรับรถยนต์คันใหม่แทน พร้อมขอเรียกคืนเงินดาวน์จำนวน 170,000 บาท และค่าผ่อนรถอีกเดือนละ 12,000 บาท รวมทั้งสิ้น 11 งวด คิดเป็นเงิน 302,000 บาท นอกจากนั้น ยังเรียกค่าเสียหายอีก 3 แสนบาทจากผู้จัดการศูนย์ฯ
      
       เรื่องดังกล่าว นายพีรวัฒน์ มุฑาวุฒิกร ผู้จัดการศูนย์ฯ ได้ยืนยันว่าหากลูกค้าไม่พอใจ ทางศูนย์ฯ พร้อมจะให้คืนรถได้ พร้อมจะคืนเงินดาวน์จำนวน 170,000 บาทและค่าผ่อนรถเดือนละ 12,000 บาท รวม 11 งวด เป็นเงิน 302,000 บาทให้ ซึ่งเท่ากับลูกค้าได้ใช้รถยนต์ฟรี 11 เดือน แต่การขอเปลี่ยนรถคันใหม่โดยไม่ต้องดาวน์ และขอค่าเรียกค่าเสียหายอีก 3 แสนบาทนั้นทางศูนย์ฯ ไม่สามารถดำเนินการให้ได้
      
       และจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ทั้งคู่ไม่พอใจโดยได้นำรถยนต์ ไปจอดกลางถนนก่อนใช้ค้อนที่เตรียมมาทุบกระจกรถ พร้อมเตะเพื่อให้ศูนย์เสียชื่อเสียง นอกจากนั้น ยังนำอาวุธปืน และค้อนไปข่มขู่ผู้จัดการศูนย์ฯ พร้อมด่าทอ และปาแก้วน้ำใส่ เพื่อข่มขู่ให้ยินยอม กระทั่งทนายความของบริษัทเชฟโรเลตต้องออกมาเจรจาเพื่อให้เหตุการณ์สงบ พร้อมนำตัวนายพีรวัฒน์ หลบไป แต่ก็ยังไม่สามารถเจรจาเพื่อตกลงยุติปัญหากันได้
      
       กระทั่งสื่อมวลชนหลายสำนักได้พากันเสนอภาพข่าวดังกล่าวจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของ 2 สามีภรรยาซึ่งแต่งกายด้วยเครื่องแบบตำรวจในทางเสียหายนั้น
      
       ล่าสุด วันนี้ (7 ก.ย.) พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี ได้ออกมาเปิดเผยว่า หลังมีการแพร่ภาพข่าวดังกล่าวออกไปทำให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานจเรตำรวจ สั่งให้ตนเรียก 2 สามีภรรยามาสอบถ้อยคำเพื่อลงโทษทางวินัย เนื่องจากแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม เพราะแต่งกายด้วยเครื่องแบบตำรวจ ระดับสัญญาบัตร และมีการใช้อาวุธข่มขู่ และแสดงอาการโวยวาย ทำให้เสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
      
       โดยกล่าวว่า แต่เมื่อดำเนินการตรวจสอบชื่อและยศของผู้กองหญิงคนดังกล่าวกลับพบว่า ไม่มีชื่ออยู่ในสารบบตำรวจ และไม่สามารถติดต่อผู้กองหญิงคนดังกล่าวได้ มีแต่เพียงชื่อของ ด.ต.รัชพล โรมรัน ที่ระบุว่าเป็นผู้บังหมู่งานสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองขาม ทั้งนี้ หากพบว่าหญิงคนดังกล่าวมิได้เป็นตำรวจจริง และแต่งกายเลียนแบบตำรวจจะดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมตั้งข้อหาแต่งกายปลอม เลียนแบบตำรวจทันที
      
       ขณะเดียวกัน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี ยังได้เดินทางไปสอบสวนนายพีรวัฒน์ มุฑาวุฒิกร ผู้จัดการศูนย์เชฟโรเลต สาขาชลบุรี ซึ่งก็พบว่า ยังอยู่ในอาการตกใจ และหวาดกลัว เนื่องจาก ไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความต่อ 2 สามี-ภรรยาแต่อย่างใด โดยกล่าวเพียงว่าจะขอทำใจก่อนและขอปรึกษาผู้ใหญ่ของบริษัทฯ เพื่อดำเนินการต่างๆ ต่อไป

ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000110411

ขอมากไป ผลลัพธ์=ดังสมใจ+อนาคตดับ

ทั้งดัง-ทั้งดับครับ

ผมว่าชักปืนมาข่มขู่ เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุมาก

อารมณ์มาเต็ม แรงดีจริงๆๆ

คิดสั้นจริงๆ สงสัยขอ 3 แสนจะมาดาว ES แน่เลย

ใหญ่ คับ ฟ้า

เกินกว่าเหตุ เวลาจับคนร้าย ขอให้เก่งแบบนี้นะ

ได้คืบ จะเอาศอก แย่จริง ๆ ทางศูยน์เค้ารับผิดชอบนะแต่เกิดกว่าเหตุจริงๆ

นี่เค้าจะทำหน้าที่ผู้พิทักสันติราษอยู่ป่าวครับหรือหน้าที่ตำรวจทุกวันนี้คือรังแกประชาชน อย่าลืมครับคุณคือผู้รักษากฎหมายครับไม่ใช่มีกฎหมายอยู่ในมือแล้วจะทำไรก็ได้

 อารมณ์แท้ๆ

คิดว่าเค้าจะยอมง่ายๆ เนอะ สุดท้ายความคิดก็ดิ่งลงเหว

ก็เข้าใจนะว่าซ่อมรถแล้วมันไม่เนียนเหมือนเดิม ยิงรถสีขาวเนี่ยเทียบสียาก แต่พี่แกก็ทำเกินไป ชักปืนขู่แบบนี้ !!! แถมยังเีรียกร้องค่าเสียหายซะเวอร์เลยอ่ะ ผู้บังคับบัญชานำตัวไปอบรมด่วนเลยครับท่าน