ตอบ
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:18 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
1.
(ผิด) สตาร์ทแล้วออกรถได้เลยไม่ต้องอุ่นเครื่อง
[b](ถูก) อุ่นเครื่องยนต์สักหน่อยก่อนออกรถจะดีกว่า [/b]
[b] เมื่อเครื่องยนต์ทำงานขณะที่ยังเย็นอยู่ เช่น ขณะออกรถจากบ้านไปทำงานตอนเช้า หรือติดเครื่องยนต์ เมื่องานเลิกเพื่อกลับบ้านไอของเชื้อเพลิงที่เข้มข้นจะเกาะผนังกระบอกสูบ และละลายปนกับฟิล์มน้ำ มันเครื่องที่ฉาบผนังอยู่ทำให้การหล่อลื่นแหวนลูกสูบกับผนังกระบอกสูบไม่เพียง พอ สร้างความสึกหรอกในเครื่องยนต์มากกว่าปกติ

นอกจากนี้ทั้งเชื้อเพลิงที่ระเหยไม่หมดและไอน้ำที่เกิดจากการเผาไหม้ขณะเครื่อง ยังเย็นนี้ ยังละลายปนอยู่ในน้ำมันเครื่อง ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้นอีกด้วย
[/b]
ได้รับคำขอบคุณจาก: mugen  lordpark  Eakonava  tonkla  spyhard007  Zenkii  Cra2yLov3  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:20 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
2.
(ผิด) รถใหม่สมัยนี้ ไม่ต้อง รันอิน
(ถูก) รถใหม่ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ต้องรันอิน
รถรุ่นใหม่ๆ แม้จะมีการควบคุมคุณภาพอย่างดีแล้วก็ตามแต่เครื่องยนต์ใหม่ควรต้อง ผ่านการรันอิน และ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสักครั้งก่อนที่จะใช้งานอย่างเต็มที่ เพราะเศษโลหะที่ตกค้างอยู่ในระบบจะได้ถูกชะล้างออกไป

การรันอินนั้นทำได้ไม่ยาก โดยในช่วง 1,000 กม. แรก ไม่เร่งเครื่องยนต์อย่างรุนแรง หรือใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงมาก ๆ ถ้าใช้รอบเครื่องไม่เกิน 3,000 รตน.(รอบต่อนาที) ได้ก็จะดีและเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะที่ผู้ผลิตกำหนด พูดถึงเรื่องนี้เคยมีผู้ใช้รถบางคนไม่นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็ค โดยให้เหตุผลว่า เสียเวลา เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทำที่ไหนก็ได้อย่างนี้ น่าเสียดาย แทนจริง ๆเพราะถ้าเกิดความเสียหายกับเครื่องยนต์จะเรียกร้องเอากับใคร
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:22 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
3
(ผิด) ยกขาก้านปัดน้ำฝนขณะจอดรถช่วยยืดอายุใบปัด
(ถูก) สปริงในก้านที่ปัดน้ำฝนจะอ่อน และเสียเร็วขึ้น

ส่วนสำคัญที่ทำให้ที่ปัดน้ำฝนทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพประกอบด้วยใบปัด แผ่นยางซึ่งทำหน้าที่รีดน้ำจากกระจกบังลมหน้า ปกติจะมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี หากใช้นานกว่านั้นเนื้อยางจะแข็งตัวหรือมีการฉีกขาด ไม่ว่าจะยกไว้หรือไม่ก็ตาม

อีกส่วนคือ ก้านใบปัด ที่มีสปริงคอยดึงให้ใบปัดแนบสนิทกับกระจก ซึ่งรับแรงจากคันโยก และมอเตอร์ ตัวนี้มีราคาสูงกว่าใบปัด การยกก้านเมื่อจอดตากแดด สปริงจะถูกดึงให้ยืดออกตลอดเวลาอายุการใช้งานสั้นลง ทำให้ต้องจ่ายแพงกว่าเดิมหลายเท่าถ้าต้องเปลี่ยนทั้งชุด
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:24 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
4
(ผิด) รถติดไฟแดงคาเกียร์ D ไว้ดีกว่าเปลี่ยนเกียร์ว่าง
(ถูก) หยุดรถก็โอเค แต่ถ้าติดไฟแดงนานก็ต้องระวังชนคันหน้า
[b]ในกรณีรถติดไฟแดง ผู้ขับรถที่ใช้เกียร์ธรรมดาจะปลดเกียร์ว่างและเหยียบเบรค ป้องกันรถไหล คงจะไม่มีใครเหยียบคลัทช์ และเบรค ใส่เกียร์คาไว้ให้เมื่อยขา ขณะที่ผู้ขับรถเกียร์อัตโนมัติ กลับมาพฤติกรรมที่แตกต่างกัน กลุ่มแรก เหยียบเบรคโดยคาเกียร์ไว้ที่ตำแหน่ง D กลุ่มที่ 2 เบรคเหมือนกัน แต่เลื่อนตำแหน่งคันเกียร์มาที่เกียร์ว่าง N กลุ่มสุดท้าย ดัดคันเกียร์มาอยู่ที่ P ไม่เหยียบเบรค

ถ้าติดไฟแดงนาน ๆ กลุ่มแรก ต้องระวังมากที่สุดเพราะถ้าขยับตัวแล้วเท้าหลุดจากแป้นเบรค รถอาจพุ่งไปชนคันหน้า กลุ่มที่ 2 เบาหน่อยแค่เมื่อย ส่วนกลุ่มสุดท้ายสบายใจได้แต่อาจจะไม่สะดวกกับการใช้งาน วิธีดีที่สุด คือ เกียร์ว่าง และดึงเบรคมือ
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:25 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
5
(ผิด) ฝนตกขับ 4 ล้อเกาะกว่า…2 ล้อ
(ถูก) อย่าใช้ระบบขับเคลื่อนผิดประเภท จะได้ไม่ต้องเสียใจ

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อนั้นอาจจะช่วยให้รถเกาะถนนมากกว่าระบบขับเคลื่อน 2 ล้อแต่ สำหรับรถที่ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบพาร์ทไทม์หรือ ตามต้องการ ในรถพิคอัพหรือพีพีวีที่มีชุดส่งกำลังแยกเพื่อส่ง กำลังไปยังล้อหน้า กำลังจากล้อหลังจะถูกแบ่งมายังล้อหน้า อาการท้ายปัดหรือล้อหลังฟรีก็จะน้อยลง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกาะถนนดี เมื่อต้องเลี้ยวในความเร็วสูง ล้อหน้าที่ถูกล็อคให้หมุนจะเลี้ยวได้น้อยลง ทำให้ต้องใช้วงเลี้ยวที่กว้างขึ้นจึงมีรถประเภทนี้หลุดโค้งให้เห็นกันเป็นประจำ

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบพาร์ทไทม์มีไว้เพื่อช่วยให้รถสามารถผ่านทางทุรกันดารได้ ง่ายขึ้น ต่างกับพวกที่เป็นฟูลล์ไทม์หรือ ตลอดเวลา ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการยึดเกาะถนน
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:26 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
6
(ผิด) เดินทางไกลลมยางอ่อนดี
(ถูก) ลมน้อย ยางมีโอกาสระเบิด
คู่มือการใช้และดูแลรักษายางรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นค่ายไหนก็แนะนำตรงกันว่าผู้ใช้รถควรเติมลมยางตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนดไว้ และให้เพิ่มแรงดันลมยางให้สูงขึ้นอีก 2-3 ปอนด์ เมื่อต้องเดินทางไกล

ลมยางที่อ่อนกว่ามาตรฐานกำหนด นอกจากจะทำให้ยางด้านนอกสึกมากกว่าด้านในแล้วยังอาจส่งผลเสียกับโครงสร้างยางได้ มีโอกาสเกิด ยางระเบิดมากกว่าหรือใกล้เคียงกับยางที่มีแรงดันลมยางเกินกำหนด เพราะอุณหภูมิความร้อนที่เกิดจากการเสียดสีของหน้ายางและฉีกขาดได้ง่าย
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:28 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
7
(ผิด) ตั้งศูนย์ล้อหน้าอย่างเดียวก็พอ
(ถูก) ทุกล้อมีความสำคัญ ตั้งศูนย์ล้อควรทำทั้ง 4 ล้อ
เชื่อหรือไม่ว่า ศูนย์ล้อหลังมีความสำคัญพอ ๆ กับศูนย์ล้อหน้า หรืออาจจะมากกว่า เพราะมุมที่ล้อหลังเอียงไปเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้รถเสียสมดุลเมื่อเบรคหรือเลี้ยวและทำให้รถเลี้ยวไปมากกว่าที่คิด

รถยนต์ส่วนใหญ่จะปรับตั้งศูนย์ล้อได้หน้า/หลัง ยกเว้นรถขับเคลื่อนหน้าบางรุ่นที่ปรับได้แต่เฉพาะล้อหน้าเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถตั้งศูนย์ล้อหลัง ก็ต้องทำใจ
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:30 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
8
(ผิด) เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินข้ามแยก
(ถูก) เวลาข้ามแยก รอให้รถว่าง และไม่เปิดไฟฉุกเฉิน
ถ้าคุณเปิดไฟฉุกเฉิน รถทั้งด้านซ้าย/ขวา ต่างก็จะเห็นสัญญาณไฟเลี้ยวเพียงด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น รถทางขวาอาจจะจอดให้ไป แต่สำหรับทางซ้ายอาจคิดว่าคุณจะเลี้ยวซ้ายจึงไม่หยุดให้อุบัติเหตุจึงเกิดขึ้นด้วยความเข้าใจผิด จากการใช้สัญญาณไฟแบบผิดที่ผิดทาง
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:31 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
9
(ผิด) ฝนตกหนัก หรือหมอกลงจัดต้องเปิดไฟฉุกเฉิน
(ถูก) อาจสร้างความสับสนให้ผู้ร่วมทาง ไฟฉุกเฉินใช้เวลาจอดฉุกเฉิน
ในสภาพอากาศที่ไม่ดี และทัศนวิสัยแย่มาก จนมองแทบไม่เห็นรถคันหน้าการชะลอความเร็ว เปิดไฟหน้าและทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้น เป็นสิ่งที่ควรทำ

แต่การใช้สัญญาณไฟฉุกเฉิน ทำให้รถที่วิ่งสวนทางมาเข้าใจผิดคิดว่ามีรถจอดเสียอยู่ทางซ้ายริมถนน และหักหลบไปทางขวา ซึ่งเป็นไหล่ทาง กว่าจะเห็นอาจจะสายเกินไปไม่ลงไปข้างทางก็อาจพุ่งข้ามช่องทางมาชน หรือถ้าหยุดรถก็ขวางทาง และเกิดอุบัติเหตุ

การใช้สัญญาณไฟฉุกเฉิน หรือไฟผ่าหมาก ควรใช้เฉพาะเวลาที่รถเสียและต้องจอดอยู่ริมถนน เพื่อบอกให้เพื่อนร่วมทางที่สัญจรผ่านไปมา ใช้ความระมัดระวัง
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:32 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
10
(ผิด) ผ้าเบรคแข็ง หรือ ผ้าเบรคเนื้อแข็ง ไม่ดี
(ถูก) ไม่แน่เสมอไป ขึ้นอยู่กับความต้องการ
ความเข้าใจผิด ๆ เรื่อง ผ้าเบรค ที่ว่าผ้าเบรคอ่อนดีกว่าแข็งเกิดจากบรรดาช่างซ่อมรถที่ไม่ได้อธิบายให้เจ้าของรถเข้าใจ

การผสมเนื้อผ้าเบรคให้ใช้งานได้ดี เป็นศาสตร์ชั้นสูง ใช้วัสดุนานาชนิดและมีส่วนที่แตกต่างกัน ซึ่งจะมีผลต่อคุณสมบัติของผ้าเบรค และมักจะขัดแย้งกันเองถ้าเน้นข้อดีข้อใดขึ้นมาก็มักจะมีข้ออื่นด้อยลงไป เช่น การใช้ส่วนผสมที่เบรคหยุดดี ก็จะกินเนื้อจานเบรคมาก หรือร้อนจัด หรือไม่เนื้อผ้าเบรคก็สึกเร็ว พอทำให้สึกช้า ก็แข็ง เบรคไม่ค่อยอยู่ หรือมีเสียงรบกวน ส่วนผ้าเบรคเนื้ออ่อนที่มีจุดเด่นเรื่องไม่กัดกินเนื้อจานเบรค
ได้รับคำขอบคุณจาก: tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:33 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
11
(ผิด) เอนนอนขับแบบนักแข่ง…สบายที่สุด
(ถูก) อย่าปรับเบาะเอนมาก จะได้ไม่เมื่อย
ท่าขับแบบนักแข่งตัวจริง ต่างกับการปรับเบาะเอนนอนขับมากการนั่งท่านี้จะรู้สึกว่าจะหลุดจากเบาะนั่ง ทุกครั้งที่เบรคแรง ๆ แขนที่เหยียดตึงตลาดเวลานอกจากจะทำให้เมื่อยล้า ยังต้องยกตัวขึ้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลี้ยวเพราะไม่มีแรงหมุนพวงมาลัย และมองทางข้างหน้าไม่เห็นเช่นเดียวกับเวลาถอยหลังจอด สาย เข็มขัดนิรภัยที่อยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าการนั่งขับแบบปกติอาจจะรั้งคอแทนที่จะเป็นไหล่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ

ท่านั่งที่ถูก ต้องเอาหลังพิงพนักจนสนิทแล้วเหยียดแขนข้างใดข้างหนึ่งไปวางบนส่วนบนสุดของพวงมาลัย แล้วตรงกับข้อมือ ขาต้องสามารถเหยียบแป้นคลัทช์จนจมโดยไม่ต้องเหยียดข้อเท้าสุดแบบนักบัลเลท์ส่วนต้าของขาอ่อนดันกับเบาะนั่งส่วนหน้า
จนรู้สึกว่าน้ำหนักตัวที่ลงตรงสะโพกพอดี และยังสัมผัสกับพนักพิง
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:35 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
12
(ผิด) นั่งชิดพวงมาลัยเพื่อให้มองเห็นหน้ารถ
(ถูก) อันตราย ตัวอาจกระแทกกับพวงมาลัยบาดเจ็บ
ผู้ที่นั่งใกล้พวงมาลัยเกินไป มักเป็นผู้ที่ไม่ค่อยให้ความสนใจกับเรื่องความปลอดภัยในการขับรถ และได้รับ การสอนท่านั่งมาแบบผิด ๆ ลำตัวที่อยู่ชิดกับพวงมาลัย นอกจากจะทำให้หมุนพวงมาลัยไม่ถนัดเพราะแขนงอมากเกินไป ยังเพิ่มความเสี่ยงให้แกตัวผู้ขับ ที่อาจจะบาดเจ็บจากการที่ลำตัวกระแทกกับพวงมาลัย และแรงระเบิดจากถุงลมนิรภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:36 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
13
(ผิด) สอดมือหมุนพวงมาลัยถนัด เบาแรง และปลอดภัย
(ถูก) ไม่ถนัดจริง และอันตราย ไม่ควรทำ

การหงายมือล้วงหรือสอดมือจับพวงมาลัย เพื่อเลี้ยวรถเป็นการออกแรงดึงเข้าหาตัว จึงทำให้รู้สึกว่าออก แรงน้อยกว่าการจับแบบคว่ำมือหมุน แต่การทำแบบนั้นมี อันตราย มาก ถ้าหากล้อหน้าเกิดสะดุดก้อนหิน และเกิดมือหลุดจากพวงมาลัย
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:38 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
14
(ผิด) เกียร์ ซีวีที ขับยากและกินน้ำมันกว่าเกียร์ทั่วไป
(ถูก) ขับง่ายและประหยัดน้ำมันกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไป
การไม่สามารถเข้าใจเหตุผล ก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ ผู้ที่ขับรถใช้เกียร์ซีวีที บอกว่าขับแล้วรู้สึกเหมือนขับรถที่เกียร์ หรือระบบขับเคลื่อน มีปัญหา ให้ความรู้สึกที่ไม่ดีโดยเฉพาะตอนที่ ขับด้วยความเร็วคงที่แล้วกดคันเร่งเพิ่ม เกียร์จะเลือกอัตราทดที่เหมาะ ทำให้ความเร็วเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น ทันที แต่ความเร็วรถยังเท่าเดิม ให้ความรู้สึกเหมือนรถคลัทช์ลื่น

การขับแบบประหยัดเชื้อเพลิง ให้เหยียบคันเร่งไม่ลึกนักขณะออกรถและรักษาระยะที่เหยียบไว้ ช่วงแรก เครื่องยนต์จะส่งกำลังผ่านทอร์คคอนเวอร์เตอร์ พอล้อรถหมุนเร็วพอสมควรและไม่ต้องการความช่วย เหลือจากทอร์คคอนเวอร์เตอร์แล้วระบบต่อตรงส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังจานทรงกรวย ตัวขับก็จะทำงาน จากนั้นระบบควบคุมจะลดระยะห่างของจานทรงกรวยคู่ที่เป็นตัวขับเป็นการลดอัตราทด เพื่อเพิ่มความเร็วรถ โดยที่ความเร็วของเครื่องยนต์ค่อนข้างคงที่ ยกตัวอย่างเช่นประมาณ1,800 รตน.
ความเร็วจะเพิ่มขึ้นตาม ส่วนเดียวกับที่อัตราทดของเกียร์ลดลงจะได้ความเร็วประมาณ 60-70 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดของการเหยียบคันเร่งของเราเท่านี้เยี่ยมไหมครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:41 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
15
(ผิด) ต้องเปลี่ยนไส้กรองทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
(ถูก) ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกครั้ง แต่ถ้าเปลี่ยนได้ก็ดี
ผู้ผลิตรถยนต์จากยุโรป แนะนำให้เปลี่ยนพร้อมกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกครั้ง แต่โรงงานผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อย แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรอง หรือหม้อกรองทุก ๆครั้งที่ 2 ของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

ถ้าคำนึงถึงคุณภาพของน้ำมันเครื่องยุคปัจจุบันแล้ว น้ำมันเครื่องหมดอายุแล้วในหม้อกรองน้ำมันเครื่องจำนวนหนึ่งปนเปื้อนไม่ถึงกับให้โทษในด้านการหล่อลื่นหรือทำความสะอาดภายใน เครื่องยนต์ แต่เมื่อคำนึงถึงราคาหม้อกรอง หรือไส้กรอง ซึ่งถูกกว่าราคาน้ำมันเครื่องแล้วควรเปลี่ยนทุกครั้งเพื่อให้น้ำมันเครื่อง สะอาดที่สุด และทำหน้าที่รักษาเครื่องยนต์ของเราจะดีกว่า
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:42 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
16
(ผิด) ควรเติม หัวเชื้อน้ำมันเครื่องเพื่อถนอมเครื่องยนต์
(ถูก) อาจจะหนืดไป แค่ใช้น้ำมันเครื่องดี มีคุณภาพ ก็เพียงพอแล้ว
เราแบ่งหัวเชื้อน้ำมันเครื่องได้เป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของน้ำมันเครื่อง และประเภทที่ช่วยเพิ่มความหนืดของน้ำมันเครื่องน้ำมันเครื่องคุณภาพสูงในปัจจุบันมีส่วนผสมของสารต่าง ๆ อยู่ในปริมาณและ ส่วนที่เหมาะสมจึงไม่ควรใส่สารอื่นเข้าไปทำลายส่วนสารเคมีเหล่านี้ให้เสียสมดุลและกลับให้โทษแก่เครื่องยนต์ประเภทแรกจึงไม่จำเป็น

ส่วนหัวเชื้อน้ำมันเครื่องที่ช่วยเพิ่มความหนืดอาจช่วยลดความสิ้นเปลือง น้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์ที่หมดสภาพแล้วได้บ้าง แต่เมื่อคำนึงถึงราคาแล้ว ก็ไม่น่าจะช่วยประหยัดได้และเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุด้วย วิธีที่ถูกต้องคือ การซ่อมใหญ่ หรือ โอเวอร์ฮอล เพื่อให้เครื่องยนต์กลับคืนสู่สภาพดีปกติ
ได้รับคำขอบคุณจาก: tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:44 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
17
(ผิด) เติมน้ำมันเครื่องคุณภาพสูงปนกับน้ำมันเครื่องทั่วไปจะได้คุณสมบัติที่ดีขึ้น
(ถูก) การผสมไม่ได้ช่วยให้คุณภาพดีขึ้นใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพมาตรฐานจะดีกว่า
การนำน้ำมันเครื่องคุณภาพสูงสุดสักครึ่งลิตรมาผสมกับน้ำมันเครื่องคุณภาพ ปานกลาง ก็ไม่สามารถเพิ่มคุณภาพขึ้นมาได้ เอาเงินส่วนนี้ไปทำประโยชน์ส่วนอื่นจะดีกว่าเช่นเดียวกับการเอาน้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำมาเติมผสมลงไปในน้ำมันเครื่องชั้น ดีราคาสูงซึ่งจะทำให้ส่วนผสมของสารเพิ่มคุณภาพในน้ำมันเครื่องเสียสมดุลไป เท่ากับน้ำมันเครื่องทั้งหมดคุณภาพต่ำไป

การเติมน้ำมันเครื่องใหม่เมื่อน้ำมันเครื่องเดิมใกล้จะถึงกำหนดเปลี่ยนถ่าย นั้นก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเพราะไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไปเพื่อแลกกับการใช้ งานเพียงระยะสั้นทางที่ดีเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดเลยจะคุ้มกว่า
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:45 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
18
(ผิด) ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่ทุก ๆ 5,000 กม
(ถูก) ขึ้นอยู่กับคุณภาพน้ำมันเครื่องและความต้องการของเครื่องยนต์
ผู้ผลิตรถยนต์แต่ละรายกำหนดมาตรฐานคุณภาพของน้ำมันเครื่องที่เครื่องยนต์แต่ ละรุ่นต้องการใช้ อยู่ในคู่มือประจำรถ และกำหนดระยะเวลาการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไว้แตกต่างกันด้วย รถยนต์ของค่ายญี่ปุ่น จะมีกำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เช่น ทุก ๆ 5,000 กม. และ 10,000 กม. ส่วนรถค่ายยุโรปส่วนใหญ่ที่เครื่องยนต์ใหญ่ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำและมาตรฐานคุณภาพของน้ำมันเครื่องไว้สูง เช่น ระดับ SJ สำหรับเครื่องยนต์เบนซินจะกำหนดระยะทางถึง 15,000 กม. หรือมากกว่านั้น

ปัจจุบันกำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่มีระยะมากที่สุด เป็นของรถเปอโยต์ คือ ทุก ๆ 30,000 กม. แต่อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนก่อนเวลาก็ไม่ได้ทำให้เสียหายเพียงแต่เปลืองเงินกว่าที่ควร เท่านั้นเอง

ถ้าใช้น้ำมันเครื่อง ธรรมดา คุณภาพสูง แล้วใช้งานหนักมาก เปลี่ยนทุก 5,000 กม. ถ้าใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% เปลี่ยนทุก 10,000 กม. หากใช้งานเบากว่านี้เพิ่มระยะทางได้ตามความเหมาะสม
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:46 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
19
(ผิด) ดีเซลมีระยะการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเท่ากับเบนซิน
(ถูก) อุณหภูมิภายในไม่เท่ากัน อายุการใช้งานก็ต่างกันด้วย
การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซล ก่อให้เกิดเขม่ามากกว่าในเครื่องยนต์เบนซินผงเขม่าขนาดเล็กสามารถลอดผ่านกระดาษกรองของหม้อกรองน้ำมันเครื่องได้เมื่อสะสมแขวนลอยอยู่ในน้ำมันเครื่องมากขึ้น จะทำให้น้ำมันเครื่องมีค่าความหนืดสูงขึ้น คุณสมบัติในการหล่อลื่นจึงลดลง

เครื่องยนต์ดีเซลระบบฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้ หรือไดเรคท์อินเจคชันยุคใหม่มีเขม่าน้อยกว่าแบบพรีแชมเบอร์มาก กำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์แบบนี้ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์เบนซิน
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  tonkla  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
jjim


ชื่อเล่น: จิ้ม

เข้าร่วม: 12 พฤศจิกา 2008
ตอบ: 1016

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1082
ให้คำขอบคุณ: 155

ที่อยู่: Chachoengsao
ปี: 2005
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:47 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
*-*
ได้รับคำขอบคุณจาก: bigbom  tonkla 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:49 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
20
(ผิด) น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% คุ้มกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา
(ถูก) ราคาแพงกว่าใช้ได้นานกว่า แต่จะคุ้มหรือไม่อยู่ที่ใจ
จุดเด่นแรกของน้ำมันเครื่องสังเคราะห์อยู่ที่ค่าความหนืดต่ำที่อุณหภูมิต่ำจึง ไหลไปหล่อลื่นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เริ่มติดเครื่องยนต์ในสภาพเย็นจัด เช่น ต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสซึ่งสภาวะเช่นนี้ไม่มีในประเทศไทย

ข้อดีประการที่ 2 คือทนต่อความร้อนสูงที่ผนังกระบอกสูบได้ดีกว่าจึงมีอัตราการระเหยเป็นไอได้น้อยกว่าน้ำมันเครื่อง ธรรมดา อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเครื่องน้อย

จุดเด่นอีกข้อของน้ำมันเครื่อง สังเคราะห์ คือ การมีค่าดัชนีความหนืดสูงจึงไม่ใส เกินไปเมื่อถูกความร้อนจัดน้ำมันเครื่องสังเคราะห์จึงมีสารปรับดัชนีความหนืดผสมอยู่ในอัตราที่น้อยกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา

เนื่องจากสารปรับดัชนีความหนืดนี้เสื่อมสภาพได้ง่ายตามอายุใช้งานยาวนานกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดามาก เมื่อเปรียบเทียบราคาน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% กับราคาน้ำมันเครื่องธรรมดา ระดับคุณภาพสูง สุดน้ำมันเครื่องสังเคราะห์จะมีราคาสูงกว่าราว 2 ถึง 4 เท่าจึงไม่สามารถกล่าวได้ว่า คุ้มกว่าน้ำมัน เครื่องธรรมดา ยกเว้นพวกชอบใช้ของแพง ได้จ่ายเงินมากแล้วมีความสุข ผู้ที่ต้องการถนอมให้เครื่องยนต์สึกหรอน้อยที่สุด โดยไม่คำนึงถึงราคาว่าคุ้มหรือไม่ น้ำมันเครื่องมาตรฐานที่ผู้ผลิตกำหนดน่าจะเป็นน้ำมันเครื่องที่ใช้ได้คุ้มค่าและ เพียงพอกับความต้องการแล้ว
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:50 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
21
(ผิด) ใช้น้ำมันเครื่องราคาถูกแต่เปลี่ยนบ่อย ๆ ช่วยถนอมเครื่องยนต์
(ถูก) ถ้าเจอน้ำมันเครื่องปลอม ไม่มีคุณภาพ อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหาย
ไม่ควรนำน้ำมันเครื่องราคาถูกมาเปลี่ยนบ่อย ๆ เช่น ทุก 3,000 หรือ 4,000 กม. แทนน้ำมันเครื่องมาตรฐานที่ผู้ผลิตกำหนด เพราะในประเทศเราที่ไม่มีหน่วยงานควบคุม และตรวจสอบคุณภาพของน้ำมันเครื่องอยู่เลย แม้น้ำมันเครื่องระดับคุณภาพสูงที่เราซื้อมา ก็อาจเป็นของปลอมที่กรองและฟอกสีมาจากกากน้ำมันเครื่องใช้แล้วก็ได้

วิธีถนอมเครื่องยนต์ที่ดีที่สุด คือ เลือกใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพสูงสุดก่อนอื่นต้องเลือก ยี่ห้อ และสถานที่ จำหน่ายที่น่าไว้วางใจได้ เลือกระดับคุณภาพ แล้วจึงดูระดับความหนืด หรือความข้นของน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับอุณหภูมิเฉลี่ยของเมืองไทย เช่น 10W-40/15W-40/15W-50 หรือ 20W-50

ระดับคุณภาพที่รู้จักกันแพร่หลายใ นประเทศไทย คือ ระดับคุณภาพตามมาตรฐานของ API (American Petroleum Institute) ถ้าเป็นรถใช้เครื่องยนต์เบนซินควรใช้น้ำมันเครื่อง ระดับคุณภาพ SJ หรือ อย่างน้อย SH ถ้าเป็นรถใช้เครื่องยนต์ดีเซล ควรเลือกระดับ CG-4 หรืออย่างน้อย CF-4
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:52 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
22
(ผิด) แบทเตอรี่ลูกใหญ่ สตาร์ทติดง่าย
(ถูก) แบทเตอรี่ขนาดไหนก็ใช้ไฟเท่าเดิม
การใช้แบทเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ขณะที่องค์ประกอบอื่น ๆ ทั้งเครื่องยนต์ไดสตาร์ท และไดชาร์จ ยังมีขนาดเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากจะเป็นความสิ้นเปลืองที่เกินกว่าความจำ เป็น เพราะความต้องการไฟในการสตาร์ทเครื่องยนต์ยังเท่าเดิมแล้ว ยังอาจส่งผลเสียกับไดชาร์จในอนาคต

แบทเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่มากเกินไป ไม่เพียงต้องทำให้เจ้าของรถต้องดัดแปลงแท่นวางแบทเตอรี่ใหม่เท่านั้น ยังอาจส่งผลให้ไดชาร์จทำงานเต็มกำลังตลอดเวลา เพื่อบรรจุไฟเข้าไปเก็บในแบทเตอรี่ ซึ่งจะหยุดก็ต่อเมื่อไฟเต็มแบตเตอรี่ ในปัจจุบันแม้มีขนาดที่เล็กแต่ก็ใช้งานได้ดีไม่แพ้แบทเตอรี่ลูกใหญ่
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:53 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
23
(ผิด) ปิดพัดลมแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์ จะใช้ให้แอร์ไม่เสียเร็ว
(ถูก) ควรปิดคอมเพรสเซอร์แอร์ ก่อนดับเครื่อง ช่วยยืดอายุตู้แอร์
ระบบทำความเย็นทั้งภายในรถและอาคาร อาศัยหลักการถ่ายเทความเย็นและระบายความร้อน ซึ่งตู้แอร์ หรือคอยล์เย็น จะมีสารทำความเย็นบรรจุอยู่ภายในโดยมีพัดลมทำหน้าที่เป่าลมการปิดพัดลมก่อนดับเครื่อง ความเย็นยังคงอยู่ภายในระบบ ตู้แอร์จึงชื้น และกลายเป็นที่สะสมฝุ่นละออง ซึ่งจะทำให้ลมผ่านได้ไม่สะดวก เกิดการอุดตัว และตู้รั่ว

การเปิดคอมเพรสเซอร์ หรือปิดสวิทช์ AC ก่อนดับเครื่องยนต์อย่างน้อย 5-10 นาที จะช่วยไล่ความชื้น ในตู้แอร์ ไม่เป็นที่สะสมฝุ่น นอกจากจะช่วยยืดอายุตู้แอร์ ยังช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ที่มักเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับความชื้นอีกด้วย
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  Cra2yLov3  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:54 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
24
(ผิด) แก็สโซฮอล์สิ้นเปลืองกว่าเบนซิน 95 เพราะระเหยได้ง่ายกว่า
(ถูก) แอลกอฮอลล์มีควาามหนาแน่นของพลังงานต่ำกว่าของเบนซิน
การที่แก็สโซฮอล์สิ้นเปลืองกว่าเพราะแอลกอฮอล์มีพลังงานสะสมในตัวมันน้อยกว่า เมื่อเทียบมวลเท่ากัน เช่น มีพลังงานกี่กิโลแคลอรี่ต่อมวลหนึ่งกิโลกรัมเท่ากัน หรือกล่าวได้ว่าแอลกอฮอล์มีความหนาแน่นของพลังงาน หรือค่าความร้อน (Heating Value) ต่ำกว่าของเบนซิน เกี่ยวกับการระเหยง่ายอย่างที่หลายคนคิด

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ น้ำมันเบนซินซึ่งระเหยง่ายมากและน้ำมันดีเซลซึ่งระเหยยากมาก แต่มีความหนาแน่นของพลังงานหรือค่าความร้อนพอ ๆ กันและมากกว่าของแอลกอฮอล์ประมาณเท่าตัว
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:55 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
25
(ผิด) ไส้กรองอากาศไม่ต้องเปลี่ยน แค่เป่าลมก็ใช้ได้
(ถูก) เปลี่ยนใหม่ดีกว่า ช่วยประหยัดค่าน้ำมันอีกด้วย
การใช้ลมเป่าไส้กรองอากาศที่นิยมทำกัน เมื่อมีฝุ่นติดเต็มจนมองไม่เห็นสีเดิม วิธีนี้ช่วยให้ฝุ่นละอองเบา บางลง อากาศไหลผ่านได้ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าเป่าแรงเกินไปแผ่นกรองอาจเสียหายจนใช้ งานต่อไม่ได้ เพราะมีรูกว้างจนฝุ่นขนาดใหญ่สามารถผ่านเข้าไปได้ คิดแล้วไม่คุ้ม ยอมจ่ายเงินซื้อของใหม่มาใส่จะคุ้มกว่า การล้างคาร์บูเรเตอร์หรือหัวฉีด แถมยังประหยัด ค่าน้ำมันทางอ้อมอีกด้วย
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:56 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
26
(ผิด) เปลี่ยนกรองเปลือย และหัวเทียน ทำให้รถแรงขึ้น
(ถูก) ช่วยอะไรไม่ได้มาก ไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไป
การเปลี่ยนกรองอากาศมาเป็นแบบกรองเปลือยที่ไม่มีกล่องป้องกันฝุ่นและท่อนำอากาศอาจจะช่วยให้อากาศเข้าได้สะดวกขึ้นแต่ความหนาแน่นของมวลอากาศน้อยลงเพราะอุณหภูมิความร้อน ภายในห้องเครื่องยนต์ ซึ่งปริมาณอากาศกับห้องเผาไหม้เท่าเดิมจึงให้กำลังตกลงเมื่อเครื่องร้อน อีกทั้งมีฝุ่นละอองมากทำให้ต้องล้างหรือทำความสะอาดบ่อย ๆ

การใช้หัวเทียนใหม่ช่วยให้การจุดระเบิดสมบูรณ์ แต่ไม่ได้เพิ่มกำลังเครื่องยนต์ ให้สูงกว่ามาตรฐานผู้ผลิตรถยนต์ได้กำหนดไว้
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 01:58 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
27
(ผิด) รถที่ใช้จานเบรค 4 ล้อปลอดภัยกว่ารถที่ใช้ดุมเบรคหลัง
(ถูก) ไม่แน่ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของการใช้งาน
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าจานเบรคใช้ได้ดีกับรถทุกรุ่นทุกขนาดแม้ว่าคุณสมบัติที่ดี ของจานเบรคคือ ระบายความร้อนได้เร็ว
ส่วนใหญ่ผู้ผลิตรถจึงใช้กับล้อหน้าที่ผ้าเบรคจับตัวจานเบรคแทบ จะตลอดเวลา ดุมเบรคที่ระบายความร้อนได้ช้ากว่าเพราะมีฝาครอบ แต่มีพื้นที่สัมผัสมากกว่าจานเบรคและไม่ มีปัญหาเบรคล็อคเหมือนจานเบรคใช้ในล ้อหลัง รถที่ใช้งานแบบทั่วไป
รวมทั้งรถที่มีระบบเอบีเอส ซึ่งวิศวกรผู้ผลิตรถยนต์จะเลือกใช้จานเบรคตามความเหมาะสม

การที่เจ้าของรถนำรถไปดัดแปลงใช้จานเบรคในล้อหลัง ต้องระวังเพราะหากล้อหลังหยุดก่อนล้อหน้าอาจทำให้รถหมุนได้
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 02:00 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
28
(ผิด) เติมน้ำยาหล่อเย็นจะทำให้หม้อน้ำรั่ว
(ถูก) น้ำยาเติมหม้อน้ำช่วยลดตะกอนและควบคุมอุณหภูมิ

น้ำยาเติมหม้อ หรือน้ำยาหล่อเย็น (Coolant)ถูกมองว่าเป็นตัวการทำให้หม้อน้ำและปั๊มน้ำรั่วอยู่เสมอนั่นก็เพราะผู้ใช้รถจะพบปัญหาเหล่านี้หลังจากที่ได้เติมน้ำยาหล่อเย็นซึ่งในความเป็นจริงเกิดจากระบบหล่อเย็นของรถขาดการบำรุงรักษามาเป็นเวลานาน หรือใช้น้ำที่มีค่าเป็นกรดเป็นด่างมากเกินไป จนเกิดการผุกร่อน

ดังนั้นเราควรบำรุงรักษาหม้อน้ำด้วยการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาในระบบหล่อเย็นปีละครั้งรวมทั้งทำความสะอาดถังพักน้ำด้วย ส่วนการผสมน้ำยาหล่อเย็นควรทำตามอัตราส่วนที่ผู้ผลิตระบไว้
ได้รับคำขอบคุณจาก: Eakonava  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 20 มีนา 2012 02:01 - 29 เรื่อง เข้าใจผิดของคนใช้รถ
29
(ผิด) วางเท้าไว้บนแป้นคลัทช์ เพื่อใช้งานได้ทันทีที่ต้องการ
(ถูก) ยกเท้าออกจากคลัทช์ จะได้ไม่เปลืองผ้าคลัทช์

เรื่องนี้น่าจะเป็นความเคยของแต่ละบุคคล ไม่ใช่พฤติกรรมที่น่าเลียนแบบโดยปกตรถเกียร์ธรรมดา จะต้องคอยระวังเครื่องดับ เมื่อเหยียบเบรคแรง หรือหยุดรถหลายคนตึงไม่ยอมยกเท้าจากแป้นคลัทช์ทั้ง ๆ ที่เข้าเกียร์สุดท้ายไปนานแล้ว

การวางเท้าไว้บนแป้นคลัทช์ตลอดเวลาบางครั้งอาจจะเผลอทิ้งน้ำหนักลงไปที่เท้าจนคลัทช์ทำงาน ส่งผลกระทบโดยตรงกับผ้าคลัทช์ และหวีคลัทช์ จนถึงไฟร์วีล ทำให้สึกหรอมากกว่าที่ควรจะเป็น

เรื่องเหล่านี้ เป็นเพียงบางส่วนที่ผู้ใช้รถกระทำด้วยความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งถ้าสามารถแก้ไขได้ ก็จะช่วยประหยัดความสิ้นเปลือง และค่าใช้จ่ายได้มาก
ได้รับคำขอบคุณจาก: song  Eakonava  Cra2yLov3  satan1970  bomb3092 
ตอบ
หน้า 1 จาก 2
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2024 Civic ES Group. All rights reserved.